สวัสดีค่ะ
วันนี้ไม่ได้จะมาส่งการบ้านนะคะ แต่จะมาแชร์เรื่องราวดีๆที่มีในเว็บสีเทาแห่งนี้ค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะว่า ช่วงนี้ป่วยบ่อยมากค่ะ สามวันดีสี่วันไข้
ซึ่งมันเป็นอะไรที่เฟลมากๆ
คือแบบว่าบางวันเราก็อยากออกไปจิ๊จ๊าดี๊ด๊าด้านนอกบ้าง แต่เวรเจ้ากรรม เป็นไข้กระทันหันซะงั้น!!! ล่าสุดทำพี่คนหนึ่งที่อยากเจอเรามากๆเฟลซะงั้น!!! เพราะวันนั้นก่อนจะได้เจอกันไข้ดันขึ้นแถมเป็นหวัดเลยทานยานอนพักผ่อน ตื่นมาไข้ก็คงลด เราก็ไปลั้นลากับพี่เขาได้ (เลทมาหลายวันแล้วงี้อ่าาา) สรุปว่า......
หลับเป็นตาย หลับตั้งแต่สิบโมงยันบ่ายสาม!!! นาฬิกาปลุกก็เอาไม่อยู่
วันนั้นเลยเป็นอันว่า ไม่ได้ไปตามนัด เราก็ไลน์ไปขอโทษพี่เขา
แงงง....เสียจายยยยย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าไม่พร้อมอย่ารับนัดใครเด็ดขาด
อ้อๆ เข้าเรื่องเลยดีว่าค่ะ
คือว่าวันนี้ 29/01/58 ก็ป่วยเช่นเดิมค่ะ แค่เป็นหวัดเฉยๆ พูดจาอ้อแอ้ๆ ดูไม่เต็มเต็ง แต่ที่แย่คือเราไปทำให้ตัวเองป่วยหนักขึ้นไปอีก เพราะท้องไส้ดันอยากกินส้มตำ เลยออกไปหากินแถวๆร้านส้มตำ ได้ส้มตำเผ็ดๆมา1ถุง ปลาทอด1ตัว และตำซั่วอีก1ถุง (กินเยอะจังแฮะ) ทีนี้คือไม่รู้ว่าเกิดมหันตภัยมาว่า มันมีสสารที่มีพลังงานสูงอยู่ในลำไส้ ก่อให้เกิดการหมักของเชื้อจุลินทรีย์ และท้องเสียแบบ ถ้าเอาไปแข่งกันจรวดคิดว่าเร็วกว่าจรวดนะคะ
เอาล่ะค่ะ ท้องเสียขั้นวิกฤต แบบว่ามันจู๊ดๆทุก5นาทีเลยค่ะ นอนกุมท้องดิ้นแด่วๆจะตายแหล่มิตายแหล่บนพื้นห้อง
ต้องไปโรงพยาบาลด่วนเลยค่ะ โดนน้ำเกลือไป2ถุง ทีแรกจะได้นอนโรงพยาบาลแล้ว แต่ร่างกายมันฟื้นฟูเร็วมาก ถึงจะเจ็บตูดอยู่ก็เถอะค่ะเลยขอไม่นอนดีกว่า (อันที่จริงคือเป็นคนกลัวผีมากค่ะ ไม่กล้านอนโรงพยาบาล)
พอกลับมานอนเล่นที่ห้องได้สักพัก ก็มีไลน์น่ารักๆทักเข้ามา
มีพี่คนหนึ่งที่พอรู้จักกันบ้าง ซึ่งก็เล่นบอร์ดนี้เหมือนกันค่ะ เคยนัดเจอกันเพียง2ครั้ง พี่เขาเป็นคนยิ้มง่าย สบายๆ
พี่เขาทักเข้ามาว่า วันนี้ว่างมั้ยจะชวนไปดูหนังที่โรงหนัง
อยากตอบตกลงและโดดจูบ... แต่อาราม...ท้องเสียจนลุกไปไหนไม่ไหวจริงๆ เลยต้องขอปฏิเสธพี่เขาไป พี่เขาก็ไลน์มาบอกว่าเป็นห่วงนะ ทำไมถึงท้องเสีย ไปทำอะไรมา หาหมอยัง? หูยยยย รู้สึกดีใจที่มีคนเป็นห่วง
คุยไลน์ไปได้ซักพักเราก็เกิดอาการเพลียเลยขอตัวไปพักผ่อน เพราะไม่ไหวจริงๆ
2ชั่วโมงผ่านไป....
จู่ๆมือถือที่ค่อนข้างเงียบก็ดังขึ้น เราเอื้อมมือไปรับอย่างคนใกล้ตาย
เรา : ฮัลโหลค่าาาา
?? : ดีๆ น้องส้ม
เรา : หวัดดีค่ะ ใครคะ? เงียบๆ งั้นวางๆๆๆ
?? : เดี๋ยวๆอย่างเพิ่งวาง อะไรเนี่ย ยังไม่ทันได้คุยเลย จำพี่ไม่ได้เหรอคะ
เรา : (ก้มมองชื่อที่เมมไว้) อ่อค่ะ จำได้ค่ะ สวัสดีค่ะ
?? : นึกว่าลืมกันซะละแหม่ เป็นไงบ้าง ดีขึ้นรึยัง?
เรา : ดีขึ้นบ้างแล้วค่ะ แห่ๆ
?? : ดีแล้ว นี่พี่อยู่หน้าหอที่น้องอยู่อ่ะครับ พอดีพี่เป็นห่วงน้องอ่ะ ซื้อกับข้าวมาฝากด้วยนะ ลงมาหน่อยสิ
ตกใจเลย!!! เรารีบลุกจากเตียงลงไปข้างล่างทันที พี่เขารออยู่ด้านนอนหอ มื้อไม้หิ้วของพะรุงพะรัง พอเห็นเราก็ยิ้มๆให้ พี่บอกว่าซื้อกับข้าวมาให้เพราะกลัวว่าเราจะหิว และท้องเสีย อยากให้พักผ่อนอยู่ไม่อยากให้ไปไหน เดี๋ยวเป็นลมหน้ามือ (ขนาดนั้น)
เลยซื้อมาฝาก
แลวพี่เขาก็ขอตัวกลับไปเคลียร์งานที่บริษัทต่อ
ดีใจอ่ะ ที่พี่เขาซื้อไก่ทอดมาฝาก (ใจจริงอยากได้โจ๊กมากกว่า) แล้วพี่เขาก็บอกว่าไม่ต้องให้อะไรตอบแทนนะ ที่มาเยี่ยมเพราะว่าเป็นห่วง
คือแบบว่า ดีใจอ่ะ เอ้อ...ไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดละ บ้านพี่เขาอยู่ตั้งไกลกับบ้านเราหลายสิบโลเลย ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมเราอ่ะ
พี่เขาสอนให้รู้ว่า....มันไม่ใช่ว่าการรับงานจะจบอยู่แค่ตรงนั้นซะหน่อย ไม่ใช่ว่าจบงาน ได้ค่าขนมแล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันไป ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่ว่าเรายังสามารถช่วยเหลือดูแลกันได้ ไม่ใช่แค่การรับงานอย่างเดียว จบงานเราก็ยังเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อน ที่ปรึกษากันได้ เราก็จะได้มิตรภาพใหม่ๆเพิ่มขึ้น เหมอนได้2ต่อเลยอ่ะ ต่อแรกคือค่าขนม ต่อที่สองคือมิตรภาพที่ดี
ป.ล. ไก่ที่พี่ให้มาหนูทานไม่หมดค่ะ แหะๆ