WELOVEGIG

Welovegig | Website สำหรับคนอยากมีกิ๊ก => คุยเล่น ส่งการบ้าน ระบายความเศร้า => ข้อความที่เริ่มโดย: rolling11 ที่ สิงหาคม 17, 2016, 08:33:48 AM

หัวข้อ: อยากให้เข้ามาอ่านค่ะ บทเรียนราคาแพงอีกบทเรียนหนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: rolling11 ที่ สิงหาคม 17, 2016, 08:33:48 AM
ไม่รู้ว่าจะต้องตั้งกระทู้ที่ห้องไหน ขอตั้งที่ห้องนี้นะคะ
เพราะที่เข้ามาในวันนี้เพียงแค่อยากบอกเล่าในสิ่งที่เกิดขึ้น อยากให้เข้ามาอ่านกันค่ะ โดยเฉพาะพี่ๆที่มีลูกไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่11สิงหาคมที่ผ่านมานี้
ตอนนั้นหนูไปโรงพยาบาล
ทีนี้แม่ต้องไปส่งหนูเพราะข้อบกพร่องทางร่างกายจึงไม่สามารถขับรถมอไซต์ได้ แม่จึงฝากลูกหนูไว้กับเพื่อนแม่ที่รู้จักกันมานาน (เกือบ30ปี)
แค่เวลาสั้นๆไม่กี่ชั่วโมงที่ฝากลูกไว้หนูก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น

ตอนเย็นหลังกลับจากโรงพยาบาลหนูก็ไปรับลูกกลับ ปรากฎว่า ลูกงอแง ร้องไห้เหมือนเจ็บปวดตลอดเวลา ยิ่งดึกยิ่งร้องหนัก แถมขยับตัวไม่ได้ จึงเริ่มเอะใจว่าเกิดอะไรขึ้น
 ตอนเช้าจึงได้พาไปโรงพยาบาล


หมอได้ส่งไปตรวจเอ็กซเรย์ พอหมอบอกว่าขาหัก ใจมันทรุดลงไปเลย ตอนนั้นหมอส่งตัวน้องไปโรงพยาบาลใหญ่ในเมือง เพราะกระดูกที่หักมันเคลื่อนห่างกันออกไป อาจได้ทำการผ่าตัด
พอกลับมาเตรียมของที่บ้านจึงฝากเพื่อนบ้านใกล้ๆไปถามเพื่อนแม่ เพราะน้องอยู่ด้วยเป็นคนสุดท้ายก่อนเกิดเรื่อง ซักถามไปมาสักพักเขาก็บอกว่าเมื่อวานสามีเขาทำร้ายน้อง ตัวเขาเองไปห้ามทันอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าน้องจะเป็นหนักขนาดนี้
หนูจึงไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ฝากประสานงานไปทางตำรวจ ส่วนตัวหนูต้องพาลูกไปโรงพยาบาลก่อน

น้องนอนในโรงพยาบาลดูอาการ3วัน ขาที่หักบวมขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหาย หมอบอกว่าต้องผ่าตัด ไม่งั้นขาที่บวมอยู่จะไปกดทับเส้นประสาทต่างๆ
วันที่15สิงหาคม การผ่าตัดเป็นไปด้วยดี แต่น้องต้องใส่เฝือกครอบขาทั้งสองข้าง ขึ้นมาจนถึงเอว ทำให้ยากลำบากต่อการเปลี่ยนแพมเพิสมาก และต้องใช้เวลาถึง1เดือนกว่าจะถอดเฝือกออกได้
เวลานอนก็นอนไม่ได้ต้องอุ้มตลอดเวลา
ตอนนี้ทั้งแม่ทั้งหนูต้องคอยสับเปลี่ยนกับอุ้มอยู่ตลอดเวลา จนกว่าน้องจะหาย

สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่าคนที่เราจะรู้จักมานานแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถที่จะรู้ว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่ ขอให้กรณีของน้องเป็นตัวอย่างกับทุกคนค่ะ

http://www.mx7.com/view2/ziAVKBDuzzAElzOn
หัวข้อ: Re: อยากให้เข้ามาอ่านค่ะ บทเรียนราคาแพงอีกบทเรียนหนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: The Yong ที่ สิงหาคม 17, 2016, 08:42:59 AM
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น จิตใจคนที่ทำร้ายน้องมันทำด้วยอะไรถึงได้ เลวขนาดนี้ เป็นกำลังใจให้น้องหายไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: อยากให้เข้ามาอ่านค่ะ บทเรียนราคาแพงอีกบทเรียนหนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: Toh_BTS ที่ สิงหาคม 17, 2016, 08:46:39 AM
จิตใจคนทำ  หยาบช้ามาก.....

อยางไรก็ตาม ฝากเด็กกะใคร ดูๆศึกษาไว้บ้างครับ คิดว่าอาจต้องมีอีก.......

ดูครอบครัวที่รักเด็กดีที่สุด  เพราะเด็กต้องร้องไห้ ให้เอาใจ คนรักเด็กจะช่วยได้เยอะ
หัวข้อ: Re: อยากให้เข้ามาอ่านค่ะ บทเรียนราคาแพงอีกบทเรียนหนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: Sososoy ที่ สิงหาคม 17, 2016, 09:03:49 AM
เคยเจอมากับตัวแล้วค่ะ  จ้างป้าที่รู้จะจักกันดีเลี้ยงทูนทัว ซึ่งป้าคนเนี้ยเค้าเคยเล่นกับทูนหัวบ่อยๆ ทูนหัวขอบป้า โซเห็นว่าป้าเขาเลี้ยงทูนหัวได้เลยจ้างป้าเลี่ยงยอมจ่ายแพงกว่าที่เขาจ้างกันปกติหนึ่งเท่า เพราะทูนหัวเลี้ยงยาก

วันที่1-3ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
วันที่4 ก้นทูนหัวมีรอยโดนหยิก  โซก็ถามไปตรงๆซึ่งป้ายอมรับว่าหยิกจริงเพราะโดนทูนหัวกัด 

โซไม่ได้เอาเรื่องอะไร จ่ายค่าจ้างให้ป้า4วัน

ไม่กล้าฝากลูกกับใครอีกเลยค่ะ  เหนื่อยก็ยอม ไปร้านพาทูนไปด้วย เข้าสวนพาทูนหัวไปด้วย ถูกชาวบ้าแซะว่าพาลูกไปลำบาก ดีกว่าฝากลูกให้คนอื่นมาทำร้ายค่ะ

หัวข้อ: Re: อยากให้เข้ามาอ่านค่ะ บทเรียนราคาแพงอีกบทเรียนหนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: kaptan ที่ สิงหาคม 17, 2016, 10:22:35 AM
เข้าใจเลยครับว่าในยามที่เรามีความจำเป็นต้องฝากลุกไว้กับคนอื่นในบางวัน แม้เราจะเลือกดีแล้ว
แต่ก็อาจมีเหตุไม่คาดฝันขึ้น คงต้องคิดว่ายังดีที่ไม่มีอะไรร้ายแรงมากไปกว่านี้ น้องควรเอาเรื่องสามีป้าคนนั้น
อย่าให้ความเกรงใจที่แม่มีกับป้า มาทำให้ต้องบอกแค่ถือว่าฟาดเคราะห์นะครับ

     หลานชายพี่....ลูกน้องสาว ในวัยเด็ก 6 เดือน พ่อแม่ก็ต้องทำงานเลยเอาไปฝากบ้านที่รับเลี้ยงเด็กในชุมชน
เดียวกันเลี้ยงให้ ซึ่งก็เป็นไปด้วยดีจนวันนึงมันก็เกิดเรื่องจนได้...
     ก่อนวันสิ้นเดือนวันนึงคนที่รับเลี้ยงเด็กบอกขอหยุด 1 วันเพราะต้องไปทำธุระอะไรวส่วนตัว
น้องส่าวก็โอเค  วันสิ้นเดือนน้องเอาลูกไปส่งปกติ คนรับเลี้ยงเหมือนจะอยากหยุดแต่คงเกรงใจที่เพิ่งหยุดและน้องสาวจ่าย
ค่าเลี้ยงในวันนั้นด้วยก็เลยรับหลานพี่ไว้  ตกเย็นพี่กลับถึงบ้านน้องสาวบอกว่าไปรับลูกตามปกติ แต่ไม่มีใครอยู่ที่บ้านนั้นเลย
ปิดไฟ ปิดประตูเงียบ รอจนค่ำก็ไม่ติดต่อมา สมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือใช้กัน จึงไม่รู้จะไปตามที่ไหนอย่างไร
พี่ก็ไปแจ้งความไว้ก่อน.....เราก็ได้แต่รอ น้องสาวร้องไห้จนหลับไปกับสามีเค้า ส่วนพี่ตาค้างนอนไม่หลับ
คิดไปว่ามันน่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง.....แต่เชื่อว่าคงไม่ใช่ทางที่ดีแน่นอน ได้แต่ภาวนาขอให้หลานปลอดภัย

   ประมาณ 23 น.มีคนมาหน้าบ้าน ตะโกนเรียกคนในบ้าน พี่ยังไม่หลับก็เลยลงไปเห็นมีคนมา 2 คน คนนึงอุ้มเด็กอยู่
พี่ดีใจที่สุด รีบเรียกน้องสาว กับสามีทันที .....

   คนที่พาหลานมาส่ง ไม่ใช่คนที่รับเลี้ยงหลานพี่ แต่คนที่มาด้วยกับคนที่อุ้มเด็ก เป็นแม่บ้านของบ้านตรงข้าม
ที่น้องสาวพี่เอาลูกไปฝากเลี้ยง คนที่พาหลานพี่มาส่งเล่าว่า เพื่อนของเธอเองเป็นคนเอาหลานพี่ไปฝากไว้ในวันนั้น
บอกว่าฝากเด็กวันนึง เธอจะไปเที่ยวกับแฟน เกรงใจแม่เด็กที่เธอเพิ่งขอหยุดรับในวันก่อนหน้า แล้วยังรับค่าจ้างมาด้วย
เพื่อนก็แสนดีรับดูแลไว้ให้ แต่ก็แปลกใจว่าทำไมจนค่ำแล้วยังไม่มารับเด็กกลับไป ป่านนี้พ่อแม่คงเป็นห่วงแล้ว....

   เธอเลยพยายามติดต่อกับเพื่อนก็ติดต่อไม่ได้ โชคดีที่เธอรู้จักบ้านแม่ของเพื่อนเลยไปหา และได้รู้เรื่องราว
ที่น่าตกใจมากคือ เพื่อนเธอกับแฟนไปเที่ยวด้วยกัน แล้วเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน ทั้ง 2 คนเสียชีวิต !!!!!

   นางฟ้าคนที่ดูแลหลานพี่ ก็เลยพยายามมาตามหาแม่ของเด็ก มาถึงบ้านที่รับเลี้ยงซึ่งก็ดึกมากแล้ว
ไม่รู้ด้วยว่าบ้านพี่อยู่ไหน โชคดีมากที่แม่บ้านของบ้านตรงข้ามนั้น รู้จักกับน้องสาวบ้าง เคยคุยกัน
ตอนเอาหลานไปส่ง ไปรับ น้องสาวมักมีไมตรีกับคนอื่นได้ทักทายกัน และทำให้แม่บ้านคนนั้นรู้ว่า
บ้านน้องสาวพี่ อยุ่ตรงไหน ซึ่งอยู่ในชุมชนเดียวกันแต่คนละซอย ทำให้เธอพาคนที่รับเลี้ยงหลานไว้
มาส่งได้ถูก เราได้ลุกได้หลานคืนราวปาฏิหาริย์....

    เสียดายมากที่มัวแต่ดีใจ จนไม่ได้ถามที่อยู่ของคนที่ดูแลหลานให้ ไม่ได้ไปขอบคุณเค้ามากไปกว่าที่
ขอบคุณด้วยวาจาในวันนั้นเท่านั้น เค้ายังบอกว่าดีนะที่คนเลี้ยงไม่พาเด็กไปด้วย เอามาฝากเธอ ไม่งั้น.....

    ตอนนี้หลานพี่อายุ 25 ปีแล้ว เรียนจบแล้ว มีงานดีๆ ทำ เป็นลูกที่น่ารักของพ่อแม่ เวลาเล่าถึงเรื่องนี้
หลานก็บอกมันไม่น่าเชื่อว่าเกิดเรื่องนี้กับเค้า เค้าก็เสียดายที่ไม่มีโอกาสรู้ว่าคนที่เหมือนช่วยชีวิตเค้าเป็นใคร
จะได้ไปกราบทุกๆ ปี......

    โชคดีที่เรื่องนี้จบลงด้วยดีพอสมควร ที่ไม่ดีคือมีคนเสียชีวิตซึ่งเราก็เสียใจไปกับครอบครัวของเค้าด้วย....

     
หัวข้อ: Re: อยากให้เข้ามาอ่านค่ะ บทเรียนราคาแพงอีกบทเรียนหนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: rolling11 ที่ สิงหาคม 17, 2016, 05:15:40 PM
ต่อจากนี้คงมีเรื่องวุ่นวายหลายเรื่องตามมา แต่คงไม่คิดจะฝากลูกไว้กับใครแล้วค่ะ