เราลาจากโลกแห่งชีวิตจริงกันทุกคืน
กดปุ่มพอสความจริงเอาไว้
และรับมือมันใหม่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้
ขอพลังจากหมอนนุ่ม ผ้าห่มอุ่น และการพักผ่อน
เรานอนเพื่อเผชิญความจริงได้ดีขึ้นเมื่อตื่น
บางคนหมกมุ่นกับความจริงมากจนลืมความฝัน
ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เปลือตาบางบางคู่นั้น
ปล่อยให้โลกแห่งความฝันได้ทำงานบ้าง
หลับตาลงเพื่อพบความจริงอีกแบบหนึ่ง
ได้พบคนที่อยากพบ
ได้พูดคุยด้วยเป็นเวลานาน
ยิ้ม หัวเราะ อย่างที่อยากทำ
บางครั้งอาจได้กุมมือ
และบางที อาจได้จูบกัน
อาจเหาะเหินเดินอากาศได้ราวกับม้ายูนิคอร์น
จุ่มกันลงบนก้อนเมฆ
ไหลตัวลื่นลงมากับสไลเดอร์สายรุ้ง
น้ำในทะเลเป็นสีชมพู
ท้องฟ้าอาจเป็นสีเขียว
ดอกไม้อาจงอกในทะเลทราย
เราอาจได้เป็นเจ้าชาย เจ้าหญิง
ก่อนที่โลกความจริงจะทักทายเราอีกครั้ง
ผ่านบานหน้าต่าง
กำแพงแบ่งเขตแดนระหว่างโลกสองใบ
มีความหนาแน่นเท่าเปลือกตาเท่านั้น
แสงแดดแรกแทรกตัวเข้ามาในห้องนอน
การพักผ่อนจบลง
เรากำลังหลับหรือกำลังตื่น
ใช้ชีวิตในฝันหรือความจริง
ระหว่างที่เธอกำลังอ่านประโยคนี้
เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้หรือก้อนเมฆ
แต่เธอจะรู้ได้อย่างไรว่า
โลกที่ก้อนเมฆนั่งได้นั้นไม่ใช่โลกแห่งความจริง
ความจริงและความฝัน
เป็นปริศนานิรันดร?
ของผู้ที่วนเวียนอยู่กับการนอนและการตื่น
ชีวิตเป็นเพียงฝันสั้นสั้นของโลกอีกใบหนึ่ง
หรือเปล่า...