ตานากับตาอิน, บ้านแกอยู่ริมทะเล; แกเป็นเพื่อนกัน, แกเคยไปหาปลาตามชายทะเลด้วยกันเสมอ แต่หาปลาได้น้อยไม่พอกิน, ถ้าวันไรใครหาได้มาก คนนั้นก็ได้กินอิ่ม, ถ้าได้น้อยก็กินไม่อิ่ม
อยู่มาวันหนึ่งเมื่อถึงเวลาจะไปหาปลา, ตานาจึงพูดกับตาอินว่า "เพื่อนเอ๋ยเพื่อน, ธรรมเนียมที่เคยนั้นเราเลีกเสียเถีด; เรามาสัญญากันเสียใหม่จะดีกว่า, คือถึงเวลาจะไปหาปลาเมื่อไรก็ให้กะแยกทางกันเสีย, ว่าใครชอบจะไปทางเหนือทางใต้ หรือทางน้ำลึกน้ำตื้นอย่างไรก็ตามใจ, แล้วแต่จะตกลงกันเมื่อเวลาที่จะไป, ถ้าได้ปลามาแล้วก็มาแบ่งปันกัน." ตาอินก็เห็นชอบด้วยจึงว่า "ดีแล้วที่แกว่านี้เป็นอย่างชอบใจเราที่สุด."
เมื่อตานากับตาอินพูดกันตกลงแล้ว, ตาอินชอบไปหาทางน้ำตื้นแกก็ไปหาตามชายหาดทรายแลในคลอง. ตานาแกก็ไปเที่ยวหาที่ทะเลน้ำลึกๆ; หาไปๆ แกก็เอาช้อนได้ปลาฉลามใหญ่ตัวหนึ่งแล้วแกก็พามาบ้าน.ฝ่ายตาอินไปหาวันยังค่ำไม่ได้ปลาเลยสักตัวเดียว, พอเวลาเย็นก็กลับมาบ้าน.
ตานานั่งคอยอยู่พอเห็นตาอินกลับมามือเปล่า; จึงแกล้งถามว่า "เพื่อนได้ปลากี่ตัว?" ตาอินจึงว่า "เราไปวันนี้ไม่ได้ปลาเลย;" ตานาหัวเราะแล้วจึงว่า "แกเต็มทีนัก, ไปทั้งวันจะเอาปลาสักตัวเดียวก็ไม่ได้, เราไปครู่เดียวได้ปลาฉลามมาตัวหนึ่งใหญ่สะนัด. ปลาตัวนี้เราจะให้แกครึ่งหนึ่ง; แต่เราจะเอาข้างหัว, แกต้องเอาข้างหาง.
พอตานาว่าเท่านั้น ตาอินก็โกรธจึงว่า "เราจะเอาข้างหัว แกจะเอาข้างหางบ้างเป็นไร?" ตานาจึงว่า "เราเป็นผู้หามาได้ เราจึงจะเอาข้างหัว, แกหาไม่ได้ เราจะให้ข้างหาง, ว่าอย่างนี้จะถูกหรือผิด?" ตาอินจึงว่า "แกว่าอย่างนั้นก็จริงอยู่, แต่เดีมทำไมแกจึงไม่พูดอย่างนี้, เป็นแต่สัญญากันว่าหามาได้แล้วก็กินด้วยกันเท่านั้น, ทีเมื่อได้ปลามาแล้วจะมาว่าคนนั้นได้ข้างหัว, คนนี้ได้ข้างหาง อย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ยอม" ตานากับตาอินโต้เถียงกันไปมาก็ไม่ตกลงกัน.
ฝ่ายตาอยู่แขนคอกไปซื้อกระดาดมาจะปิดว่าวขาย; แกเดีนมาทางนั้น. ตานากับตาอินกำลังเถียงกันวุ่นวาย, พอเห็นตาอยู่ถือกระดาดเดีนมา; นึกว่าเป็นตระลาการก็ดีใจ, เชีญตาอยู่ขึ้นมาบนเรือนแล้ว, ก็บอกเรื่องที่โต้เถียงกันนั้นให้ตาอยู่ช่วยตัดสิน ตาอยู่ก็ทำอุบายว่า "อืออือ! เหนื่อยจริงๆ เขาเชีญเราไปชำระความพึ่งกลับมาเดี๋ยวนี้, ู๋ กระดาดเขียนเรื่องราวเป็นหอบสองหอบชำระเสียออกแย่แล้ว. เราว่าจะกลับไปบ้านอาบน้ำเสียให้สบายสักหน่อย, ความเล็กน้อยเท่านี้ก็ต้องมากวนเราด้วย."
ตานากับตาอินก็อ้อนวอนไปอ้อนวอนมา. ตาอยู่ทำทีเป็นเสียไม่ได้จึงว่า "ถ้าจะให้เราชำระจริงๆ แล้ว ต้องเชื่อฟังคำเราทุกอย่างจึงจะชำระให้ได้" ตานากับตาอินดีใจก็รับว่าจะเชื่อฟังคำทุกอย่าง.
ตาอยู่เห็นสมคะเนก็เอามีดตัดปลานั้นออก ท่อน, แล้วแกจึงบอกว่า ปลา ท่อนนี้; ให้ตานาได้ข้างหัว,
เพราะเขาเป็นผู้หามาได้. ส่วนตาอินนั้นให้แกได้ข้างหาง, เราเป็นผู้ตัดสินได้ข้างกลาง,"
พอตาอยู่ว่าอย่างนั้น, ตานากับตาอินจะไม่ยอมก็ไม่ได้, เพราะได้พูดไว้เสียแล้วว่าจะเชื่อฟังคำของตาอยู่ทุกอย่าง, ก็จะเป็นต้องให้ตาอยู่ได้ข้างกลาง, แล้วจึงคิดเห็นว่า "เราไม่พอที่เลย, เมื่อก่อนจะแบ่งปันให้กันกินเสียแต่ดีๆ ก็จะแล้วกัน, นี่ตาอยู่มาเอาไปกินเสียเปล่าๆ; แล้วเอาที่ตรงพุงมันไปกินด้วย, ไม่เป็นเรื่อง, การอะไรเราตกลงกันเสียแต่ลำพัง, คงดีกว่าหาผู้มาตัดสินเป็นแน่"
ตั้งแต่นั้นมาตานากับตาอินไปหาปลามาได้ก็แบ่งสู่กันกินเป็นปรกติ, ไม่โต้เถียงกันอย่างแต่ก่อนอีกเลย.
จาก "สอนอ่านบทที่ " ใน แบบเรียนเร็ว สำหรับเรียนหนังสือไทย เล่ม พระนิพนธ์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (ครั้งดำรงพระยศ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ) พิมพ์ครั้งแรก ร.ศ. ๐.
..... อ่านต่อได้ที่:
https://www.gotoknow.org/posts/249415