มาตรา
เด็กเกิดแต่หญิงขณะเป็นภริยาชาย หรือ ภายในสามร้อยสิบวัน นับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามี หรือ เคยเป็นสามี แล้วแต่กรณี
อ่านเร็วๆแล้วงง เพราะมี 2 ประโยค ซ้อนกันอยู่ (ภาษากฏหมายก็งี้แหละ ทำใจครับ)
ประโยคแรก ...
เด็กเกิดแต่หญิงขณะเป็นภริยาชาย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามี
จะเห็นว่า ประโยคแรกนั้น เบสิกๆ แปลตรงตัว กฏหมายท่านว่างั้น
ประโยคที่สอง ...
เด็กเกิดแต่หญิงภายในสามร้อยสิบวัน นับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เคยเป็นสามี
ประโยคสองเข้าใจยากหน่อย กฏหมายใช้หลัก 310 วัน ถ้า เดือนมี 30 วัน 310 วัน ก็คือ 10.33 เดือน
นั่นแปลว่า ถ้าเด้งดึ๋งๆกันหลังมื้อเช้า สายๆอำเภอเปิดทำการจูงมือกันจดทะเบียนหย่า กฏหมายท่านอนุมานว่า ไม่มีทางที่การเด้งดึ๋งหลังมือเช้านั่นจะส่งผลลัพท์ออกมาช้ากว่า 10.33 เดือน
แล้วมันมีผลอะไรล่ะ ...
กฏหมายท่านว่า เด็กเกิดจากหญิงใด ก็ให้ถือว่าเด็กเป็นลูกของหญิงนั้น ... กำปั้นทุบดิน แต่ก็เข้าใจได้
ทีนี้ที่ปวดไข่ดัน คือ ความเป็น พ่อ นี่ซิ ถ้าเอาตามประโยคแรก มันก็ไม่ต้องตีความอะไรให้เมื่อยตุ้ม
แต่ถ้าหย่าแล้ว อดีตภรรยาขอฉลองโสดไปแซ่บ หรือ เกิดใจอ่อนกลับมาเด้งดึ๋งกับอดีตฝาละมีที่เพิ่งหย่าไปหมาดๆ ลูกที่ออกมาจะเอาไงดี
กฏหมายท่านรู้สันดานมนุษย์ ท่านมีทางออกให้ครับ
ดังนั้น กฏหมายจึงต้องมีการจดทะเบียนรับรองบุตร พ่อเจ้าประคุณจะกลับใจขอจดทะเบียนรับรองบุตรได้ กรณีไหนได้ กรณีไหนไม่ได้ และ ต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง ...
ชักยาว ขอไปต่อ EP2