ผู้เขียน หัวข้อ: $ รับจ้างเทรด Forex อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ $  (อ่าน 29947 ครั้ง)

eak_prius

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 107
  • People Like This 33
  • แม่งไม่มีปัญญา...แต่เสือกวิจารณ์กันจัง
Re: $ รับจ้างเทรด Forex อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ $
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2012, 11:47:48 PM »
โอ๊ะ เพิ่งรู้ ลาวสี่ภาค ( ถ่อไปเอาไกลไกลนี่เก่งนัก ) อ่านหนังสือไม่แตก  **30**

เรื่องจะรวยจะจน ไม่ได้อยู่ที่ขยัน ตั้งใจ

ถ้าคนจะรวย ต่อให้ขี้เกียจ ไม่เอาถ่าน ขนาดไหน มันก็จะต้องมีวิธีรวย

ถ้าคนจะจน ต่อให้ขยัน มุมานะ ขนาดไหน มันก็จะต้องมีเหตุให้จน

แล้วแต่ ตัวใครตัวเผือก

เรื่องงาน รายได้เสริม ก็เหมือนกันอยู่ที่ เลือกที่จะเหนื่อย แบบไหน  **37**

I'd rather betray the world than let the world betray me.

automan

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 193
  • People Like This 30
Re: $ รับจ้างเทรด Forex อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ $
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2012, 12:10:52 AM »
 **34**โอ๊ เพิ่งรู้เหมือนกัน ว่าควายยังไงก็เป็นควาย โชว์รถยี่ปุ่นอะไหล่จีน แล้วคิดว่าตนเองดีกว่าคนอื่นเที่ยวดูแคลนคนอื่น ว่าลาว ไม่ดูตนเอง อยากหัวเราะเป็นภาษาเขมร สำหรับ ก่อนว่าใครตัวเองดี100%ยัง
งดรับเลี้ยงแล้ว คิวเต็ม4แล้วครับ

High - Heel

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 360
  • People Like This 138
  • Make it done ..!!
Re: $ รับจ้างเทรด Forex อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ $
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2012, 12:32:51 AM »
ถ้าผมจำไม่ผิด คุณ High - Heel ชอบ Warren Edward Buffett
--> Mayaman จำได้ด้วย  **06**

ชอบคะ high-heel ชอบมาก .. My idol คนนึงเลยค่ะ  **02**
เก่ง ฉลาด วิสัยทัศน์ดี ,, พูดอะไรก็คมไปหมด มีแนวคิดมาให้ทึ่งเสมอๆ  **04**
"I love you more than yesterday ,but less than tomorrow"

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

Honesty is a very expensive gift. Don't expect it from cheap people.

MayaMan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 397
  • People Like This 67
  • สูงสุดคืนสู่สามัญ
Re: $ รับจ้างเทรด Forex อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ $
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2012, 09:45:45 AM »
 **07**

วันนี้ตื่นเช้า...เพราะผู้สาวโทรมาปรึกษา ด้วยผู้ชายโทรมาขอ (รีดไถ) เงินฝ่ายหญิงอีกพันห้า อ้างว่าต้องไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจ
แต่เมื่อคืนผมบอกผู้สาวทาง MSN ว่า "เธอโดนหลอกแล้วละ" แล้วส่งลิงก์เฟซให้เธอดู "ใช่คนนี้ไหม" ผมถาม
"ชื่อ นามสกุล ถูก แต่หน้าตาไม่ใช่นะ" เธอตอบแล้วล็อกออฟออกจากเอ็ม...

ผ่านไปสักพัก...เธอโทรมาหาผม เธอคุยไปร้องไห้ไป...ว่าโดนผู้ชายคนนั้นหว่านคำหวานให้โอนเงินไปหลายรอบ เบ็ดเสร็จร่วมสองหมื่นบาท
ทั้งที่ไม่เคยเจอตัวจริง คุยทางโทรศัพท์ หรือไม่ก็ออนเอ็มและเปิดกล้องคุยกัน ทว่าอีกไม่กี่วัน ทั้งคู่มีการนัดพบและจะไปเที่ยวกันที่ภูเก็ต
โดยฝ่ายชายบอกให้ฝ่ายหญิงจองห้องพัก และสำรองจ่ายไปก่อน โดยจะโอนใช้คืนให้ทีหลัง แต่ผมบอกผู้สาวว่า "เธออย่าไปจองโรงแรมเลย เขาหลอกเธอแน่ๆ"

***

คุณ automan กับคุณ eak_prius ไว้มีโอกาสว่างๆ ดีๆ มานั่งล้อมวงจิบกาแฟหรือดื่มเหล้าคุยกันเนอะ
"หันหน้ากันคนละทาง สร้างดาวกันคนละดวง" เรื่องความคิดต่าง ความเห็นต่าง ผมว่าเป็นความงดงามในระบบประชาธิปไตยนะ (สำนวนนักการเมืองนะนี่)
เรื่องรวยหรือจน บางทีก็พูดยาก แต่คงไม่มีใครอยากจะจนหรอก โดยเฉพาะจนตรอก (ถ้ารวยกันหมด บอร์ดนี้ก็เงียบนะสิ) ทุกคนอยากรวยกันทั้งนั้น คือมีความโลภที่ไม่รู้จักพอ
บางคนรวยยังล้มละลายหมดตัวในข้ามคืนได้ บางคนจนก็อาจฟลุกถูกหวยรางวัลที่ 1 แล้วมีเงินล้านในต้นเดือนและกลางเดือนก็ได้ (วาสนาคนเรานี่สะสมมาไม่เท่ากัน)

ถ้าสามารถฝ่าฟันและอดทนเรียนรู้ ลองผิดลองถูก จนเป็น หนึ่งในร้อยได้ อาชีพนี้ก็ดีมากๆ เหมือนกับวันๆไม่ต้องทำอะไรมากแต่เนรมิตเงินได้
ข้อยากคือ ต้องเป็น"หนึ่งในร้อย"

ในร้อยคนก็เป็นคนธรรมดาทั่วไป 90 คน ถ้าตั้งใจจริง อดทนเรียนรู้ก็เอาชนะได้
อีก 5 คน เป็นคนฉลาด ฝ่าฟันและอดทนเรียนรู้ ตั้งใจจริง โอกาสชนะก็ลดลง
อีก 2 คน โง่แต่ดวงโคตรดี
อีก 2 คน เป็นคนฉลาด ฝ่าฟันและอดทนเรียนรู้ ตั้งใจจริง และ ดวงดี
คนสุดท้ายคือตัวเราเอง

แกมนี้ในระยะยาวถ้าจะอยู่ได้ก็ต้องเป็นหนึ่งในร้อย
Forex จึงเป็นเกมอันตรายและเล่นยาก กว่าการลงทุนอื่นๆมาก (เล่นหุ้นงายกว่ามากเลย)
--------------------------------------------------------------------------------

เป็นกำลังใจนะครับ ไม่ได้มาค้าน เพราะถึงยากแต่ชีวิตเราก็มีอะไรที่ยากๆ จำนวนมาก หลายอย่างก็ทั้งยากกว่า(และเจ็บกว่า) Forex มากมาย


ขอบใจมากครับ
โดยเฉพาะประโยคจบ "เพราะถึงยากแต่ชีวิตเราก็มีอะไรที่ยากๆ จำนวนมาก หลายอย่างก็ทั้งยากกว่า(และเจ็บกว่า) Forex มากมาย" คมลึก
เฉพาะในเมืองไทย คนที่เจ็บและเสียเงินไปกับตลาดค้าเงินนั้นมีมากมาย เพราะผมก็เล่นเว็บบอร์ดอยู่ในสังคมคนกลุ่มนี้ด้วย อย่างบอร์ดไทยฟอเร็กซ์สคูล
จึงมีคำกล่าวว่า "ตลาด Forex นั้นมีความผันผวนที่สุด และโหดร้ายที่สุด" ใน 100 คน อาจมีแค่ 5 คนที่อยู่รอดในตลาดนี้
ถ้าเล่นง่ายคงมีคนรวยเพิ่มขึ้น ยิ่งจะเอาเงินพันไปเทรดเพื่อทำกำไรให้เป็นเงินหมื่นเงินแสนนั้นยาก หรือเล่นด้วยความโลภ สุดท้ายก็ไปไม่รอด จอดในไม่กี่วัน

ผมจึงอยากย้ำว่า...ให้อ่านกระทู้นี้ไปเรื่อยๆ (หรือหาข้อมูลจากที่อื่นไปด้วย)
เรื่องแบบนี้จะเรียนรู้วันเดียวจบไม่ใช่ สัปดาห์เดียวแล้วเก่งกาจสุดยอดก็ไม่ใช่อีก และอย่าคิดว่าการเทรดนั้นคือ "ยาวิเศษ" แก้ความจนเชียว
ทั้งผมก็ "ไม่สนับสนุน" ให้คนที่เริ่มสนใจ หรืออยากลองลงเล่นด้วยเงินจริง เพราะผม "ล้างพอร์ต" มา 3 รอบแล้ว

***

5 Level ในการเป็นเทรดเดอร์ค่าเงิน

ท่ามกลางโลกการเงินที่ไร้พรมแดน แม้ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับการเทรดค่าเงินเฉกเช่นเดียวกับในต่างประเทศ
แต่กลับพบว่าประชากรของเทรดเดอร์ค่าเงินในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองต่อแนวคิดเรื่อง freedom life freedom trader
ที่เริ่มเป็นที่สนใจในประเทศไทยอย่างกว้างขวาง การเทรดเพื่อหาเลี้ยงชีพ หรือ trading for a living เริ่มซึมเข้าสู่กระแสเลือดของคนรุ่นใหม่
เนื่องด้วยข้อจำกัดของตลาดหุ้นในเมืองไทย ทั้งในแง่สภาพคล่อง platform หรือเครื่องมือที่ใช้ดูกราฟ
รวมถึงการเล่นหุ้นในขาลงที่ไม่ยืดหยุ่นเนื่องจากมีต้นทุนในการ short sell ตลอดจนเงินทุนของมือใหม่
ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เทรดเดอร์รุ่นใหม่เริ่มหันเข้าสู่ตลาดค่าเงินหรือ Forex Market ตลาดที่เซียนหลายคนต่างยอมรับว่าเป็นตลาดที่โหดที่สุด
แต่ด้วยข้อดีในแง่ความยืดหยุ่นในการเทรด ความสามารถในการ leverage และ platform ที่พร้อมด้วยเครื่องมือที่สุดยอด
รวมถึงช่วงเวลาในการเทรดที่ไม่เคยหมดเพราะเทรดได้ 24 ชั่วโมง
ทำให้ เทรดเดอร์หน้าใหม่หลายต่อหลายคน ก้าวเท้าเข้าสู่วงการ forex ด้วยความหวังที่จะร่ำรวยเหมือนเทรดเดอร์รุ่นพี่!!!!!



ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่าตลาดค่าเงินเป็นตลาดที่โหดที่สุด แม้มันจะสามารถสร้างความร่ำรวยให้คุณได้ในช่วงเวลาไม่นานนัก แต่มันก็ทำให้คุณหมดตัวในช่วงข้ามคืนได้เช่นกัน
และต่อไปนี้คือ 5 ขั้น ของการเป็นเทรดเดอร์ค่าเงิน ที่คุณจะต้องผ่านไปให้ได้...

ขั้นเเรก - ไร้สติเเละไร้คุณสมบัติ
ขั้นเเรกของทุกคนเมื่อคิดที่จะเริ่มเทรดค่าเงิน คุณเชื่อและรู้ว่าการเทรดเป็นวิธีทำเงินที่ดี
เพราะคุณได้ยินใครๆ ก็พูดถึงเรื่องราวของเทรดเดอร์ที่เทรดจนร่ำรวยกลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่
ขั้นนี้มันจะเหมือนกับช่วงเวลาที่คุณเริ่มคิดที่จะขับรถทุกอย่างดูเหมือนง่ายไปหมด สำหรับการเทรดก็เช่นกัน ราคามันก็มีเเค่ขึ้นกับลง
คุณเลยคิดว่าลองเทรดเลยดีกว่าไม่น่าจะยากอะไร เเต่แล้วก็เช่นเดียวกับการขับรถเมื่อคุณจับพวงมาลัยครั้งเเรก คุณถึงได้รู้ว่าคุณไม่ได้รู้อะไรเลย
คุณเปิดออเดอร์มากมาย เเละรับความเสี่ยงที่สูงมาก พอคุณซื้อกราฟก็ตก พอคุณสั่งขายกราฟก็ขึ้น เป็นอยู่อย่างนี้อยู่ร่ำไป
แม้บางครั้งคุณจะได้กำไร แต่นั่นกลับเป็นหายนะสำหรับผู้เริ่มต้นเทรด เพราะในสมองของคุณจะเริ่มคิดว่าการเทรดเป็นเรื่องง่าย
เเล้วคุณก็จะเพิ่มความเสี่ยงขึ้น ลงเงินมากขึ้น คุณพยายามที่จะเอาคืนการขาดทุนด้วยการดับเบิ้ลเงินลงไปทุกครั้งในการเทรด

บางครั้งคุณก็รอดมาได้เเต่ไม่บ่อยครั้งที่จะไม่ขาดทุน คุณยังไม่คิดว่าคุณไม่มีความสามารถในการเทรด ขั้นตอนนี้กินเวลาหลายอาทิตย์ ก่อนที่คุณจะย้ายไปอีกขั้นหนึ่ง

ขั้นสอง - มีสติเเต่ขาดคุณสมบัติ
ขั้นสองนี้คือ คุณทราบว่าการเทรดนั้นต้องมีการวางเเผนเเละลงมือลงเเรง จิตใต้สำนึกของคุณทราบว่าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ขาดคุณสมบัติ
คุณตระหนักว่าคุณไม่มีทักษะหรือความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในการทำกำไรในตลาดค่าเงิน คุณเริ่มที่จะหาซื้อระบบการเทรดและอ่านบทความตามเว็บไซต์ทุกแห่ง
ช่วงนี้คุณเริ่มต้นค้นหาอินดี้หรือระบบศักดิ์สิทธิ์ แล้วคุณก็จะค่อยๆ เปลี่ยนระบบการเทรดจากระบบหนึ่งไปอีกระบบหนึ่ง อินดี้หนึ่งไปอีกอินดี้หนึ่ง
เวลาที่คุณเจออินดี้ตัวใหม่ คุณจะมีความตื้นเต้น เเละคิดว่าอินดี้นี้ละสุดยอดเเล้ว คุณจะทดสอบระบบอัตโนมัติใน Metatrader
คุณจะเล่นกับ moving average, Fibonacci, support และ resistant, Pivots, MACD, RSI, Stocastic และอื่นๆ อีกร้อยเเปด
ด้วยความหวังว่ามันจะเป็นระบบมหัศจรรย์ของคุณ คุณจะไปอยู่ในเเชทลูมและเห็นว่าคนอื่นๆ ทำกำไร เเต่ทำไมไม่ใช่กับคุณ คุณมีปัญหาที่ต้องการคำตอบล้านเเปด
แล้วคุณก็จะถึงจุดที่คุณคิดว่าคนที่ออกมาบอกว่าได้กำไรทั้งหมดนั้นโกหก!!! พวกเขาไม่น่าจะทำกำไรได้เพราะคุณก็ได้ศึกษาการเทรดมามากมาย เเต่ก็ยังขาดทุน
คุณก็รู้เท่าเท่ากับที่พวกเขารู้ พวกเขาต้องโกหกเเน่ๆ!!! เเต่ทว่าพวกเขาก็ยังคงอยู่ในตลาดทุกวัน และบัญชีของพวกเขาก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นในขณะที่ของคุณลดลงเรื่อยๆ

เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์เเละประสบความสำเร็จพยายามอธิบายหลักการและบอกวิธีการเทรดให้คุณ เเต่คุณก็ยังดื้อรั้นคิดว่าตัวเองถูก
คุณยังดิ้นรนเทรดทั้งที่ทุกคนรอบข้างบอกว่าคุณบ้าไปเเล้ว ในที่สุดเมื่อคุณเริ่มคิดได้เเล้วพยายามเทรดตามคนอื่นเเต่ก็ไม่สำเร็จ
คุณพยายามซื้อ signal และจ่ายเงินให้ guru คอยบอกเเละสอนคุณ แต่ไม่ว่า guru จะดีหรือไม่ดียังไงคุณก็ยังไม่สำเร็จเพราะคุณยังคิดว่าคุณต่างหากที่รู้ดีที่สุด
ขั้นนี้อาจจะนานเป็นปีถึงสามปี หรืออาจนานตราบนานเท่านานถ้าคุณยังไม่สามารถชนะตัวเองได้ และขั้นนี้เองที่เทรดเดอร์หลายคนถอดใจหันหลังให้กับการเทรด
โดยประมาณ 60% ของเทรดเดอร์มือใหม่ถอดใจใน 3 เดือนเเรก


ถ้าคุณอดทนมากพอ ในที่สุดคุณจะค่อยๆ ออกจากขั้นนี้ คุณลงทุนลงเเรงกับมันไปมากกว่าที่คุณคาดคิด คุณหมดเงินไปจากบัญชีเป็นสิบครั้งเเละคิดจะเลิกตั้งหลายครั้ง
เเต่คุณก็ไม่เลิกเพราะการเทรดมันอยู่ในสายเลือดของคุณไปเเล้ว วันหนึ่งในเสี้ยววินาทีโดยที่คุณก็ไม่รู้ตัว คุณก็จะก้าวเข้าสู่ขั้นที่สาม

ขั้นที่สาม– ช่วงตรัสรู้ความจริง
คุณเริ่มคิดได้ว่า ปัญหาของคุณมันไม่ใช่ที่ระบบ คุณเริ่มที่จะคิดได้ว่าคุณสามารถทำเงินได้โดยใช้เเค่ simple moving average
ขอแค่คุณต้องมี Mindset หรือระบบความคิด รวมถึงการจัดการเงิน Money Management (MM) ที่ถูกต้อง
คุณเริ่มอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาในการเทรด เเละตระหนักได้ว่าแท้จริงแล้วไม่มีใครสามารถคาดเดาตลาดได้อย่างเเม่นยำ ไม่ว่าจะสิบนาทีหรือสิบวัน
คุณจะเลิกสนใจความคิดของคนอื่น คุณเริ่มที่จะสร้างระบบของคุณเองเพียงระบบเดียว เเละมีความสุขกับระบบของคุณ คุณจะเริ่มกำหนดความเสี่ยงของตัวเอง
และจะเทรดก็ต่อเมื่อคุณเห็นว่ามีโอกาสที่จะทำกำไร เเละเมื่อขาดทุน คุณก็ไม่โกรธตัวคุณเอง เพราะคุณรู้ดีว่าคุณไม่อาจคาดเดาตลาดได้เเละมันไม่ใช่ความผิดของคุณ
เมื่อคุณเทรดเเล้วขาดทุน คุณจะรีบปิดออเดอร์ และมองหาโอกาสในการทำกำไรครั้งใหม่ เพราะคุณรู้ว่าระบบของคุณสามารถทำกำไรได้
คุณจะคิดว่าการเทรดขาดทุนเพียงครั้งเดียวไม่ได้หมายความว่าระบบของคุณใช่ไม่ได้ คุณจับได้ว่าการเทรดขึ้นอยู่กับสิ่งเดียวคือความสม่ำเสมอเเละการมีวินัย

คุณเรียนรู้เรื่องการจัดการเงิน เเละการบริหารความเสี่ยง ในขั้นนี้คุณยังไม่สามารถทำกำไรได้ แต่คุณเริ่มเรียนรู้หนทางที่จะมีกำไร

ขั้นสี่ - มีสติเเละความสามารถ
คุณทำการเทรดเมื่อระบบของคุณบอก คุณทำใจยอมรับการขาดทุนได้เหมือนกับการได้กำไร ตอนนี้คุณสามารถ let profit run โดยรับรู้ถึงความเสี่ยง
เเละรู้ว่าระบบของคุณทำกำไรได้มากกว่าที่เสียไป เเละเมื่อคุณขาดทุน คุณจะรีบ cut loss อย่างรวดเร็ว
ตอนนี้คุณจะถึงจุดที่คุณเสมอตัวซะส่วนมาก จะมีบางอาทิตย์ที่ท่านได้ 100 pips เเละสัปดาห์ที่เสีย 100 pips เเต่คุณก็ไม่ขาดทุน
คุณพยายามขัดเกลาเเละเช็กผลการเทรดของคุณอย่างสม่ำเสมอ กระบวนการนี้จะดำเนินไปเรื่อยๆ คุณจะพัฒนาความสามารถในการคุมอารมณ์
และรักษาวินัยในการทำตามระบบ จนในที่สุด คุณจึงเริ่มที่จะทำเงินได้มากกว่าขาดทุน คุณเริ่มทำกำไรได้ 20 pips ในสัปดาห์นี้ และ 50 pips ในสัปดาห์หน้า

ขั้นนี้ใช้เวลาประมาณหกเดือนถึงหนึ่งปี ขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมวินัยของแต่ละคน

ขั้นห้า-ไร้สติเเต่มีความสามารถ
ขั้นนี้เหมือนการขับรถ เมื่อเราขึ้นรถ เราสามารถขับรถออกไปโดยสัญชาตญาณ เช่นเดียวกับการเทรด คุณจะเทรดโดยสัญชาตญาณ เทรดเเบบ Autopilot
คุณไม่ตื่นเต้นไม่ว่าจะทำได้ 200 pips หรือ 1 pip นี่คือสวรรคของการเทรด– คุณได้บรรลุการเทรดเเบบไม่ใช่อารมณ์ความรู้สึกแล้ว
บัญชีของคุณจะค่อยๆ เติบโตขึ้น คุณเริ่มเป็นที่รู้จักของเทรดเดอร์ การเทรดเริ่มน่าเบื่อเพราะพอคุณทำอะไรได้ดี คุณก็จะเริ่มเบื่อไม่มีอะไรมาทำให้คุณได้รู้สึกเเข่งขัน
คุณเริ่มหายจากห้องสนทนา คุณจะไม่พยายามเปลี่ยนเเปลงระบบเทรด เเต่จะพัฒนาระบบให้ดีขึ้น ตอนนี้คุณมีสัญชาตญาณในการเทรด
คุณสามารถเรียกตัวเองได้เต็มปากว่า “Forex Trader” เเต่คุณไม่รู้สึกอะไร จะคิดแค่ว่าเป็นอาชีพอาชีพหนึ่งเท่านั้น
คุณสามารถหาเลี้ยงครอบครัวด้วยเงินจากการเทรดเพียงอย่างเดียว

โปรดจำไว้ว่าเเค่ 5% ของเทรดเดอร์ที่สามารถถึงจุดนี้ได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความฉลาด เเต่ขึ้นอยู่กับความสามารถที่จะเปลี่ยนความคิดและความหัวเเข็งของตัวเอง
ความสามารถในการควบคุมอารมณ์และวินัย แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลา แต่ก่อนที่คุณจะถอดใจ ขอให้คุณลองคิดดูว่าคุณจะยอมใช้เวลาไปโรงเรียนแห่งนี้สักกี่ปี
ถ้าคุณรู้ว่าตอนเรียนจบวิชาเทรดจากโรงเรียนแห่งนี้ มีรายได้มากกว่าหนึ่งล้านต่อปีรอคุณอยู่!!!!!


โดย 2Btrader

บัฟเฟตต์ให้เวลาไปพูดกับตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศค่อนข้างมาก เขาดูว่านี่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และการพูดคุยกับคนอายุ 20-25 ปี นั้น 
“มันอาจช่วยเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาบางคนได้”

บางคนเท่านั้นจริงๆ ไม่ใช่ทุกๆ คน







............. (จุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) จบ.............

BaddPitt_Forever

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 593
  • People Like This 60
Re: $ รับจ้างเทรด Forex อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ $
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2012, 03:41:06 PM »
มาลงชื่อตามอ่าน.... บทความดี ๆ ......

เผื่ออยากลอง เข้าโรงเรียน เทรดเดอร์... บ้าง....
gs96z]8nviydgTv ...
ฝากฟ้า... และลม.. บอกเธอ...
ว่าไม่เคย.. รอเธอ.. อยู่.........
รู้แค่เพียง... ว่ายัง.. คิดถึง.. เธอ...

admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,589
  • People Like This 10099
    • WELOVEGIG
Re: $ รับจ้างเทรด Forex อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ $
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2012, 05:26:07 PM »
สมัย Admin หนุ่มๆ (ประมาณ 16 ปีที่แล้ว)

Admin เคยโดนหลอกไปทำงานใน บ. Forex

โดยทำอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน

รายได้ในสมัยนั้น อยู่ที่ 9,500 ++


การตั้ง บ. Trade ในสมัยนั้น ยังไม่ถูกคุ้มครองโดยกฎหมาย

ซึ่งในปัจจุบันนี้ Admin ว่าคงยังไม่ถูกคุ้มครองเช่นกัน

หน้าที่ในสมัยก่อนที่ Admin ทำ คือ อ่านข่าวเพื่อมา Present

แล้วก็ออกไปชวนคนมาลงทุนใน Forex

ซึ่งสมัยนู้น การสร้างกราฟปลอมๆ การหลอกซื้อขาย มีเยอะมาก

เนื่องจากกำไรของ บ. มาจากการซื้อและขาย คล้ายๆหุ้น

คนยิ่งลงทุนเยอะ ยิ่งเสียเยอะ เพราะขาดความรู้ความเข้าใจ

บ. ก็หวังแค่ทำการซื้อและขายให้เยอะที่สุด

ในที่สุด แมลงเม่าทั้งหลาย ก็ทยอยตายกันไปหมด

บ้างก็ล้มละลาย บ้างก็ครอบครัวแตกแยก


ที่เล่าให้ฟัง ไม่ได้หมายความว่าขัดแย้งกับกระทู้นี้ใดๆทั้งสิ้นนะครับ

แต่แนะนำให้หาความรู้ให้มากที่สุด ก่อนที่จะลงมือเล่น

เนื่องจากปัจจัยของค่าเงินในตลาดโลก มันมีตัวแปรอันมหาศาล

ค่าเงินจีน ดอลล่าร์ ยูโร ปอนด์ เยน มันแปรผันผวนกันแบบไม่แน่นอน

อีกทั้งปัจจัยทางการเมืองทั้งภายนอกภายใน ในแต่ละประเทศ

การลงทุนในแต่ละประเทศทั้งภายนอกและภายใน

บางสิ่งที่เราคิดว่าเข้าใจในรูปแบบ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องครับ


ยังไงก่อนลงมือเล่น ศึกษากันดีๆก่อนครับ

อย่าให้ความโลภมาครอบงำ

คนรวยเพราะเล่นได้มีครับ

แต่ไม่ใช่เพราะโชคแน่นอนครับ


ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จนะครับ ^^

BaddPitt_Forever

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 593
  • People Like This 60
Re: $ รับจ้างเทรด Forex อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ $
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2012, 05:55:02 PM »
**************************
สมัยก่อน... คงเป็นเช่นนั้น จริง ๆ ครับ..

****************************************************************

ที่ทุกคน... ต้องล้ม ละลาย... หรือ ถูกหลอก ถูกต้ม ถูกตุ๋น...  เพราะคำว่า โลภ คำเดียว ไงครับ...

****************************************************************

ไม่ว่าจะเป็นแชร์ ลูกโซ่
ตกทอง... หรืออะไร อีก จิปาถะ.....

เพราะทุกคน.. มองอยู่มุมเดียว คือ ผลตอบแทน.... โดยไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยง....................

****************************************************************

เพราะฉะนั้น... คำที่จะเตือน สติ ทุก ๆ คน.. ในการที่จะทำอะไร ก็คือ.... อย่าโลภ............

เพราะนอกจาก .... ความรัก ที่ทำให้คน ตาบอด แล้ว ฉันท์ใด....... ความโลภ ก็ทำให้คนตาบอดได้ ฉันท์นั้น...
gs96z]8nviydgTv ...
ฝากฟ้า... และลม.. บอกเธอ...
ว่าไม่เคย.. รอเธอ.. อยู่.........
รู้แค่เพียง... ว่ายัง.. คิดถึง.. เธอ...

MayaMan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 397
  • People Like This 67
  • สูงสุดคืนสู่สามัญ
Re: $ รับจ้างเทรด Forex อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ $
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2012, 06:58:44 PM »
 **14**

ก่อนอื่น...ขอบคุณมากที่คุณ BaddPitt_Forever สนใจ ตามต่อไปเรื่อยๆ นะ อย่ารีบ
ซึ่งผมพยายามให้ข้อมูลและรายละเอียดที่น่าจะเข้าใจง่าย

ตามที่แอดมินกับคุณซิมซิตี้บอกมานั้น...ถูกต้องครับ
เมื่อก่อนจะมีบริษัทเช่าออฟฟิศหรูๆ แล้วให้พนักงานหาคนมาลงทุนในตลาดค้าเงิน แต่ตรงนี้ไว้ผมค่อยมาอธิบายอีกที
เรื่องมันยาว...ทว่าผมจะพูดถึงสมัยนี้ คือคุณสามารถเทรดเองได้ ส่วนที่ผมจะรับจ้างเทรดนั้นเป็นอีกเคส
เพราะเมื่อราวต้นปี มีผู้ชายคนหนึ่งหาคนมาดูแลพอร์ต Forex ให้ โดยเขาจะลงทุนให้ 3 แสน กำไรก็แบ่งกันตามเปอร์เซ็นต์
ตอนนั้น ผมความรู้เรื่องเทรดยังอ่อนด้อย แต่ตอนนี้ก็หาใช่เก่งกาจ เพียงแต่ผมมีเทคนิคในการเล่นเท่านั้น

ผมขอแนะนำกระทู้หนึ่งให้อ่าน เพราะนี่เป็น กระทู้ของผมเอง ในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง (เจ้าของบอร์ดพอรู้จักกันบ้าง)
$ รู้เท่าทันกลโกงพวกรับฝากเทรด และเล่ห์เหลี่ยมพวกหลอกลวง $
http://successmega.com/forum/index.php/topic,2928.0.html

คุณจะได้รู้จักผมมากขึ้นครับ

***

ฟอเร็กซ์ (Forex) คืออะไร
Forex (Foreign Exchange Market) หรือเรียกสั้นๆ ว่า FX เป็นตลาดในการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินต่างๆ
ซึ่ง Forex เป็นตลาดที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลกกว่า 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อวันซึ่งมากกว่าตลาดหุ้นทั้งโลกมารวมกัน
ตลาด Forex เปิดทำการตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ตลอด 24 ชั่วโมงและหยุดการซื้อขายในวันเสาร์อาทิตย์
ตลาดใหญ่ๆ ของโลกจะมีอยู่ 3 แห่งก็คือ ตลาดโตเกียว ตลาดลอนดอน และตลาดนิวยอร์ค
ซึ่งเวลาทำการเมื่อเทียบกับเวลาประเทศไทยก็จะเป็นดังนี้ (ถ้าอยู่ในช่วงฤดูหนาวก็ให้เพิ่มอีก 1 ชั่วโมง)

ตลาดออสเตรเลีย (AUD) เวลา 5:00 – 13:00
ตลาดญี่ปุ่น (JPY) เวลา 7:00 – 14:00
ตลาดยุโรป (EUR) เวลา 13:00 – 21:00
ตลาดสวิส (CHF) เวลา 13:00 – 21:00
ตลาดอังกฤษ (GBP) เวลา 14:00 – 22:00
ตลาดอเมริกา (USD) เวลา 19.00 - 3:00

สกุลเงิน
สกุลเงินหลักๆ ที่ทำการซื้อขายนั้นก็จะมีอยู่ 7 สกุลเงินด้วยกันก็คือ ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (USD) ยูโร (EUR) ปอนด์ (GBP)
เยน (JPY) ดอลลาร์แคนาดา (CAD) สวิสฟรังค์ (CHF) และดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)

การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex นั้นจะทำกันเป็นคู่ๆ (Currency Pair) ซึ่งคู่ของสกุลเงินหลักหรือที่เรียกว่า Major นั้น จะมีอยู่ 4 สกุลด้วยกันคือ
GBP/USD, EUR/USD, USD/CHF, USD/JPY ซึ่งสกุลเงินที่อยู่ข้างหน้าจะเรียกว่า Base Currency และตัวหลังเรียกว่า Counter Currency
เช่นคู่ GBP/USD ก็จะมี GBP เป็น Base Currency และ USD เป็น Counter Currency
ส่วนความหมายนั้นก็ให้จำง่ายๆ ว่าตัว Base Currency จะมีค่าเป็น 1 เสมอ
สมมติว่าราคาของคู่ GBP/USD เป็น 1.5000 ก็จะหมายความว่า 1 ปอนด์มีค่าเท่ากับ 1.5 ดอลลาร์

Pip
Pip คือจำนวนจุดที่น้อยที่สุดของคู่เงินนั้นๆ ตัวอย่างเช่นราคาของคู่ EUR/USD จะมีทศนิยม 4 จุด เช่น 1.3000
เพราะฉะนั้น 1 pip ก็จะมีค่าเท่ากับ 0.0001 ส่วนราคาของคู่ที่มีสกุลเงินเยนอยู่จะมีทศนิยม 2 จุด
เช่นราคาของคู่ USD/JPY เป็น 110.00 ดังนั้น 1 pip ของคู่นี้ก็จะมีค่าเท่ากับ 0.01

Lot
ขนาดของสัญญาที่จะทำการซื้อขายกันนั้นเรียกว่า lot ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าแต่ละ pip ที่เราเปิดออเดอร์นั้นจะมีค่าเป็นกี่ดอลลาร์
โดยที่ 1 standard lot ทุกๆ 1 pip จะมีค่าเท่ากับ $10

Spread
Spread คือผลต่างของราคา Bid และ ราคา Ask หน่วยเป็นจำนวนจุด ซึ่งราคา Ask ก็คือราคาที่เราจะทำการซื้อและราคา Bid ก็คือราคาที่เราจะทำการขาย
ซึ่งราคา Bid จะน้อยกว่าราคา Ask เสมอ ตัวอย่างเช่นคู่ EUR/USD มีราคา Bid เป็น 1.2540 ราคา Ask เป็น 1.2541
ดังนั้น Spread จะมีค่าเท่ากับ 1 จุด ซึ่ง Spread ก็เปรียบเสมือนกับค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ที่คิดกับเรานั่นเอง ยิ่งมีค่าน้อยยิ่งดี

Margin
Margin เปรียบเสมือนกับค่ามัดจำที่เราต้องใช้ในการเปิด Order แต่ละครั้ง และก็จะเพิ่มกลับเข้าไปในบัญชีเหมือนเดิมเมื่อทำการปิดออเดอร์
ยิ่งใส่จำนวน Lot ในการเปิดออเดอร์มากเท่าไหร่ จำนวน Margin ที่ใช้ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น

 **04**

ปัจจุบันเนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับการซื้อขาย forex สำหรับรายย่อย เปิดให้เพียงสถาบันการเงินหรือธนาคารพาณิชย์ซื้อขายได้เท่านั้น
ทำให้เราจำเป็นต้องเปิดซื้อขายกับโบรกเกอร์ในต่างประเทศ ซึ่งเปิดให้บริการเป็นจำนวนมาก โดยแต่ละโบรกมีจุดเด่น จุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป
การสมัครก็ทำได้ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องบินไปเปิดที่ต่างประเทศ ทำเพียง scan บัตรประชาชน และ utility bill ไปเท่านั้น

โบรกเกอร์ Forex


โบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมในเมืองไทย


โดยเหตุผลที่โบรกเกอร์เหล่านี้ได้รับความนิยมในเมืองไทย แม้ว่าบางโบรกจะจดทะเบียนในประเทศที่ไม่ค่อยคุ้นหูนัก
แต่เนื่องจากมีข้อดีในเรื่อง spread ที่ต่ำมาก และการฝากถอนเงินที่เปิดรับการโอนเงินผ่าน e-currency รวมถึงมีการให้ bonus ทุกครั้งในการฝากเงิน
จึงทำให้โบรกเกอร์เหล่านี้มีเทรดเดอร์คนไทยสมัครใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การฝาก/ถอนเงิน
เนื่องจากโบรกเกอร์ forex ดังกล่าวเป็นโบรกเกอร์ของต่างประเทศ ซึ่งการโอนเงินเข้าออกต่างประเทศผ่านธนาคารโดยตรงหรือบัตรเครดิตมีระยะเวลาดำเนินการหลายวัน
และต้องเสียค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูง รวมถึงการโอนเงินไปต่างประเทศของคนไทยที่ถูกจำกัดจากทางภาครัฐ และการทีกฎหมายไม่รองรับการเทรดสำหรับรายย่อย 
ทำให้เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จึงนิยมใช้ e-currency ในฝากถอนเงินแทน ซึ่ง e-currency ที่ได้รับความนิยมคือ Liberty reserve, Moneybookers,
Webmoney  Perfect money และ Paypal

(ขอบคุณข้อมูลจาก 2Btrader)

ศึกษาให้ดี ถ่องแท้ และรอบคอบกันก่อนนะครับ
เดี๋ยวโพสต์ต่อไป ผมจะมาบอกถึงผู้เล่นและกลไกในตลาดฟอเร็กซ์ว่ามีฝ่ายใดบ้าง

ตอนนี้...ขอตัวไปดูหนังเรื่อง HEAT ก่อน...
ท่านใดอยากดูตามมาๆ http://www.clipmass.com/movie/1160616878204150
............. (จุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) จบ.............

wat012

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 584
  • People Like This 576
Re: $ รับจ้างเทรด Forex อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ $
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2012, 10:58:21 PM »

ขออนุญาต จขกท และผู้อ่านกระทู้ Forex ทุกท่าน

การแสดงความเห็นนี้ ด้วยความรู้สึกดีดี ซึ่งจะผิดถูกประการใด ผู้อ่านต้องเป็นผู้พิจารณาด้วยตนเอง

ขออธิบาย อย่างง่าย เพื่อให้เกิดความเข้าใจ

“เหรียญมักมี 2 ด้านเสมอ”

เงินทอง เป็นของหายาก ดังนั้น การใช้เงินทอง ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

การซื้อขายเงินตราต่างประเทศ ให้มีกำไร คือ

1. ซื้อ-ขายแบบตรงไปตรงมา ระหว่างค่าเงิน 2 สกุล  (ซื้อแข็ง ขายอ่อน เช่น วันนี้เงินบาท 30.99 บาทต่อ 1 USD (ซื้อ USD) พรุ่งนี้ เงินบาท 31.04 เอา USD ที่ซื้อไว้ขาย) แล้วเสียค่าธรรมเนียม (ค่ารายการบัญชี) ให้โบรกเกอร์ 0.1% (ถ้าผิดต้องขออภัยด้วย)

2. ซื้อ-ขาย แบบไขว้ไปมาระหว่างค่าเงินหลายสกุล เช่น

    2.1 ซื้อสกุลเงิน (1) แข็ง  ขายสกุลเงิน (2) อ่อน   
    2.2 สกุลเงิน (2) แข็ง ไปเทียบกับสกุลเงิน (3) อ่อน
    2.3 สกุลเงิน (3) แข็ง ไปเทียบกับสกุลเงิน (1) อ่อน

(จะทำให้เรามีกำไรหลายต่อ จากการไขว้ไปมา ระหว่างค่าเงินต่าง ๆ )

3. การซื้อขาย แบบ Swap ค่าเงิน (เป็นเรื่องของสถาบันการเงิน)

หลักการมีประมาณนี้

ซึ่งภายใต้หลักการนี้ มีสิ่งที่เราควรจะต้องรู้คือ


1. การซื้อขาย หากจะทำรายได้ให้ได้ดี ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก

    1.1 หากอยู่ในภาวะปกติ การขึ้นลงค่าเงินส่วนใหญ่จะไม่ถึง 0.5% หรือน้อยกว่านั้น (เงิน 100,000 บาท ในแต่ละรอบการซื้อขาย หากเราเก็งกำไรถูก (ขึ้นลงสูงสุด) เราจะมีกำไรประมาณ 500 บาท หักค่าธรรมเนียม (ค่ารายการบัญชี) 100 บาท เหลือ 400 บาท)

    1.2 หากต้องการกำไรมาก ต้องเล่นหลายรอบ และเล่นลักษณะไขว้ไปมา และที่สำคัญคือ จะต้องเลือกข้างที่ถูกต้องด้วย ซึ่งหากเลือกข้างผิด จากได้ก็จะกลายเป็นเสีย

หมายเหตุ:  จากข้อ 1. ดังนั้น คนธรรมดาทั่วไป จึงเป็นเรื่องยากที่จะร่ำรวยจากการเทรดค่าเงิน ยกเว้น มีเงินเป็นจำนวนมาก และเล่นถูกข้าง (หรือใช้ margin ในการเทรด ซึ่งเสี่ยงหนักเข้าไปอีก)

2. การเข้าถึงข้อมูล

   2.1 ต้องติดตามข้อมูล และความเป็นไปตลอดเวลา (กราฟเป็นเพียงข้อมูลหนึ่งในหลายข้อมูลเท่านั้น ในการนำมาพิจารณา)
   2.2 อย่างรวดเร็ว
   2.3 แม่นยำ
   2.4 ที่สำคัญคือ การคิดในสมอง และการคำนวณตัวเลขได้เบ็ดเสร็จในสมอง

ข้อมูลทั่วไปที่น่าสนใจ สำหรับนักค้าเงินทั่วโลก

1. สร้างความร่ำรวยอย่างรวดเร็ว ให้กับสถาบันการเงิน และนักค้าเงินที่เล่นกับความเสี่ยงของค่าเงิน (ใช้เงินคนอื่น มาลงทุน)

2. สร้างความล่มจมให้กับสถาบันการเงินที่มีความโลภ เช่น

    2.1 ธนาคาร (จำชื่อไม่ได้) ที่เก่าแก่ที่สุดของอังกฤษ ต้องล้มละลายเพราะคนเพียงคนเดียวในการเก็งกำไรค่าเงิน (จากสาขาที่สิงคโปร์)
    2.2 วิกฤตต้มยำกุ้ง ที่เปิดเสรีทางการเงิน ให้มีการเก็งกำไรค่าเงินได้อย่างเสรี (บวกกับปัจจัยอื่น)
    2.3 วิกฤตเลแมนบราเดอร์ ในปี 2010 ที่สร้างผลกระทบถึงปัจจุบัน ที่มีการเล่นแร่แปรธาตุตลาดอนุพันธุ์ทางการเงิน จนสถาบันการเงินต้องล้มละลายเป็นจำนวนมาก

ข้อมูลทั่วไปที่น่าสนใจ สำหรับในประเทศไทย

1. หลักการคือ ระดมเงินจากคนทั่วไป และนำเงินไปให้เทรดเดอร์ เล่นค่าเงิน

2. ได้คือ ได้ เสียคือ เสีย


หมายเหตุ: 

1. หากตรงไปตรงมาก็ไม่มีปัญหา ได้คือได้ เสียคือเสีย (นักลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงก่อนการลงทุน)

2. หากไม่ตรงไปตรงมา สำหรับเทรดเดอร์บางคน ซึ่งจะมีวิธีการ และสิ่งที่จะตามมาพร้อมคำอธิบายคือ (หากเป็นพอร์ดของเทรดเดอร์เอง)

    2.1 นำเงินบางส่วนไปลงทุนซื้อขายจริง
    2.2 นำเงินจากผู้ลงทุนใหม่ ไปจ่ายผู้ลงทุนเก่า และบอกว่าเล่นได้
    2.3 แนะนำให้ผู้ลงทุน ลงทุนเพิ่ม เนื่องจากเห็นว่าเล่นได้
    2.4 หากไม่สามารถระดมเงินใหม่ได้ สุดท้ายก็จะแจ้งว่า ขาดทุนจากการลงทุน (ขอโทษ และเสียใจด้วย อยากให้ลองใหม่อีกครั้ง)

หมายเหตุ : พอร์ดของเทรดเดอร์ หมายถึงเทรดเดอร์ มีอำนาจในการใช้เงินได้เอง

หากพูดถึงบุคคลต้นแบบสำหรับการลงทุน คือ

สำหรับการลงทุนเรื่องค่าเงิน บุคคลต้นแบบคือ “จอร์จ โซรอส” ที่มีฉายาว่า “พ่อมดการเงิน” ที่มีหลักการคือ “เก็งกำไร”

สำหรับการลงทุนเรื่องหุ้น บุคคลต้นแบบคือ “วอร์เรน  บรับเฟตต์” ที่มีหลักการคือ “การลงทุน”

บทสรุป

1. การลงทุน และการเก็งกำไร มี 2 ด้านเสมอ มีคนหนึ่งได้ ต้องมีคนหนึ่งเสีย ไม่มีคำว่า Win Win

2. หากต้องการนำเงินไปลงทุนหรือเก็งกำไร ควรเป็นเงินที่เหลือใช้แล้ว (ซึ่งหากเสียไป ต้องไม่เดือดร้อน)

3. ต้องยอมรับ และสามารถทำใจได้ ในการนำเงินของเราไปให้คนอื่นลงทุน (ซึ่งเชื่อได้ว่า ในเบื้องต้น คงยากมากที่เราจะสามารถลงทุนเองในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศได้)

4. สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาก่อนหากเราต้องการลงทุนจริง ๆ คือ คนที่เล่นให้เรา และเราต้องทำใจได้ หากวันหนึ่ง เขาเดินมาบอกว่า “เขาขอโทษ”

5. แต่หากมองว่า การซื้อขายเงินตราต่างประเทศ จะสามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาล ต้องการทดลอง ก็ควรดำเนินการด้วยความรอบคอบ

6. แนะนำสำหรับมือใหม่หากต้องการเล่น “ควรเล่นด้วยเงินสด ห้ามเล่นด้วย มาร์จิ้น” (มีคนฆ่าตัวตายด้วย Margin Call มามากแล้ว)


คำเตือน  “การลงทุนมีความเสี่ยง ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ”


คำส่งท้าย


“ที่อธิบายมา มิได้มีเจตนาในทางที่ดีหรือร้าย ต่อการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลอย่างรอบด้าน ซึ่งผู้อ่านต้องเป็นผู้พิจารณาด้วยตนเอง”



ววส.



ในช่วงเวลา "ที่เงินหายากขึ้น"

สิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ "การหลอกลวงที่มากขึ้น"

สิ่งที่ตามมาอีกอย่างหนึ่งของการรับงานของน้อง ๆก็คือ "การต่อรองที่เอาเปรียบมากขึ้น"

ขอให้น้อง ๆทุกคนมีโชคดีทุกคน "นะครับ"

MayaMan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 397
  • People Like This 67
  • สูงสุดคืนสู่สามัญ
Re: $ รับจ้างเทรด Forex อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ $
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2012, 04:23:35 PM »
 **01**

ขอบคุณคุณ wat012 มากๆ ครับ ที่มาช่วยเพิ่มเติมข้อมูลและแนวคิดให้ ว่างๆ ก็มาคุยกันอีกนะ
จริงๆ ผมเห็นโพสต์คุณ wat012 แต่เมื่อคืนแล้ว ทว่าผมไม่อยากปั๊มกระทู้ตัวเอง เกรงใจเจ้าของบ้านและคนอื่นๆ
(เซ็งคลิปหนังเรื่อง HEAT ไม่มีคลิปที่ 6 ด้วย ประมาณอารมณ์ใกล้ๆ จะถึงจุดระเบิดแล้ว จู่ๆ เธอก็ผลักออกและวิ่งหายไปดื้อๆ)

***

ผมมองว่า "การเทรดค่าเงิน" คือ 'การเก็งกำไร' มิใช่ 'การลงทุน'
เรื่องการเงิน การลงทุน หรือเศรษฐกิจนั้นมีประวัติาสตร์ที่น่าศึกษามาก
โดยเฉพาะ กองทุนปีศาจ หรือ เฮดจ์ฟันด์ (Hedge Funds) ถือกำเนิดขึ้นในปี 1949 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2
วิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งแล้วครั้งเล่าตั้งแต่วิกฤตหนี้ในละตินอเมริกาในทศวรรษ 1980, วิกฤตการเงินเตกิลา, วิกฤตฟองสบู่แตก วิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 (1997)
และล่าสุดวิกฤตอสังหาฯถล่ม (subprime crisis) บางคนเรียกว่า วิกฤตคาวบอย หรือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 (2008)
ล้วนเป็นผลมาจากความกระหายเลือดของกองทุนปีศาจเหล่านี้

การได้รับชื่อว่า กองทุนปีศาจ เพราะว่ากองทุนเหล่านี้ไม่มีตัวตน ไม่มีทรัพย์สินของตนเอง จับต้องไม่ได้ แต่หลอกคนได้ สูบเลือดคนได้เหมือนปีศาจ
โดยการทำงานหรือการบริหารของกองทุนต้องใช้กลไกของสถาบันการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ
เทคนิคหรือกลยุทธ์ที่นำมาใช้ในทุกตลาด คือ ตลาดทุน ตลาดเงิน ตลาดอนุพันธ์ (derivatives) ตลาดคอมมิวดิตี้ (commodity)
ตลาดพันธบัตร (bonds market) และตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา (foreign exchange) โดยพ่อมดการเงินรุ่นต่อๆ มา
จนกลายเป็นกระแสหลักที่รู้กันแต่วงในของวาณิชย์ธนกิจ (investment bankers)
ส่วนบรรดาแมลงเม่า และนักลงทุน หรือผู้บริหารกองทุน ตามตำราปัจจัยพื้นฐานก็มักจะหมดตัว
หรือทำให้ผู้ถือหุ้น ผู้ร่วมลงทุน ประเภทกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจบชีวิตเหมือนกับแมลงเม่าที่วิ่งเข้าหากองไฟไปด้วย

กลยุทธ์การ้เงินมาซื้อเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทุกกองทุนนำมาใช้ เพราะเป็นการเพิ่มอำนาจซื้อและเพิ่มผลกำไรได้อย่างมหาศาล
ถ้าหากว่าบริหารไม่ผิดพลาด เช่น เมื่อกองทุนได้รับเงินมาบริหาร 10 เหรียญ กองทุนอาจ้เงินเพิ่มได้ 90 เหรียญ รวมเป็น 100 เหรียญ
เพื่อนำไปเก็งกำไรในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือตลาดอนุพันธ์ หรือตลาดหุ้น
และหากว่าขาดทุนเพียงร้อยละ 10 ก็เท่ากับว่ากองทุนนั้นหมดไปอย่างสิ้นเชิง แต่ถ้าได้กำไรร้อยละ 10 ก็เท่ากับว่าได้กำไร 100% ของเงินทุน


การล้มละลายของ Lehman Brothers ที่สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนคิดเป็นเม็ดเงิน 639 พันล้าน
เป็นคดีล้มละลายที่ใหญ่กว่าการล้มละลายของบริษัทพลังงาน ENRON ในปี 2001 ถึง 10 เท่า
กรณี ENRON กลายเป็นตำนานมหากาพย์แห่งการฉ้อฉลที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงิน สถาบันจัดอันดับ และสื่อด้านเศรษฐกิจ
ซึ่งล้วนพัวพันเกี่ยวข้องโยงใยกันเหมือนใยแมงมุม


ใน 10 กองทุนปีศาจเหล่านี้ รับบริหารเม็ดเงินเกือบ 3 แสนล้านเหรียญต่อปี
ในขณะที่กองทุนปีศาจทั้งหมดในโลกบริหารเม็ดเงินประมาณ 2.5 ล้านล้านเหรียญ (2.5 trillion)


เพียงแค่ขนาดของกองทุนปีศาจนั้นก็มหาศาลแล้ว เช่น กองทุนที่ใหญ่ที่สุด Bridgewater Associates บริหารเม็ดเงินจำนวน 38,600 ล้านเหรียญ หรือ 11 ล้านล้านบาท
หรือกองทุน Soros Fund Management ของพ่อมดการเงิน จอร์จ โซรอส มีทรัพย์สิน 2 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 7 แสนล้านบาท
ซึ่งเกือบเท่ากับงบประมาณแผ่นดินไทยทั้งปีในบางปี (1 ล้านล้านบาทเศษ) แต่สามารถซื้อขายโดยวิธี Leverage คือ้เงินมาซื้อขาย
หรือซื้อขายเงินเชื่อแล้วมาหักกำไรขาดทุนทีหลังได้มากถึง 10-25 เท่า ของเม็ดเงินของกองทุน
ดังนั้นจึงไม่มีตลาดทุนและตลาดเงินที่ไหนของโลกสามารถต้านการโจมตี หรือการ “ทุบ” ของกองทุนปีศาจเหล่านี้ได้

เครื่องมือที่สำคัญของกองทุนปีศาจ คือ สถาบันจัดอันดับ เช่น Moody's และ Standard & Poor's
นิตยสารและน.ส.พ.ธุรกิจ และการเงิน รายงานประจำเดือนของสถาบันการเงินหรือกองทุน เช่น น.ส.พ.วอลล์สตรีต, Forbes, Business Week ฯลฯ
ซึ่งกองทุนปีศาจเป็นผู้ให้โฆษณารายใหญ่ หรือมีผู้บริหารที่รู้จักกัน มีผลประโยชน์ร่วมกัน หรือเป็นบอร์ดไขว้กัน
ดังนั้นเมื่อมีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือรายงานข่าว (ลือ ลับ ลวง พราง) ทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปแตกตื่นเทขายหุ้น แล้วถูกช้อนซื้อ
หรือในทางตรงกันข้าม หรือรัฐบาลหรือนักการเมืองประเทศกำลังพัฒนาแตกตื่น
และออกมาตรการหรือกฎหมายในลักษณะเต้นตามเพลงที่เขาเปิด และติดกับดักการเงิน หรือกับดักหนี้...

ผมสรุปย่อมาจากข้อเขียนของ กมล กมลตระล จากคอลัมน์ เดินคนละฟาก / ประชาชาติธุรกิจ

***

พอแค่นี้ก่อน... เรื่องแบบนี้มันหนักสมองในวันอาทิตย์.... **36**
............. (จุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) จบ.............