สวัสดีครับ นี่เป็นการส่งการบ้านครั้งแรกของผม ตัวผมเองเคยจ้างน้องๆในเว็บเที่ยวมาประมาณ 5-6 ครั้ง แต่กับเธอคนนี้ผมรู้สึกประทับใจจนต้องขออนุญาตเจ้าตัวเพื่อเขียนการบ้าน แน่นอนว่าน้องไม่ยอม เนื่องจากกิตติศัพท์ความร้ายกาจของน้องค่อนข้างเป็นที่เลื่องลือ 5555 (น้องกลัวพี่ๆเข้าใจผิดว่าตัวเองใจร้าย)
แรกเลยคือผมรู้สึกเบื่อๆ พอดีเห็นโพสจ้างเที่ยวของน้องคนนึง จึงได้ PM ไป รอนานหลายวันก็ไม่มีข้อความตอบกลับ จนผมเริ่มถอดใจ คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ไปด้วยกันแล้วล่ะ แต่เธอก็ตอบกลับมาครับ เกือบอาทิตย์หลังจากผมทักไป
“ขอโทษด้วยค่ะพี่ ชญาไม่ค่อยได้เปิดกล่องข้อความในเว็บ ถ้าไงรบกวนติดต่อทางไลน์ดีกว่านะคะ อย่าโกรธน๊า” เจอแบบนี้ไปก็โกรธไม่ลงสิครับ
เมื่อแลกไลน์กันเป็นที่เรียบร้อยเราก็เริ่มพูดคุยทำความรู้จักกันก่อนเบื้องต้นจนคิดว่าเราน่าจะไปเที่ยวกันได้โดยไม่ขัดเขิน แต่...ให้ตายสิครับ คุณชญาคนนี้งานยุ่งเหลือเกิน วันผมว่างเธอก็ไม่ว่าง แล้วไอ้วันที่เธอว่าผมก็ดันไม่ว่าง คลาดกันไปมา แต่ในจุดนี้ทำให้ผมและเธอได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น นิสัยอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมประทับใจในตัวเธอคือ เธอตอบไลน์ผมเสมอครับ ไม่เหมือนน้องบางคนที่มาๆหายๆ สำหรับคุณชญา สี่ทุ่มห้าทุ่มหรือตีสามตีสี่ไม่ใช่ปัญหา เธออุตส่าห์ตื่นมาตอบ จนผมแอบๆสงสัยว่าแม่คนนี้เคยนอนบ้างหรือเปล่า
จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อเวลาของเราทั้งสองคนลงตัว เราจึงได้ฤกษ์เจอหน้ากันเสียที จุดหมายปลายทางของเราครั้งนี้คือพัทยาครับ (ผมประทับใจการบ้านฉบับก่อนของเธอที่เขาชีจรรย์ ซึ่งมันหวานมากกก)
เรานัดเจอกันตอนสิบโมงครึ่งที่เซนทรัลชลบุรี เพราะใกล้บ้านคุณชญา และเพื่อหาเสบียงใส่ท้อง คุณชญามาในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดกับกางเกงยีนพับขา รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อดูทะมัดทะแมง ต่างจากที่ผมคิดไว้มากเลยล่ะครับ เพราะภาพเธอที่ผมวาดไว้ในหัวคือผู้หญิงลุคส์คุณหนูที่ดูร้ายๆเอาแต่ใจ แต่เปล่าครับ คุณชญา...เธอโคตรเท่เลย
ในระหว่างที่ทานอาหาร ผมลอบพิจารณาเธอ คุณชญาเป็นผู้หญิงสูงโปร่ง ผิวสีแทนอ่อนๆซึ่งตรงสเปคผมสุดๆเลย ดูสุขภาพดีเหมือนคนเล่นกีฬา (มารู้ทีหลังว่ากีฬาหนักสุดที่เธอเล่นคือการเต้นศ) เธอมีใบหน้าเรียวเล็ก คิ้วโก่งได้รูป จมูกโด่งพอประมาณ กับริมฝีปากบางได้รูปที่สบถได้น่าฟังที่สุด จุดเด่นของเธออยู่ที่ดวงตาครับ เธอมีดวงตากลมโต และที่ทำให้ผมสนใจคือ ไม่ว่าเธอจะยิ้มหรือหัวเราะ แต่แววตาเธอไม่เปลี่ยนเลยครับ นิ่งจนผมอ่านเธอไม่ออก ชักๆแล้วสิ
เมื่อหารับประทานกันเรียบร้อยเราก็มุ่งหน้าสู่พัทยา ในระหว่างที่ขับรถ คุณชญาเอามือสองข้างกอดอกแล้วใช้ตาคมกริบของเธอมองหน้าผมชนิดที่ว่าไม่กระพริบตาเลยล่ะครับ เรียกได้ว่าหันไปมองหน้าเธอครั้งใดก็จะได้เจอตาโตๆของเธอมองมาตลอด ผมว่าเธอคนนี้มีจิตวิทยาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว พิสูจน์ได้จากการที่ผมกล้าเล่าเรื่องบางเรื่องให้เธอฟัง ทั้งๆที่ผมไม่เคยกล้าเล่าให้ใครฟังแม้แต่เพื่อนสนิท เราคุยกันไปตลอดทาง บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความสนุกสนานครื้นเครง เราเล่นต่อเพลงกันในรถ
เป็นอีกครั้งที่ต้องบอกว่าคุณชญาคนนี้เธอโคตรจะเป็นตัวของตัวเองเลยครับ ก็เธอเล่นร้องแต่เพลงสุนทราภรณ์ ซึ่งคุณชญาอายุ 24!! อินดี้มาก
ประมาณหนึ่งชั่วโมงเราก็มาถึงสถานที่แรก เรียกได้ว่าตามรอยการบ้านฉบับที่แล้วเลยล่ะครับ “เขาชีจรรย์” ครั้งนี้ฝนไม่ตก ผมเลยไม่มีโอกาสได้กางร่ม แถมคุณเธอยังแอบเหน็บให้เจ็บใจอีกด้วยว่า ถึงฝนตก เธอก็จะเดินตากฝน เพราะเธอเตรียมพร้อมที่จะลุยเต็มที่
บรรยากาศรอบด้านก็มีนักท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ชาติตะวันตกมีให้เห็นบ้างประปราย เราสองคนแวะถ่ายรูปและเดินชมสถานที่ คุณชญาพาผมไปดูก้อนหินก้อนใหญ่ที่เธอบอกว่ามีซากดึกดำบรรพ์อยู่ ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเรียกว่า “คตข้าวสาร” เธอบอกว่าเธอเคยมาทำงานวิจัยที่นี่สมัยเรียน
?
เมื่อพักดื่มน้ำแก้กระหายแล้ว จุดหมายต่อไปของเราคือไร่องุ่นซิลเวอร์เลคที่อยู่ข้างๆกัน จุดนี้ค่อนข้างร้อนจนผมสู้ไม่ไหว แต่คุณชญาเธอสู้ไม่ถอยเลยจริงๆ สู้มือเปล่าเสียด้วย หมวก ร่ม ไม่ต้อง
สุดท้ายเลยไม่ได้แวะนาน เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำจากองุ่น เช่นไวน์ คุกกี้ น้ำองุ่น และลูกกวาดอีกนิดหน่อยเราก็เดินทางออกจากสถานีที่สองของวัน
จุดหมายต่อไปคือแกลอรี่ภาพสามมิติ อาร์ต อิน พาราไดซ์ ซื้อบัตรเข้าชมเป็นที่เรียบร้อยเราก็เดินจูงมือกันถ่ายรูปกันสนุกสนาน โพสท่าแปลกๆย้อนวัย ที่นี่จะมีภาพปีกนางฟ้าสีขาว แต่พอคุณชญามายืนแล้วผมถึงกับหัวเราะก๊าก ปีกนางฟ้านี่มันช่างไม่เข้ากับเธอเอาซะเลย ถ้าเป็นปีกทิงเกอร์เบลล์คงเข้ากันดีไม่น้อย เราใช้เวลาที่นี่ค่อนข้างนานพอสมควร ดูท่าทางคุณชญาจะชอบงาิลปะต่างจากผมที่ดูไม่เป็นเลย แต่ผมก็ไม่เบื่อนะครับ ใจคิดอยากจะให้เข็มนาฬิกาเดินช้าๆลงด้วยซ้ำ จะได้ทอดเวลาให้เราสองคนนานอีกนิด
ในที่สุดงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราครับ
ขากลับ คุณชญาอาสาขับรถให้ ด้วยความที่อยากมองหน้าหวานๆของเธอนานๆผมจึงยื่นกุญแจรถให้เธอแต่โดยดี ไม่นึกเลยว่านี่จะเป็นการเปิดเผยโฉมหน้าของปีศาจคัทเตอร์ในตำนาน welovegig
แม่คุณขับรถได้สิบล้อมากๆครับ เดี๋ยวแซงเดี๋ยวปาด คันไหนกวนประสาทเธอ เธอตามปาดหน้าเลยครับ ปาดหน้าไม่พอ มีเปิดกระจกยักคิ้วใส่ เป็นน้องเป็นนุ่งคงมีตีกบาลกันบ้างล่ะ สาบานเลยว่าเที่ยวกับเธอครั้งหน้าจะไม่ยอมให้เธอขับรถอีกแล้ว เหยียบมันร้อยหกสิบ หัวใจผมจะวาย แต่สุดท้ายเธอก็พาผมมาถึงเซนทรัลชลบุรีอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน...และลูกปืน
เป็นอีกหนึ่งวันที่สาวน้อยคนนี้ได้ฝากภาพความทรงจำที่น่าประทับใจเอาไว้กับผม รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเธอ เสียงเพลงของเธอ ดวงตาคมหวานของเธอ และที่สำคัญ...ฝีมือการขับรถของเธอ จะติดตรึงใจผมไม่รู้คลาย
ข้อเสียของคุณชญาคือ เธอทำให้ผมลืมไปเลยว่านี่คือการจ้างเที่ยว และนั่นมันทำให้ผมอยากสารภาพกับเธอ ว่าผม “ชอบ” เธอ จริงๆนะ เธอกำลังทำให้ผมแยกแยะโลกความจริงกับโลกความฝันไม่ออก
ปล. ผมไม่รู้ชื่อจริงของเธอ ไม่รู้ข้อมูลส่วนตัวใดๆของเธอเลย นอกจากรู้ว่าเธอพกคัทเตอร์ตราม้า และหิ้วกระเป๋าชาแนลก๊อบ!!!