วันนี้ตื่นเช้า...เพราะผู้สาวโทรมาปรึกษา ด้วยผู้ชายโทรมาขอ (รีดไถ) เงินฝ่ายหญิงอีกพันห้า อ้างว่าต้องไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจ
แต่เมื่อคืนผมบอกผู้สาวทาง MSN ว่า
"เธอโดนหลอกแล้วละ" แล้วส่งลิงก์เฟซให้เธอดู
"ใช่คนนี้ไหม" ผมถาม
"ชื่อ นามสกุล ถูก แต่หน้าตาไม่ใช่นะ" เธอตอบแล้วล็อกออฟออกจากเอ็ม...
ผ่านไปสักพัก...เธอโทรมาหาผม เธอคุยไปร้องไห้ไป...ว่าโดนผู้ชายคนนั้นหว่านคำหวานให้โอนเงินไปหลายรอบ เบ็ดเสร็จร่วมสองหมื่นบาท
ทั้งที่ไม่เคยเจอตัวจริง คุยทางโทรศัพท์ หรือไม่ก็ออนเอ็มและเปิดกล้องคุยกัน ทว่าอีกไม่กี่วัน ทั้งคู่มีการนัดพบและจะไปเที่ยวกันที่ภูเก็ต
โดยฝ่ายชายบอกให้ฝ่ายหญิงจองห้องพัก และสำรองจ่ายไปก่อน โดยจะโอนใช้คืนให้ทีหลัง แต่ผมบอกผู้สาวว่า
"เธออย่าไปจองโรงแรมเลย เขาหลอกเธอแน่ๆ"***
คุณ automan กับคุณ eak_prius ไว้มีโอกาสว่างๆ ดีๆ มานั่งล้อมวงจิบกาแฟหรือดื่มเหล้าคุยกันเนอะ
"หันหน้ากันคนละทาง สร้างดาวกันคนละดวง" เรื่องความคิดต่าง ความเห็นต่าง ผมว่าเป็นความงดงามในระบบประชาธิปไตยนะ (สำนวนนักการเมืองนะนี่)
เรื่องรวยหรือจน บางทีก็พูดยาก แต่คงไม่มีใครอยากจะจนหรอก โดยเฉพาะจนตรอก (ถ้ารวยกันหมด บอร์ดนี้ก็เงียบนะสิ) ทุกคนอยากรวยกันทั้งนั้น คือมีความโลภที่ไม่รู้จักพอ
บางคนรวยยังล้มละลายหมดตัวในข้ามคืนได้ บางคนจนก็อาจฟลุกถูกหวยรางวัลที่ 1 แล้วมีเงินล้านในต้นเดือนและกลางเดือนก็ได้ (วาสนาคนเรานี่สะสมมาไม่เท่ากัน)
ถ้าสามารถฝ่าฟันและอดทนเรียนรู้ ลองผิดลองถูก จนเป็น หนึ่งในร้อยได้ อาชีพนี้ก็ดีมากๆ เหมือนกับวันๆไม่ต้องทำอะไรมากแต่เนรมิตเงินได้
ข้อยากคือ ต้องเป็น"หนึ่งในร้อย"
ในร้อยคนก็เป็นคนธรรมดาทั่วไป 90 คน ถ้าตั้งใจจริง อดทนเรียนรู้ก็เอาชนะได้
อีก 5 คน เป็นคนฉลาด ฝ่าฟันและอดทนเรียนรู้ ตั้งใจจริง โอกาสชนะก็ลดลง
อีก 2 คน โง่แต่ดวงโคตรดี
อีก 2 คน เป็นคนฉลาด ฝ่าฟันและอดทนเรียนรู้ ตั้งใจจริง และ ดวงดี
คนสุดท้ายคือตัวเราเอง
แกมนี้ในระยะยาวถ้าจะอยู่ได้ก็ต้องเป็นหนึ่งในร้อย
Forex จึงเป็นเกมอันตรายและเล่นยาก กว่าการลงทุนอื่นๆมาก (เล่นหุ้นงายกว่ามากเลย)
--------------------------------------------------------------------------------
เป็นกำลังใจนะครับ ไม่ได้มาค้าน เพราะถึงยากแต่ชีวิตเราก็มีอะไรที่ยากๆ จำนวนมาก หลายอย่างก็ทั้งยากกว่า(และเจ็บกว่า) Forex มากมาย
ขอบใจมากครับ
โดยเฉพาะประโยคจบ "
เพราะถึงยากแต่ชีวิตเราก็มีอะไรที่ยากๆ จำนวนมาก หลายอย่างก็ทั้งยากกว่า(และเจ็บกว่า) Forex มากมาย" คมลึก
เฉพาะในเมืองไทย คนที่เจ็บและเสียเงินไปกับตลาดค้าเงินนั้นมีมากมาย เพราะผมก็เล่นเว็บบอร์ดอยู่ในสังคมคนกลุ่มนี้ด้วย อย่างบอร์ดไทยฟอเร็กซ์สคูล
จึงมีคำกล่าวว่า "
ตลาด Forex นั้นมีความผันผวนที่สุด และโหดร้ายที่สุด" ใน 100 คน อาจมีแค่ 5 คนที่อยู่รอดในตลาดนี้
ถ้าเล่นง่ายคงมีคนรวยเพิ่มขึ้น ยิ่งจะเอาเงินพันไปเทรดเพื่อทำกำไรให้เป็นเงินหมื่นเงินแสนนั้นยาก หรือเล่นด้วยความโลภ สุดท้ายก็ไปไม่รอด จอดในไม่กี่วัน
ผมจึงอยากย้ำว่า...ให้อ่านกระทู้นี้ไปเรื่อยๆ (หรือหาข้อมูลจากที่อื่นไปด้วย)
เรื่องแบบนี้จะเรียนรู้วันเดียวจบไม่ใช่ สัปดาห์เดียวแล้วเก่งกาจสุดยอดก็ไม่ใช่อีก และอย่าคิดว่าการเทรดนั้นคือ "
ยาวิเศษ" แก้ความจนเชียว
ทั้งผมก็ "
ไม่สนับสนุน" ให้คนที่เริ่มสนใจ หรืออยากลองลงเล่นด้วยเงินจริง เพราะผม "
ล้างพอร์ต" มา 3 รอบแล้ว
***
5 Level ในการเป็นเทรดเดอร์ค่าเงิน ท่ามกลางโลกการเงินที่ไร้พรมแดน แม้ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับการเทรดค่าเงินเฉกเช่นเดียวกับในต่างประเทศ
แต่กลับพบว่าประชากรของเทรดเดอร์ค่าเงินในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองต่อแนวคิดเรื่อง freedom life freedom trader
ที่เริ่มเป็นที่สนใจในประเทศไทยอย่างกว้างขวาง การเทรดเพื่อหาเลี้ยงชีพ หรือ trading for a living เริ่มซึมเข้าสู่กระแสเลือดของคนรุ่นใหม่
เนื่องด้วยข้อจำกัดของตลาดหุ้นในเมืองไทย ทั้งในแง่สภาพคล่อง platform หรือเครื่องมือที่ใช้ดูกราฟ
รวมถึงการเล่นหุ้นในขาลงที่ไม่ยืดหยุ่นเนื่องจากมีต้นทุนในการ short sell ตลอดจนเงินทุนของมือใหม่
ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เทรดเดอร์รุ่นใหม่เริ่มหันเข้าสู่ตลาดค่าเงินหรือ
Forex Market ตลาดที่เซียนหลายคนต่างยอมรับว่าเป็นตลาดที่โหดที่สุด แต่ด้วยข้อดีในแง่ความยืดหยุ่นในการเทรด ความสามารถในการ leverage และ platform ที่พร้อมด้วยเครื่องมือที่สุดยอด
รวมถึงช่วงเวลาในการเทรดที่ไม่เคยหมดเพราะเทรดได้ 24 ชั่วโมง
ทำให้
เทรดเดอร์หน้าใหม่หลายต่อหลายคน ก้าวเท้าเข้าสู่วงการ forex ด้วยความหวังที่จะร่ำรวยเหมือนเทรดเดอร์รุ่นพี่!!!!!
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่าตลาดค่าเงินเป็นตลาดที่โหดที่สุด แม้มันจะสามารถสร้างความร่ำรวยให้คุณได้ในช่วงเวลาไม่นานนัก แต่มันก็ทำให้คุณหมดตัวในช่วงข้ามคืนได้เช่นกัน
และต่อไปนี้คือ
5 ขั้น ของการเป็นเทรดเดอร์ค่าเงิน ที่คุณจะต้องผ่านไปให้ได้...
ขั้นเเรก - ไร้สติเเละไร้คุณสมบัติขั้นเเรกของทุกคนเมื่อคิดที่จะเริ่มเทรดค่าเงิน คุณเชื่อและรู้ว่าการเทรดเป็นวิธีทำเงินที่ดี
เพราะคุณได้ยินใครๆ ก็พูดถึงเรื่องราวของเทรดเดอร์ที่เทรดจนร่ำรวยกลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่
ขั้นนี้มันจะเหมือนกับช่วงเวลาที่คุณเริ่มคิดที่จะขับรถทุกอย่างดูเหมือนง่ายไปหมด สำหรับการเทรดก็เช่นกัน ราคามันก็มีเเค่ขึ้นกับลง
คุณเลยคิดว่าลองเทรดเลยดีกว่าไม่น่าจะยากอะไร เเต่แล้วก็เช่นเดียวกับการขับรถเมื่อคุณจับพวงมาลัยครั้งเเรก คุณถึงได้รู้ว่าคุณไม่ได้รู้อะไรเลย
คุณเปิดออเดอร์มากมาย เเละรับความเสี่ยงที่สูงมาก พอคุณซื้อกราฟก็ตก พอคุณสั่งขายกราฟก็ขึ้น เป็นอยู่อย่างนี้อยู่ร่ำไป
แม้บางครั้งคุณจะได้กำไร แต่นั่นกลับเป็นหายนะสำหรับผู้เริ่มต้นเทรด เพราะในสมองของคุณจะเริ่มคิดว่าการเทรดเป็นเรื่องง่าย
เเล้วคุณก็จะเพิ่มความเสี่ยงขึ้น ลงเงินมากขึ้น คุณพยายามที่จะเอาคืนการขาดทุนด้วยการดับเบิ้ลเงินลงไปทุกครั้งในการเทรดบางครั้งคุณก็รอดมาได้เเต่ไม่บ่อยครั้งที่จะไม่ขาดทุน คุณยังไม่คิดว่าคุณไม่มีความสามารถในการเทรด ขั้นตอนนี้กินเวลาหลายอาทิตย์ ก่อนที่คุณจะย้ายไปอีกขั้นหนึ่ง
ขั้นสอง - มีสติเเต่ขาดคุณสมบัติขั้นสองนี้คือ คุณทราบว่าการเทรดนั้นต้องมีการวางเเผนเเละลงมือลงเเรง จิตใต้สำนึกของคุณทราบว่าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ขาดคุณสมบัติ
คุณตระหนักว่าคุณไม่มีทักษะหรือความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในการทำกำไรในตลาดค่าเงิน คุณเริ่มที่จะหาซื้อระบบการเทรดและอ่านบทความตามเว็บไซต์ทุกแห่ง
ช่วงนี้คุณเริ่มต้นค้นหาอินดี้หรือระบบศักดิ์สิทธิ์ แล้วคุณก็จะค่อยๆ เปลี่ยนระบบการเทรดจากระบบหนึ่งไปอีกระบบหนึ่ง อินดี้หนึ่งไปอีกอินดี้หนึ่ง
เวลาที่คุณเจออินดี้ตัวใหม่ คุณจะมีความตื้นเต้น เเละคิดว่าอินดี้นี้ละสุดยอดเเล้ว คุณจะทดสอบระบบอัตโนมัติใน Metatrader
คุณจะเล่นกับ moving average, Fibonacci, support และ resistant, Pivots, MACD, RSI, Stocastic และอื่นๆ อีกร้อยเเปด
ด้วยความหวังว่ามันจะเป็นระบบมหัศจรรย์ของคุณ คุณจะไปอยู่ในเเชทลูมและเห็นว่าคนอื่นๆ ทำกำไร เเต่ทำไมไม่ใช่กับคุณ คุณมีปัญหาที่ต้องการคำตอบล้านเเปด
แล้วคุณก็จะถึงจุดที่คุณคิดว่าคนที่ออกมาบอกว่าได้กำไรทั้งหมดนั้นโกหก!!! พวกเขาไม่น่าจะทำกำไรได้เพราะคุณก็ได้ศึกษาการเทรดมามากมาย เเต่ก็ยังขาดทุน
คุณก็รู้เท่าเท่ากับที่พวกเขารู้ พวกเขาต้องโกหกเเน่ๆ!!! เเต่ทว่าพวกเขาก็ยังคงอยู่ในตลาดทุกวัน และบัญชีของพวกเขาก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นในขณะที่ของคุณลดลงเรื่อยๆ
เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์เเละประสบความสำเร็จพยายามอธิบายหลักการและบอกวิธีการเทรดให้คุณ เเต่คุณก็ยังดื้อรั้นคิดว่าตัวเองถูก
คุณยังดิ้นรนเทรดทั้งที่ทุกคนรอบข้างบอกว่าคุณบ้าไปเเล้ว ในที่สุดเมื่อคุณเริ่มคิดได้เเล้วพยายามเทรดตามคนอื่นเเต่ก็ไม่สำเร็จ
คุณพยายามซื้อ signal และจ่ายเงินให้ guru คอยบอกเเละสอนคุณ แต่ไม่ว่า guru จะดีหรือไม่ดียังไงคุณก็ยังไม่สำเร็จเพราะคุณยังคิดว่าคุณต่างหากที่รู้ดีที่สุด
ขั้นนี้อาจจะนานเป็นปีถึงสามปี หรืออาจนานตราบนานเท่านานถ้าคุณยังไม่สามารถชนะตัวเองได้ และขั้นนี้เองที่เทรดเดอร์หลายคนถอดใจหันหลังให้กับการเทรด
โดยประมาณ 60% ของเทรดเดอร์มือใหม่ถอดใจใน 3 เดือนเเรกถ้าคุณอดทนมากพอ ในที่สุดคุณจะค่อยๆ ออกจากขั้นนี้ คุณลงทุนลงเเรงกับมันไปมากกว่าที่คุณคาดคิด คุณหมดเงินไปจากบัญชีเป็นสิบครั้งเเละคิดจะเลิกตั้งหลายครั้ง
เเต่คุณก็ไม่เลิกเพราะการเทรดมันอยู่ในสายเลือดของคุณไปเเล้ว วันหนึ่งในเสี้ยววินาทีโดยที่คุณก็ไม่รู้ตัว คุณก็จะก้าวเข้าสู่ขั้นที่สาม
ขั้นที่สาม– ช่วงตรัสรู้ความจริงคุณเริ่มคิดได้ว่า ปัญหาของคุณมันไม่ใช่ที่ระบบ คุณเริ่มที่จะคิดได้ว่าคุณสามารถทำเงินได้โดยใช้เเค่ simple moving average
ขอแค่คุณต้องมี Mindset หรือระบบความคิด รวมถึงการจัดการเงิน Money Management (MM) ที่ถูกต้อง
คุณเริ่มอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาในการเทรด เเละตระหนักได้ว่าแท้จริงแล้วไม่มีใครสามารถคาดเดาตลาดได้อย่างเเม่นยำ ไม่ว่าจะสิบนาทีหรือสิบวัน
คุณจะเลิกสนใจความคิดของคนอื่น คุณเริ่มที่จะสร้างระบบของคุณเองเพียงระบบเดียว เเละมีความสุขกับระบบของคุณ คุณจะเริ่มกำหนดความเสี่ยงของตัวเอง
และจะเทรดก็ต่อเมื่อคุณเห็นว่ามีโอกาสที่จะทำกำไร เเละเมื่อขาดทุน คุณก็ไม่โกรธตัวคุณเอง เพราะคุณรู้ดีว่าคุณไม่อาจคาดเดาตลาดได้เเละมันไม่ใช่ความผิดของคุณ
เมื่อคุณเทรดเเล้วขาดทุน คุณจะรีบปิดออเดอร์ และมองหาโอกาสในการทำกำไรครั้งใหม่ เพราะคุณรู้ว่าระบบของคุณสามารถทำกำไรได้
คุณจะคิดว่าการเทรดขาดทุนเพียงครั้งเดียวไม่ได้หมายความว่าระบบของคุณใช่ไม่ได้ คุณจับได้ว่าการเทรดขึ้นอยู่กับสิ่งเดียวคือความสม่ำเสมอเเละการมีวินัย คุณเรียนรู้เรื่องการจัดการเงิน เเละการบริหารความเสี่ยง ในขั้นนี้คุณยังไม่สามารถทำกำไรได้ แต่คุณเริ่มเรียนรู้หนทางที่จะมีกำไร
ขั้นสี่ - มีสติเเละความสามารถคุณทำการเทรดเมื่อระบบของคุณบอก คุณทำใจยอมรับการขาดทุนได้เหมือนกับการได้กำไร ตอนนี้คุณสามารถ let profit run โดยรับรู้ถึงความเสี่ยง
เเละรู้ว่าระบบของคุณทำกำไรได้มากกว่าที่เสียไป เเละเมื่อคุณขาดทุน คุณจะรีบ
cut loss อย่างรวดเร็ว
ตอนนี้คุณจะถึงจุดที่คุณเสมอตัวซะส่วนมาก
จะมีบางอาทิตย์ที่ท่านได้ 100 pips เเละสัปดาห์ที่เสีย 100 pips เเต่คุณก็ไม่ขาดทุน
คุณพยายามขัดเกลาเเละเช็กผลการเทรดของคุณอย่างสม่ำเสมอ กระบวนการนี้จะดำเนินไปเรื่อยๆ คุณจะพัฒนาความสามารถในการคุมอารมณ์
และรักษาวินัยในการทำตามระบบ จนในที่สุด คุณจึงเริ่มที่จะทำเงินได้มากกว่าขาดทุน คุณเริ่มทำกำไรได้ 20 pips ในสัปดาห์นี้ และ 50 pips ในสัปดาห์หน้า ขั้นนี้ใช้เวลาประมาณหกเดือนถึงหนึ่งปี ขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมวินัยของแต่ละคน
ขั้นห้า-ไร้สติเเต่มีความสามารถขั้นนี้เหมือนการขับรถ เมื่อเราขึ้นรถ เราสามารถขับรถออกไปโดยสัญชาตญาณ เช่นเดียวกับการเทรด คุณจะเทรดโดยสัญชาตญาณ เทรดเเบบ Autopilot
คุณไม่ตื่นเต้นไม่ว่าจะทำได้ 200 pips หรือ 1 pip นี่คือสวรรคของการเทรด– คุณได้บรรลุการเทรดเเบบไม่ใช่อารมณ์ความรู้สึกแล้ว
บัญชีของคุณจะค่อยๆ เติบโตขึ้น คุณเริ่มเป็นที่รู้จักของเทรดเดอร์ การเทรดเริ่มน่าเบื่อเพราะพอคุณทำอะไรได้ดี คุณก็จะเริ่มเบื่อไม่มีอะไรมาทำให้คุณได้รู้สึกเเข่งขัน
คุณเริ่มหายจากห้องสนทนา คุณจะไม่พยายามเปลี่ยนเเปลงระบบเทรด เเต่จะพัฒนาระบบให้ดีขึ้น ตอนนี้คุณมีสัญชาตญาณในการเทรด
คุณสามารถเรียกตัวเองได้เต็มปากว่า “
Forex Trader” เเต่คุณไม่รู้สึกอะไร จะคิดแค่ว่าเป็นอาชีพอาชีพหนึ่งเท่านั้น
คุณสามารถหาเลี้ยงครอบครัวด้วยเงินจากการเทรดเพียงอย่างเดียว
โปรดจำไว้ว่าเเค่ 5% ของเทรดเดอร์ที่สามารถถึงจุดนี้ได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความฉลาด เเต่ขึ้นอยู่กับความสามารถที่จะเปลี่ยนความคิดและความหัวเเข็งของตัวเอง
ความสามารถในการควบคุมอารมณ์และวินัย แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลา แต่ก่อนที่คุณจะถอดใจ ขอให้คุณลองคิดดูว่าคุณจะยอมใช้เวลาไปโรงเรียนแห่งนี้สักกี่ปี
ถ้าคุณรู้ว่าตอนเรียนจบวิชาเทรดจากโรงเรียนแห่งนี้ มีรายได้มากกว่าหนึ่งล้านต่อปีรอคุณอยู่!!!!!โดย 2Btrader
บัฟเฟตต์ให้เวลาไปพูดกับตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศค่อนข้างมาก เขาดูว่านี่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และการพูดคุยกับคนอายุ 20-25 ปี นั้น
“มันอาจช่วยเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาบางคนได้”บางคนเท่านั้นจริงๆ ไม่ใช่ทุกๆ คน