ได้มีโอกาสได้รู้จักกับพี่คนหนึ่งในเว็ปสีเทานี้คะ อายุเราห่างกัน20ปีได้คะ ตอนเเรกที่รู้จักกันเราก็ทานข้าวกินข้าวดูหนังกันตามปกติ ซึ่งเราก็พูดคุยและทำความรู้จักกันแต่คำถามที่เรา ถามพี่เขาไปคือ พี่เขามีครอบครัวไหม ซึ่งคำตอบเขาคือไม่มีคะ
ยอมรับว่าที่รู้จักกับพี่เขา พี่เขาก็ดูแลเราดีทุกอย่าง เข้ามาเติมเต็มในทุกๆเรื่องที่เราขาด ทั้งเรื่องกิน เรื่องเที่ยว และค่าใช้จ่าย เราไม่มีfacebookกันคะ มีแต่ไลน์ และตั้งแต่วันแรกที่เรามีไลน์กันเราพยายามเข้าไปดูโปรไฟล์พี่เขาแต่เขาปกปิดและไม่มีให้เรารับรู้อะไรเลย เราถามพี่เขาหลายครั้งว่าพี่เขามีเฟสบุคไหมพี่เขาบอกไม่มีคะ ซึ่งเราก็เชื่อและพยายามนำชื่อจริง นามกุล และเบอร์โทรพี่เขาไปเซิตหาในเฟสก็ไม่มีปรากฏขึ้นคะ ซึ่งเราก็เชื่อในระดับหนึ่งว่าพี่เขาไม่มีจริงๆอาจจะเพราะอายุมากคงไม่อยากเล่นมั้งเราแอบคิดเข้าข้างตัวเองคะ
ตลอดเวลาเรามีความสุขดีคะ พี่เขารู้จักบ้านเรา รู้จักกับคนในครอบครัว เราแต่เราไม่รู้จักบ้านไม่รู้จักคนในครอบครัวพี่เขารู้จักแค่เพื่อนที่เล่นกีฬากับพี่เขาและรู้จักเพื่อนเขาบางคนและรู้แค่ว่าบ้านอยู่แถวไหนแค่นั้นคะ เวลาพี่เขาไปไหนพี่เขาจะซื้อของมาฝากเราตลอด ทำดีดูแลเทคแคร์ดี จนเราดูไม่ออกว่ามีความผิดปกติอะไรซ่อนอยู่ เวลาแทบทุกๆๆอย่างที่เราคุยกันในไลน์หรือโทรคุยกันเราแทบจะมองไม่เห็นความผิดปกติอะไรเลยคะ เพราะเราคิดว่าเวลา24ชม ท่ี่มีนั้นเราก็เหมือนจะติดต่อคุยกันตลอด พี่เขาชอบมารับไปเที่ยวแทบทุกเสาร์อาทิตย์ เรามักถามพี่เขาว่าอยู่บ้านกับใคร พี่เขาจะบอกเราว่าอยู่กับ ป๊า และม๊า เราก็เชื่อจนสนิทใจ เวลาผ่านเลยล่วงมา1ปีครึ่ง พี่เขาไม่เคยบอกรักเราและเราก้ไม่เคยบอกรักพี่เขา แต่เรามีความรู้สึกดีๆให้กัน เรามีความผูกพันกับพี่เขามากขึ้นเรื่อยๆ อีกอย่างพี่เขาเป็นคนโลกส่วนตัวสูงและยึดความเป็นตัวเองเป็นอันดับแรกเราก็ไม่อะไรเพราะที่ผ่านมาเรามีความสุขดี
จนเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเราได้ไปเที่ยว ตปท ด้วยกัน ในตอนที่เรานั่งทานข้าวกันอยู่มีสายเรียกเข้าทางไลน์มาหาพี่เขาเราดันมองไปเห็นพอดีว่าเป็นผู้หญิง แต่พี่เขาไม่รับเราเลยถามว่าทำไมไม่รับเขาเลยบอกว่ารับไม่ได้ยังไม่ได้เปิดโรมมิ่งข้อมูลเลยถ้ารับแล้วน่าจะเสียตังค์หลายบาท เราเลยเงียบแต่ในใจมีคำถามมากมายนะว่าเขาคือใคร เขาโกหกอะไรเราอยู่ จนจบทริป กลับมาที่ไทย เราก็หยุดนิ่งไม่พูด เราเลยนำนามสกุลพี่เขาไปเซิตในเฟสบุคอีกรอบ ก็ขึ้นมาเป็นป๊าม๊า พี่ชายน้องชายน้องสาวคนในครอบครัว ตอนแรกเราก็ส่องๆไปเรื่อยๆดูแล้วไม่น่ามีความผิดปกติอะไร รูปครอบครัวเขาดูมีความสุขดี จนมาเอะใจกับภาพหนึ่งที่มีครอบครัวเขามีหลานแต่มีผู้หญิงคนนึงที่เราเอะใจ และเราก็หวังและภาวนาห้ไม่ใช่อย่างที่ใจเราคิดคะ แต่พอเราเข้าไปส่องเฟสผู้หญิงที่เราเอะใจ เรากลับชาไปทั้งตัวเพราะนั่นคือภรรยาของเขา เราส่องดูไปเรื่อยๆเขาดูมีความสุขและรักกันดีไปเที่ยวต่างประเทศ ใส่เสื้อคู่ดูแล้วยิ้มแย้มแจ่มใส แต่คนที่กำลังจะตายคือเราคะ เราเสียใจที่โดนหลอก เหมือนเราไปเป็นเมียน้อยเขาเลย เราเลยตัดสินใจแอดเฟสพี่ชายเขาไปและถามว่า เขายังรักกันดีและมีความสุขดีอยู่ใช่ไหม คำตอบที่ได้รับคือใช่ และพอเราดูไทม์ไลน์ของผู้หญิงคนนั้นเขาก้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แล้วเวลาเขาอยู่กับเราเขาก้ไม่มีพิรุตอะไรเลยด้วยซ้ำ เราเลยตัดสินใจโทรไปถามเขา
ว่าทำไมเขาต้องโกหก
เขาบอกเขาไม่ได้โกหก
เราก็ถามว่าแต่พี่กับครอบครัวก็ดูมีความสุขดีนะคะเขาตอบเราว่ามันเป็นเพียงแค่ภาพภายนอก
เขาต้องทำให้ผู้ใหญ่เห็นว่าเขามีความสุขดี แต่เขาไม่ได้ยุ่งกันมาหลายปีแล้วไม่ได้นอนด้วยกัน
เขาบอกแค่ว่าอยู่ตามหน้าที่เท่านั้น แต่เขายังอยู่บ้านเดียวกันคะ แต่ส่วนมากพี่เขาก้ไม่เห็นค่อยจะกลับบ้านนอนในรถบ้าง นอนโรงแรมบ้าง ส่วนมากจะเห็นเขาอยู่แต่ข้างนอกนะ
และเราส่องในเฟสผู้หญิงคนนั้นเราก็เห็นเขาไปเที่ยวด้วยกันดูยิ้มแย้มมีรูปภาพยืนกอดกันอย่างมีความสุขทั้งสองคน เราก็เสียใจและก็ตรอมๆใจตัวเองไปหลายวันน้ำหนักลดไปหลายโล
เราถามพี่เขาว่าจะเอาอย่างไรต่อไป เราเสียใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นซึ่งเราไม่อยากกลายมาเป็นเมียน้อยรึเมียเก็บ พี่เขาบอกเราว่า เขาอยากไปต่อกับเราเขาสบายใจที่มีเราอยากอยู้่กับเราต่อไปแต่ให้เราตัดสินใจว่าเราจะไปต่อรึพอแค่นี้เขาบอกเขาเคารพการตัดสินใจของเราว่าจะอยู่รึไป
จริงๆเราอยากไปต่อเรามีความผูกพันมากที่มีเขาและมีความสุขแต่เรากลััวทุกอย่างกลัวว่าบนความสุขที่เรามีเรากลายเป็นคนที่หลอกตัวเองอยู่ฝ่ายเดียว ซึ่งถ้าหากพี่เขายังมีคนนั้นอยู่เราอาจจะต้องกลับกลายมาเป็นเมียน้อยก็ได้ใช่ไหม
เราพยายามจะตัดแต่ก็ตัดพี่เขาไม่ได้สะที พี่เขาก็มาขอให้เราเป็นแบบเดิมเหมือนเดิมในทุกๆๆครั้งที่เราเจอกันทานข้าวด้วยกันได้ไหม เราเลยบอกว่าช่วงนี้เราขอเวลาก่อนให้เวลาเป็นเครื่องช่วยเยียวยาในทุกเรื่องที่เกิดขึ้น เราจะทำอย่างไรดีคะ เหมือนความไว้ใจถูกทำลายลง เวลาเราอยู่กับพี่เขาเรามองเขาภาพพี่เขากับภรรยาของเขาก็ผุดๆๆขึ้นมา
เราควรตัดใช่ไหมคะเราควรเดินออกมาใช่ไหมคะ
เรื่องนี้เราเล่าให้แค่พี่สาวฟังเพราะพี่สาวเรารู้จักกับพี่เขาดีและพี่สาวเราบอกว่าเราโตแล้วน่าจะคิดได้ อย่ารักใครจนหมดตัวหมดใจ ก็พอ เราไม่กล้าเล่าให้เพื่อนๆฟังเพราะกลัวเราอายว่ากลัวเพื่อนจะมองเราไม่ดีมองเราในแง่ลบ เราจะทำไงดีคะ เลิก หยุดพอแค่นี้ รึไปต่อเดินไปในคำขอที่พี่เขาบอกเรา ................