เก็บเงินยังไงให้ชนะเงินเฟ้อดีคะ มาแชร์กันหน่อยน้าา

[kitten33]

3เดือนก่อนเมล์ไปหาพี่ผช.คนนึงในนี้(ปัจจุบันผมเมล์ไปสอบถามอีกแต่เงียบ ไม่ตอบกลับครับ)โดยขอคำแนะนำในการเล่นหุ้นว่าจะเลือกตัวไหนดี โดยมีเงินทุนสำหรับลองเล่นราว3แสนบาท
พี่เขาแนะนำการเปิดพอร์ท พร้อมแนะนำให้เล่นตามหุ้นที่พี่เขาเปิดพอร์ทให้ดูว่าเล่นตัวไหนบ้าง
และแนะให้เฝ้าติดตามดูระดับราคาปกติพร้อมทั้งราคาที่ควรเก็บหรือควรปล่อยก่อนลงทุนจริง
หลังจากเฝ้าดูเกือบสองสัปดาห์ตามคำแนะนำก็เริ่มเห็นลักษณะเฉพาะของราคาของหุ้นตัวที่พี่เขาแนะนำ จึงเริ่มเทรด
จากทุน3แสน ทำกำไรรอบนึงราว 4000 ถึง 5000 ต่อสัปดาห์ (30000หุ้น ขายได้ 10หรือ15สต.ต่อหุ้น ทุกๆรอบที่เก็บได้)
บางสัปดาห์ถ้ามีข่าวไรๆ ก็อาจกำไร ราว 2รอบ
สรุป 2เดือนกว่าๆมานี้ ได้เงินมาราว25,000 แต่เล่นหุ้นมีความเสี่ยงครับ
ถ้าใจไม่หนักแน่น ไม่แนะนำให้เล่นครับ

พี่โชคดีจังค่ะ พี่คนนั้นก้แนะนำดีมาก เก่งจัง หนุอ่อนแอ และไม่กล้าพอ กลัวเสียทั้งแสนสินะคะ T^T หนุไม่กล้าเสี่ยงอยากลองเปนกองทุนดูจะได้มีคนแนะนำ พี่ก้แนะนำหนุได้น้าาา ขอบคุนมากๆค้าาา

ไม่เปิดพอร์ท เล่นยังไงๆก็ไม่เสียตังค์ครับ
แต่อยากให้ลองศึกษา ไม่เสียหายที่จะใช้เวลาดู
แนะนำแบบที่ผมทำนะครับ
1.หาหุ้นตัวที่ ราคาไม่สูง
2.มีปันผล
3.มีกิจการมั่นคงในระดับหนึ่ง ศึกษาธุรกิจนั้นจะเสิร์จในพันทิปหรือgoogleดูก็ได้
4.มีการขึ้นลงของราคาและดูประวัติราคาที่ผ่านๆมาสัก1ปี ลงเพราะอะไร แล้วขึ้นเพราะอะไร ช่วงไหนfund flow ช่วงไหน Brexit ช่วงไหนTrump ช่วงไหนข่าวเศร้าของไทย จะเห็นการวิ่งของราคาสัมพันธ์กับเวลา
5.ศึกษารายละเอียด ปลีกย่อยและคำศัพท์ที่เกี่ยวกับหุ้น

หลักสำคัญคือเลือกหุ้นที่จะเข้าลงทุนให้ถูกตัวแล้วดูระดับราคาที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละหุ้นไปก่อน
น้องๆลองจับกลุ่มแบ่งกันไปดูแล้วมานั่งคุยกัน วิเคราะห์กัน คล้ายติวข้อสอบ รับรองว่าจะเห็นอะไรๆ
เคยคิดทำเหมือนกัน แต่ปัญหาคือใจของคนเล่นหุ้นต่างกัน ส่วนใหญ่มักใจไม่นิ่งครับ
ถ้ามีเงินเย็นและรุ้จักแบบที่เขียนทั้ง5ข้อ อย่างน้อยช่วยเสริมใจให้หนักแน่น
ผมเขียนจากประสบการณ์มือใหม่ของผมเองครับ
แต่ไม่แนะนำว่า ให้เล่น เพราะหุ้นมีความเสี่ยง กับ ใจไม่หนักแน่นเท่ากับหาทุกข์ใจครับ

หนูยอมรับค่ะว่าใจไม่แข็ง แต่ยิ่งกว่านั่นคือหนูไม่รุ้อะไรนอกจากสิ่งที่เขาเล่าต่อกันมา หนุจะเกบหุ้นไว้ศึกษาดูค่ะ เผื่ออนาคตจะมีโอกาสบ้าง ขอบคุนพี่มากๆนะค้าา มีประโยชนต่อหนูมากเลย

[kitten33]

หรือจะแนะนำหนูก้ได้นะคะ
ตอนแรกฝากประจำอยู่ แต่ครบกำหนดดอกเบี้ยไม่มากเลยค่ะ เล่นหุ้นไม่เป็น กับกองทุนหนูก้ไม่รุ้เรื่องเลย แชรกันหน่อยนะคะ

       วิธีการเก็บออมของน้องมาถูกทางแล้วค่ะ แค่เริ่มทำก็เป็นจุดหนึ่งสู่หนทางแห่งความสำเร็จ อย่าเพิ่งคิดว่าได้ดอกผลน้อย เพราะดอกเป็นเพียงกำไรเท่านั้น เมื่อเราเริ่มฝาก ถึงไม่มีกำไรมันก็เท่าทุนไม่ได้เสีย เว้นแต่จะถอนออกมาใช้
        หากอยากได้กำไรเพิ่มเติม ควรลงทุนด้วยความรู้ ศึกษาวิถีทางทำกำไรที่น้องถนัด และเหมาะสม กับตัวน้อง บางคนอาจเหมาะกับ การฝาก กองทุน หรือหุ้นก็ตาม การถามเป็นเพียงแนวทาง น้องควรศึกษาด้วยตัวเอง เพราะเราจะไม่มีวันรู้คำตอบ ว่ามันถูกหรือไม่ จนกว่าเราจะพบคำตอบของเราเอง
        สรุป พี่ช่วยไรน้องไม่ได้เลยเน๊อะ555  แต่ถ้าให้แนะนำ ดอกเบี้ยตามธนาคารมักสูงไม่มาก ฝากสหกรณ์จะทำกำไรมากกว่า ได้ดอกเบี้ยถึง4-6% แต่ทุกอย่างก็มีดีมีเสีย ส่วนหุ้น หากสนใจ ก็ต้องศึกษางบการเงิน บทวิเคราะห์ดู ควรใช้เวลากับมัน ไม่ใช่หวังระยะสั้น (แต่หากชำนาญแล้ว ก็ไม่ว่ากัน) เพราะหลักทรัพย์ในการลงทุนก็มีหลายประเภทเอาที่ตัวเองชอบ แล้วศึกษา แล้วลองฝึกเล่นหุ้น ตามเว็บต่างๆที่มีการจำลองการเล่นก็ได้
        ทั้งนี้ ทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับว่าเรามีความอดทนต่อสิ่งที่เราต้องการจะได้รับแล้วหรือยัง ขอให้โชคดีค่ะ จุ๊บๆ^^

ตอนนี้เริ่มเอนเอียงไปทางขายของแล้วค่ะพี่ ใครแนะอะไรมาก้น่าสนใจไปหมดเลยค่ะ ใจง่ายจริงๆเรา 555 แต่สนกองทุนจริงๆค่ะ ตอนนี้ออมทวีทรพรอไปก่อน ศึกษาแล้วถ้าพร้อมมหนุจะตามพี่ไปค่าา ^_^ ขอบคุนมากๆนะค้าาา

[rr1]

เรื่องกองทุน ก็คือ การจ้างผู้เชี่ยวชาญเล่นหุ้นแทนเราครับซึ่งดีกว่าเราในแง่เขามีทรัพยากรพร้อมและชำนาญกว่าอีกทั้งได้รับการหนุนจากรัฐบาลในเรื่องการหักภาษี
ควรศึกษาจากผู้รุ้และถามผุ้จัดการกองทุนที่เราจะเข้าไปใช้บริการว่า ถ้าเกิดกรณีแบบปี 2540 เงินเราถอนได้มั๊ย จะต้องทำอย่างไร
ส่วนการฝากสหกรณ์ เห็นด้วยอน่สงยิ่งครับ ปัญหาคือ เราจะเป็นสมาชิกได้อย่างไรและสหกรณ์ที่เราจะฝากมั่นคงแค่ไหน
ขอให้ประสบความสำเร็จครับ

[kaptan]

     ให้คห.เลยแล้วกันนะครับ
1. ทองคำ เท่าที่อ่านทิศทางทองคำโลกตอนนี้ยังไม่มีท่าทีจะขยับขึ้นแต่อย่างใด
    สรุปว่า ซื้อทองไม่น่าได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าทั้งในระยะสั้น จนถึงระยะระยะกลาง ( วันนี้ก็ไหลลงอีก )

2. หุ้น การลงทุนในหุ้นไม่ใช่เรื่องยากแม้จะไม่ง่าย แต่ทีขาดทุนกันเป็นส่วนมาก เพราะไม่ศึกษากันก่อนลงทุนให้ดี
    ไม่ใช่เรื่องของใจแข็งใจอ่อน กรุณาอย่าคิดแบบนีั้ครับ การลงทุนในหุ้นเราต้องมีข้อมูลที่ต้องเรียนรู้
    ผมทำงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหุ้นมาเกิน 12 ปี เห็นคนกำไรหลายร้อยหลายพันล้าน จนถึงขาดทุน
    ในปริมาณที่ไม่น้อย คนที่กำไรมีปัจจัยที่สำคัญคือมีข้อมูล และความรู้ คนขาดทุนคือไม่รู้แล้วบางที
    ดันใจไม่แข็งพอที่จะขาย ( หุ้นห่วยๆ )ทิ้ง ลองไปศึกษาดูนะครับเข้าเวปของ set.org มีช่องทางให้เรียนรู้มากมาย

3. สหกรณ์ หรือเงินฝากอื่น เราอาจแบ่งเงินส่วนนึงไว้สำหรับฝากกินดอกเบี้ย เพราะยังเป็นความเสี่ยงที่ต่ำที่สุดทางนึง
    นอกจากสหกรณ์คือพวกพันธบัตร ที่แม้ดอกเบี้ยจะน้อย แต่ปลอดภัยพอสมควรครับ

4. หากยังพอมีเงินเหลือลองดูพวกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ไว้บ้าง บางกองให้ผลตอบแทนเกิน 6 % แม้จะมี
    ความเสี่ยงบ้างแต่ก็ยังอยู่ในระดับ พอรับได้

5. กองทุนหุ้น ไม่ว่าจะเพื่อลดภาษี หรือเป็นการออมในระยะยาว ก็น่าสนใจ คนที่ไม่มีข้อมูลความรู้เรื่องหุ้น
    ควรลงทุนผ่านกองทุนครับ อย่างน้อยผลตอบแทนก็ดีกว่าการลงทุนทางอื่นพอสมควร

    ไม่ว่าจะเลือกลงทุนแบบใด เราควรต้องศึกษาหาความรู้ในเรื่องนั้นๆ ให้เข้าใจ รู้จักผลตอบแทนและความเสี่ยง
ที่จะเกิดขึ้นแล้วประเมินดูว่าเรารับได้ หรือพอใจขนาดไหน แต่ละคนมีลักษณะนิสัยและความคาดหวังไม่เหมือนกัน
ตัดสินใจได้ต่างกัน เรื่องเหล่านี้เราต้องรู้ให้ดีพอ ก่อนจะเลือกลงทุนไม่ว่าในทางใดๆ ครับ

[kitten33]

เรื่องกองทุน ก็คือ การจ้างผู้เชี่ยวชาญเล่นหุ้นแทนเราครับซึ่งดีกว่าเราในแง่เขามีทรัพยากรพร้อมและชำนาญกว่าอีกทั้งได้รับการหนุนจากรัฐบาลในเรื่องการหักภาษี
ควรศึกษาจากผู้รุ้และถามผุ้จัดการกองทุนที่เราจะเข้าไปใช้บริการว่า ถ้าเกิดกรณีแบบปี 2540 เงินเราถอนได้มั๊ย จะต้องทำอย่างไร
ส่วนการฝากสหกรณ์ เห็นด้วยอน่สงยิ่งครับ ปัญหาคือ เราจะเป็นสมาชิกได้อย่างไรและสหกรณ์ที่เราจะฝากมั่นคงแค่ไหน
ขอให้ประสบความสำเร็จครับ

ขอบคุณค่า คิดว่าจะไปทางนี้เหมือนกันค่า สนใจกองทุนอิอิ

[kitten33]

     ให้คห.เลยแล้วกันนะครับ
1. ทองคำ เท่าที่อ่านทิศทางทองคำโลกตอนนี้ยังไม่มีท่าทีจะขยับขึ้นแต่อย่างใด
    สรุปว่า ซื้อทองไม่น่าได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าทั้งในระยะสั้น จนถึงระยะระยะกลาง ( วันนี้ก็ไหลลงอีก )

2. หุ้น การลงทุนในหุ้นไม่ใช่เรื่องยากแม้จะไม่ง่าย แต่ทีขาดทุนกันเป็นส่วนมาก เพราะไม่ศึกษากันก่อนลงทุนให้ดี
    ไม่ใช่เรื่องของใจแข็งใจอ่อน กรุณาอย่าคิดแบบนีั้ครับ การลงทุนในหุ้นเราต้องมีข้อมูลที่ต้องเรียนรู้
    ผมทำงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหุ้นมาเกิน 12 ปี เห็นคนกำไรหลายร้อยหลายพันล้าน จนถึงขาดทุน
    ในปริมาณที่ไม่น้อย คนที่กำไรมีปัจจัยที่สำคัญคือมีข้อมูล และความรู้ คนขาดทุนคือไม่รู้แล้วบางที
    ดันใจไม่แข็งพอที่จะขาย ( หุ้นห่วยๆ )ทิ้ง ลองไปศึกษาดูนะครับเข้าเวปของ set.org มีช่องทางให้เรียนรู้มากมาย

3. สหกรณ์ หรือเงินฝากอื่น เราอาจแบ่งเงินส่วนนึงไว้สำหรับฝากกินดอกเบี้ย เพราะยังเป็นความเสี่ยงที่ต่ำที่สุดทางนึง
    นอกจากสหกรณ์คือพวกพันธบัตร ที่แม้ดอกเบี้ยจะน้อย แต่ปลอดภัยพอสมควรครับ

4. หากยังพอมีเงินเหลือลองดูพวกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ไว้บ้าง บางกองให้ผลตอบแทนเกิน 6 % แม้จะมี
    ความเสี่ยงบ้างแต่ก็ยังอยู่ในระดับ พอรับได้

5. กองทุนหุ้น ไม่ว่าจะเพื่อลดภาษี หรือเป็นการออมในระยะยาว ก็น่าสนใจ คนที่ไม่มีข้อมูลความรู้เรื่องหุ้น
    ควรลงทุนผ่านกองทุนครับ อย่างน้อยผลตอบแทนก็ดีกว่าการลงทุนทางอื่นพอสมควร

    ไม่ว่าจะเลือกลงทุนแบบใด เราควรต้องศึกษาหาความรู้ในเรื่องนั้นๆ ให้เข้าใจ รู้จักผลตอบแทนและความเสี่ยง
ที่จะเกิดขึ้นแล้วประเมินดูว่าเรารับได้ หรือพอใจขนาดไหน แต่ละคนมีลักษณะนิสัยและความคาดหวังไม่เหมือนกัน
ตัดสินใจได้ต่างกัน เรื่องเหล่านี้เราต้องรู้ให้ดีพอ ก่อนจะเลือกลงทุนไม่ว่าในทางใดๆ ครับ

ขอบคุณพี่มากๆเลยค้า ตอนนี้สนใจกองทุนค่ะ น่าจะเหมาะกับหนุมากที่สุดแล้วน้า ให้ผุ้เชี่ยวชาญแล้วกันเน้อ เรื่องใจแขงใจอ่อนนี้หมายถึง เวลาเสียยไปอ่ะค้า จะใจฝ่อ เสียใจง่ายย เพราะความไม่รุ้ของหนุเนี่ย ขอบคุนมากๆเลยนะค้า แนะนำหนุได้เรื่อยๆน้าาา

[tawans]

ขอตอบยาวๆตามนี้นะครับ
1 เก็บเงิน  ไม่เสี่ยงแต่ปัจจุบัณไม่ชนะเงินเฟ้อ  จำเป็นต้องเก็บเพื่อสำรองยามฉุกเฉิน

2 จะชนะเงินเฟ้อต้อง ลงทุน  การลงทุนมีความเสี่ยง ต้อง...

2.1 มีวินัยทางการเงิน  ใช้จ่ายให้มีรายจ่ายน้อยกว่ารายรับเสมอ คือรับมากกว่าจ่าย (น้องจำนวนมากที่เดือดร้อนที่ผมเจอใช้มือถือแพงกว่าผมสามเท่า ฟอร์นิเจอร์บนตัวแพงกว่าผมห้าเท่า...)  ใช่จ่ายแบบนี้จะมีเงินส่วนเกินเข้ามาสม่ำเสมอ=นี้คือเงินลงทุน  คือเงินเย็นที่เสี่ยงได้   เพราะถ้าเงินลงทุนคือเงินร้อน  ใจจะร้อน  ทำอะไรจะลนลาน  แล้วจะขาดทุนเพราะใจไม่นิ่งหวั่นไหวโลเล

2.2 สะสมความรู้  ถ้าความรู้ไม่พอ ระยะยาวจะเจ๊ง ถ้าลงทุนในสิ่งที่”กำไรของเราไม่ได้มาจากขาดทุนของคนอื่น” เช่น ทอง พันธ์บัตร ที่ดิน ต้องรู้ว่าทำไร อะไรทำให้ราคา เปลี่ยนแปลง

ถ้าลงทุนในหุ้น ”กำไรของเรามาจากขาดทุนของคนอื่น”  จะกินเงินเขาต้องรู้มากกว่าเขา ระยะยาว90%ของคนเล่นหุ้นเจ๊ง 7% พอไหว  3%รวย   90%ของคนถือกองทุนได้ผลตอบแทนที่ดีแต่ไม่มากจนรวยได้

2.3 เรียนรู้จัดการความเสี่ยง คือ รวยเป็น และ เจ๊งเป็น  ยกตัวอย่างใกล้ตัวก่อน
สมมุติว่าผมจ้างน้องใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน 3 คน ( ซื้อหุ้น 3 ตัว) น้องคนที่1และ2 เจอแล้วห่วยแตกเสียความรู้สึกมาก ก็คือเจ๊ง ขาดทุน ผมก็แค่เจอหนเดียว เอาเงินส่วนเกินของชีวิตมาเที่ยว( ดูข้อ 2.1 เอาเงินส่วนนั้นมาลงทุน) ขาดทุนแล้วก็ได้ความรู้ในการคัดแยกคน ( ได้ความรู้การคัดแยกการลงทุน) เราก็พัฒนาความรู้ไป   น้องคนที่สามเจอแล้วมีความสุขมาก (ลงทุนมีกำไร) ผมก็แค่ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าก็นัดเจออีกเรื่อยๆ  ไม่มีโอกาสก็ไม่ฝืนเจอ เจอคนดีๆคนอื่นที่ผมรู้จัก  บางคนเจอกันมามากกว่า5ปีแล้ว คือมีกำไรเรื่อยๆ  ( เล่นหุ้นมานานมาก ผมรู้จักหุ้นไม่ถึง20 ตัว  มีโอกาสก็วนไปมากำไรไม่รู้จบ ไม่มีโอกาสก็ทำอย่างอื่น )  นี่คือขาดทุนเป็น ขาดทุนก็เสียหายจำกัด ถือว่าค่าวิชา  กำไรเป็นคือกำไรแล้วก็เรียนรู้เหตุรู้ผลเพื่อที่จะทำซ้ำได้

ปล.  มีเวลาจะมาเขียนต่อว่าเริ่มอย่างไร
 

[kaptan]

   เทียบกับพี่ตาวัน ผมคงลงทุนยิ่งกว่าเหวี่ยงแห เข้าขั้นอวนลากเลยมั้งครับนี่
เจอน้องมา 250 คนขึ้นไป....แต่ผมว่าถ้าเอาความรู้สึกมาวัด ผมกำไรเยอะพอสมควรนะครับ
ผมว่าน้องๆ ที่ได้เจอมีความคุ้มค่าเกิน 150 คน เสมอตัว 60 คน ขาดทุน 30 คน
และกำไรท่วม 10 คน บางคนยังให้ผลตอบแทนต่อเนื่องมาจนเข้าปีที่ 3 ที่ 4 แล้วก็มี

   ชีวิต 5 - 6 ปีนี้ หายเหงา มีความสุข ก็เพราะเจอน้องๆ น่ารักๆ แบบนี้แหละครับ
น้องๆ ที่เจอที่ดีที่สุด 3 คนใน 250 คน มาจากเวปนี้อีกต่างหาก เอาชนะเวปคู่แข่งที่ปิดไป
เอาชนะเวปพริตตี้ที่หว่านๆ มาได้อีกนับ 10

   แค่เราต้องมีข้อมูลและรู้จักศึกษา ยอมรับข้อจำกัด ยอมรับความเสี่ยง และมีวิธีการ
ที่เหมาะสมกับการเจอแต่ละคนไป.....ที่สำคัญ ขาดทุนเป็นและตัดขายทิ้งในทันทีครับ

[kitten33]

เอาเงินไปผ่อนที่ดิน หรือคอนโดจ้า ระหว่างที่เราผ่อน ก้ปล่อยให้เช่าไป...
พอผ่อนหมดจะได้อสังหาเป็นเงินก้อนดตทีเดียวครับ

 

ถ้ามีเยอะแบบนั้นก้ดีสิคะ เรามีไม่มากถึงขนาดไปซื้อคอนโดนะค้าาา

[kitten33]

ขอตอบยาวๆตามนี้นะครับ
1 เก็บเงิน  ไม่เสี่ยงแต่ปัจจุบัณไม่ชนะเงินเฟ้อ  จำเป็นต้องเก็บเพื่อสำรองยามฉุกเฉิน

2 จะชนะเงินเฟ้อต้อง ลงทุน  การลงทุนมีความเสี่ยง ต้อง...

2.1 มีวินัยทางการเงิน  ใช้จ่ายให้มีรายจ่ายน้อยกว่ารายรับเสมอ คือรับมากกว่าจ่าย (น้องจำนวนมากที่เดือดร้อนที่ผมเจอใช้มือถือแพงกว่าผมสามเท่า ฟอร์นิเจอร์บนตัวแพงกว่าผมห้าเท่า...)  ใช่จ่ายแบบนี้จะมีเงินส่วนเกินเข้ามาสม่ำเสมอ=นี้คือเงินลงทุน  คือเงินเย็นที่เสี่ยงได้   เพราะถ้าเงินลงทุนคือเงินร้อน  ใจจะร้อน  ทำอะไรจะลนลาน  แล้วจะขาดทุนเพราะใจไม่นิ่งหวั่นไหวโลเล

2.2 สะสมความรู้  ถ้าความรู้ไม่พอ ระยะยาวจะเจ๊ง ถ้าลงทุนในสิ่งที่”กำไรของเราไม่ได้มาจากขาดทุนของคนอื่น” เช่น ทอง พันธ์บัตร ที่ดิน ต้องรู้ว่าทำไร อะไรทำให้ราคา เปลี่ยนแปลง

ถ้าลงทุนในหุ้น ”กำไรของเรามาจากขาดทุนของคนอื่น”  จะกินเงินเขาต้องรู้มากกว่าเขา ระยะยาว90%ของคนเล่นหุ้นเจ๊ง 7% พอไหว  3%รวย   90%ของคนถือกองทุนได้ผลตอบแทนที่ดีแต่ไม่มากจนรวยได้

2.3 เรียนรู้จัดการความเสี่ยง คือ รวยเป็น และ เจ๊งเป็น  ยกตัวอย่างใกล้ตัวก่อน
สมมุติว่าผมจ้างน้องใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน 3 คน ( ซื้อหุ้น 3 ตัว) น้องคนที่1และ2 เจอแล้วห่วยแตกเสียความรู้สึกมาก ก็คือเจ๊ง ขาดทุน ผมก็แค่เจอหนเดียว เอาเงินส่วนเกินของชีวิตมาเที่ยว( ดูข้อ 2.1 เอาเงินส่วนนั้นมาลงทุน) ขาดทุนแล้วก็ได้ความรู้ในการคัดแยกคน ( ได้ความรู้การคัดแยกการลงทุน) เราก็พัฒนาความรู้ไป   น้องคนที่สามเจอแล้วมีความสุขมาก (ลงทุนมีกำไร) ผมก็แค่ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าก็นัดเจออีกเรื่อยๆ  ไม่มีโอกาสก็ไม่ฝืนเจอ เจอคนดีๆคนอื่นที่ผมรู้จัก  บางคนเจอกันมามากกว่า5ปีแล้ว คือมีกำไรเรื่อยๆ  ( เล่นหุ้นมานานมาก ผมรู้จักหุ้นไม่ถึง20 ตัว  มีโอกาสก็วนไปมากำไรไม่รู้จบ ไม่มีโอกาสก็ทำอย่างอื่น )  นี่คือขาดทุนเป็น ขาดทุนก็เสียหายจำกัด ถือว่าค่าวิชา  กำไรเป็นคือกำไรแล้วก็เรียนรู้เหตุรู้ผลเพื่อที่จะทำซ้ำได้

ปล.  มีเวลาจะมาเขียนต่อว่าเริ่มอย่างไร
 

หนูเก็ยเงิบฉุกเฉินแยกไว้อยู่นะคะ รายได้ 6 เดือน เผื่อเดือดร้อน แยกกับกองนี้ พี่มาเล่าต่อเลยน้า อยากฟังๆๆๆๆ