ต่อๆ อืม เรื่องราวของหนูก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่นะคะ เราใช้ชีวิตประจำวันด้วยกัน เหมือนคนคบกันทั่วไป
โชคดีที่งานของพี่เค้ายืดหยุ่นได้ พี่เค้าเลยแวะมาหาหนูที่ห้องได้ มักจะซื้ออาหารมาฝากมื้อกลางวันควบมื้อเย็น แล้วเราก็นั่งทานด้วยกัน เปิดทีวี ิจิตอลทีวี ดูซี่รี่ส์ ดูการ์ตูน ดูหนังจากเน็ตบ้าง บางทีดูหนังผู้ใหญ่ด้วยกันก็มี (ผู้ใหญ่ที่ไม่ใส่เสื้อผ้าแสดง) แล้วแต่อารมณ์ 555
เราอาบน้ำด้วยกันทุกวัน ทาครีมทาโลชั่น ตัดเล็บมือเล็บเท้า นวดตัว ดูแลกันอย่างที่คนรู้สึกดีๆ ให้กันสามารถทำได้
ช่วงที่มีสอบหรือมีงานที่มหาลัยแยะ พี่ก็จะมานั่งติวคำนวณให้ ซื้อเสบียงมาตุนให้
เช่นกันเวลาที่พี่ยุ่งๆ แต่ว่าอยากให้มีคนอยู่ด้วยหรือมีนัดไม่ไกลจากโซนที่หนูอยู่ พี่เค้าก็จะมาแวะรับให้ติดรถไปทำงานด้วย โดยให้รอ เสร็จงานแล้วเราก็ไปหาข้าวอร่อยกินกันตามเรื่องตามราว
ชีวิตก็วนเวียนอยู่อย่างนี้แต่ก็ยอมรับว่ามีความสุขมาก ทั้งที่ตอนนั้นไม่คิดว่าพี่เค้ารักหนูอะไร เพราะรู้กันโดยดีอยู่แล้วว่าไม่ก้าวก่ายเรื่องของกันและกัน
จากนั้นมีเรื่องให้ต้องครุ่นคิดเป็นการน้อยอกน้อยใจของหนูครั้งแรกเมื่อได้ทราบว่าพี่มีคุยกับสาวอื่น หุหุ (ที่รู้มาเพราะว่าสกิลการมโนอันชาญฉลาดนี่เอง ที่สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ถ้าคนไม่ดราม่าอย่างหนูคิดไม่ออกนะนั่น)
ตอนนั้นพี่แนะนำให้หนูเลิกทำงานเสริมไปแล้วด้วยดิ่ หนูก็ไม่ได้คุยกะพี่ในเว็บเชิงชู้สาว (แต่หนูมีคนที่คุยอยู่นอกเว็บบ้าง) พี่กะหนูก็ไม่ได้เป็นแฟนกันแต่น้ำตาเจ้ากรรมมันไหลไม่หยุด ก็เรียกได้ว่างอนแบบผู้ใหญ่ ร้องไห้แต่ไม่เรียกร้อง ฉันเป็นหญิงแกร่ง แต่ แล้วในที่สุดพี่ก็มาหาหนูแล้วปลอบใจ (สงสัยเพราะหนูร้องไห้หนักมาก)
เรื่องนี้เองเป็นเรื่องที่ทำให้หนูรู้ตัวแล้วหละว่าหนูรักพี่เค้าไปแล้วเต็มๆ ใจ เพราะมันเศร้าหนักมาก
ตอนนั้นเองเริ่มรู้สึกลึกๆ แระว่า ความสัมพันธ์เราเริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
อ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะงงว่าเราคบกันแบบไหน คบกันของหนูก็คือคบกันค่ะ ไม่ใช่ ดูแล
พี่บอกว่าอย่างพี่น่ะ ดูแลใครไม่ได้ แต่ว่าพี่ก็ให้ตังค์มาเป็นค่าใช้จ่ายตลอดไม่ขาด แถม ค่าห้อง อุปกรณ์การเรียน ค่าเทอม อาหารพี่ก็ซื้อมาให้หนูเกือบทุกมื้อ ให้หนูตั้งใจเรียนแค่นั้น
แล้วเรื่องทางกายล่ะ...
หนูมีไรกับพี่เค้าเกือบทุกวัน ก้อประมาณ 5-6 วันต่อหนึ่งอาทิตย์ แต่ว่ามันไม่ใช่แบบหมกมุ่นนะ มันเหมือนเจอกันเราก็อยากกอด อยากจูบแฟนแบบนั้น แล้วมันก้อแบบเล่นๆ กันไปเรื่อยๆ แล้วก็นะ ...ไปจบลงที่เตียง
พี่เค้าบอกว่าก็ไม่เคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน เป็นกับหนูคนเดียว หนูก็ตอบสนองด้วยความรู้สึกที่ว่า...รัก และอยากใกล้ชิดเช่นกัน ความรู้สึกมันพิเศษมาก มันไม่ใช่เรื่องอย่างว่า หนูรู้สึกดีที่พี่เค้ากอด มาลูบหัว แล้วไล่ให้ไปนอนพัก
นอกจากนี้เวลาที่ป่วยก็มีผู้ชายคนนี้แหละที่มาดูแล ปฐมพยาบาล ตั้งแต่เกิดมานอกจากพ่อแม่แล้วก็มีแค่เค้าที่อยู่เคียงข้าง หนูค่อยๆ เติบโตขึ้นทีละน้อยๆ เรียนรู้ความใจแมนจากพี่และความดีจากพี่ หลายอย่างพี่สอนหนูโดยทำเป็นตัวอย่าง จากนั้นวันนึงพี่ก็พูดว่าก็เราคบกันแบบแฟน... วันนั้นน้ำตาหนูซึม ดีใจมากอย่างไม่มีสาเหตุ
เพราะว่าเป็นคำที่ออกมาจากผู้ชายที่บอกว่าไม่รักใครหรอก ไม่หวาน แต่กิ๊กเพียบอย่างพี่
เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ ไลน์ที่ส่งมามีเรื่องฮา ๆ ส่งเพลง ส่งกลอน ไม่ก็บอกให้อ่านหนังสือ ให้กินยา ไล่ให้ไปนอน กับพี่ไม่มีคำหวานหรือคำหลอกลวง
แต่สุดท้ายของทุกๆ วันจะจบที่ คำว่า จุ๊บๆ แล้วก็รักนะ แต่จะบอกว่าสิ่งที่ทำให้หนูเชื่อพี่โดยตลอดก็คือความสม่ำเสมอของพี่
ไม่เคยลดน้อยลงซักวัน เคยดียังงัยก็ดีอย่างนั้น ช่องว่างเรามีแค่ไหนก็รักษาไปอย่างนั้น
พักแปป เด๋วถ้ามีแรงและมีอารมณ์เขียนจะมาเล่าอีกเรื่อยๆ ค่ะ