ฟื้นขึ้นมา เขียนการบ้านต่อจากฉบับที่แล้ว
หลังจากได้แค่ชมวิวกรุงเทพ ที่ชั้น 61 เราก็มุ่งหน้าไปยังถนนทองหล่อต่อทันที เพราะเวลาเริ่มดึกแล้ว แถมน้องยังไม่ได้ทานข้าวอีกตะหาก เป้าหมายคือ ทองหล่อ ซ.10 เราได้ร้านที่มีดาดฟ้าเช่นกัน บนนั้นคนไม่มาก สามารถนั่งฟังเพลงและคุยกันสบาย ๆ เราสั่งอาหารมาสอง สามอย่าง พร้อมกับไวน์แดงอีกหนึ่งขวด สำหรับดื่มฉลองกัน
นั่งคุยและดื่มกันไปเรื่อย ๆ เริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น เหมือนรู้จักกันมาเป็นปี ดื่มไปสักพัก น้องเริ่มเอนตัวมาซบไหล่ กลิ่นอายสาวโชยมาทำให้อดใจไม่ไหว
จัดแจงจุมพิตที่หน้าผากของน้องเบา ๆ น้องก็หอมแก้มเราตอบกลับมา สักพักเราเริ่มพัลวัล จมูกชนกันไป ชนกันมา เราจุมพิตที่ปากอิ่ม ๆ ของน้องเบา ๆ ปากน้อย ๆ ช่างหอมหวานจริง ๆ
อืม.... เริ่มติดเรทนิด ๆ แล้วเนาะ
เรานั่งคลอเคลียกันไปเรื่อย ๆ เสมือนโลกใบนี้มีเราอยู่กันแค่สองคน
จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาจนเกือบตีหนึ่ง น้องดื่มไวน์เข้าไปมากพอสมควร แต่เราดื่มไปไม่มาก เพราะกลัวว่าเดี๋ยวจะเจอด่านตรวจ L น้องบริกรมาขอเช็คบิลเพราะใกล้ถึงเวลาปิด เลยถามน้องว่าจะให้ไปส่งที่คอนโดเลยมั้ย น้องบอกว่ายังไม่ง่วง
หลังจากเช็คบิลเสร็จ เราเลยพากันมานั่งต่ออีกร้านหนึ่ง จนกระทั่งตีสองครึ่ง ถามน้องว่ามาวยัง น้องบอกว่า มาวเล็กน้อย
ใกล้ตีสาม สมควรแก่เวลาเลยขับรถพาน้องกลับไปส่งที่คอนโด ขับไปได้สักพัก น้องขอให้ขับรถข้า ๆ ลงหน่อย แถมทำท่าพะอืด พะอม เอาแล้วสิ งานเข้าแหง๋ม
เลยจอดรถช้างทาง ถามว่าจะอาเจียนมั้ย นางตอบว่าไม่ใช่ อ้าวแล้วเป็นอะไรหล่ะคร้า
เท่านั้นแหละ นางก็ร้องไห้เป็นเต่าเผา นางบอกว่าพี่ขับรถเร็วเกินไป เหมือนชีวิตนางที่ก้าวไปเร็วมาก จนนางสะเทือนใจ
เห้อ เงิบเลย พะน่ะ ....... นี่ขนาดมาวเล็กน้อย นะเนี่ย
ก็เลยลูบหัวปลอบนางไปเรื่อย ๆ ตลอดทาง จนถึงคอนโดที่พักต้องช่วยประคองน้องลงจากรถ พาขึ้นไปส่งที่ห้องพัก พอนางทิ้งตัวลงเตียงได้ เหมือนปลั๊กหลุด หลับไปเฉยเลย
งานเข้าอีกแระ แล้วเราจะกลับลงไปได้อย่างไร เพราะต้องใช้คีย์การ์ดเปิดประตู
เห้อ.... นี่หรอคือ เซอร์ไพร์ส ที่นางบอก เราเลยต้องนอนเป็นหมอนข้างให้นางกอดจนกระทั่งเช้า