ผู้เขียน หัวข้อ: ขอเวลาแค่ 1 นาที  (อ่าน 1889 ครั้ง)

Nong-Dam

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 578
  • People Like This 390
ขอเวลาแค่ 1 นาที
« เมื่อ: มิถุนายน 24, 2015, 03:12:30 PM »
  ขอเวลาแค่ 1 นาที ~ ..

ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง โดนใจและติดใจข้อความ...อยากมาแชร์ค่ะ

มีชายหนุ่มไฟแรงคนหนึ่ง มุมานะทำงานอย่างมุ่งมั่น
เขามีความฝัน จะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์และอบอุ่นกับแฟนสาว
เธอจะมารอ.. ที่หน้าประตูบ้าน.. ของเขาเป็นประจำ
หลังจากที่เขาเลิกงาน.. เขาพบเธอ..ก็ยิ้มแย้ม ..ยินดีต้อนรับ..
สนทนากัน..แล้วเธอก็กลับไป..

วันนี้เขากลับถึงบ้านช้ากว่าปกติมาก
แต่แปลกที่ยังเห็นเธอยืนรอที่หน้าบ้านเขา.. เช่นทุกวัน

“ โทษทีนะที่รัก วันนี้มีงานด่วน เลยกลับมาช้าไปหน่อย ”

เธอยังยิ้มให้เขา และถามว่า
“ คุณทำงานจนมีรถ มีบ้านอย่างที่ตั้งใจแล้ว.. ทำไมยังทำงานหนักอีกล่ะ ? "
ชายหนุ่มตอบ
“ ผมอยากมีบ้านที่มีบริเวณมากกว่านี้ มีรถที่ดูโอ่อ่ามากกว่านี้.. เพื่อคุณนะจ๊ะ ”

เวลาผ่านไป 1 ปี หญิงสาวมาหาเขาบ้าง ไม่มาบ้าง แต่เขาก็ไม่มีเวลามาใส่ใจกับเรื่องอย่างนี้

วันหนึ่งเธอเอ่ยถามเขา “ คุณมีเงินมากพอจะซื้อบ้านหลังใหญ่รึยัง ?”

ชายหนุ่มคิด แล้วตอบ “ ขอเวลาอีกสักหน่อย !! ผมอยากซื้อแหวนวงใหม่ มาเปลี่ยนให้คุณด้วย ”

เขาจุมพิตมือที่สวมแหวนทองวงเล็กเบาๆ

“ ฉันบอกหรือว่า ฉันอยากได้แหวนวงใหม่ ? "

“ ผมอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดเสมอ.. ที่รัก ”

เวลาผ่านไป 3 เดือนแล้ว..ที่เขาไม่เห็นเธอที่หน้าประตูบ้าน
วันนี้เขามีบ้านหลังใหญ่ เขาจึงตัดสินใจลางาน 1 วัน เพื่อไปหาเธอ
เขาขับรถคันหรู ผ่านเส้นทางที่ขรุขระ อย่างยากลำบาก !

  **40** " เธอต้องใช้ทางเส้นนี้มาหาเราทุกวันเหรอเนี่ย ? เขารำพึง .. "

เมื่อมาถึง..
แม่ของเธอออกมาต้อนรับ และมอบกล่องไม้ใบหนึ่งให้เขา
และบอกเส้นทางที่เป็นสถานที่ ที่เธออยู่ ที่ซึ่งเขาจะพบเธอได้ !!

บนเนินเขาเล็ก ๆ รายล้อมไปด้วยดอกไม้
มีแท่นหินสลักชื่อหญิงสาว ตั้งอยู่กลางเนิน
น้ำตาของลูกผู้ชายไหลรินออกมา
มือสั่นเทาของเขา เปิดกล่องไม้อย่างช้า ๆ
ข้างในกล่องอัดแน่นไปด้วยกระดาษแผ่นเล็ก ๆ

เขาเริ่มหยิบกระดาษมาอ่านข้อความ.. ทีละใบ.. ทีละใบ..

“ วันนี้ ..คุณกลับมาช้า...ฉันรออยู่ 2 ชั่วโมง ..ไม่เป็นไร ..เพราะฉันรักคุณ ”

“ วันนี้ฝนตก.. ฉันยังรอ ..แต่ก็ไม่เจอคุณ.. ไม่เป็นไร .. แต่ฉันยังรักคุณเสมอ ”

“ ฉันเริ่มป่วย.. จนไปหาคุณไม่ได้ ..คุณคงไม่ทันได้สังเกต.. ไม่เป็นไร.. แต่ฉันก็ยังรักคุณ ”

“ วันนี้ .. คุณบอกจะเปลี่ยนแหวนวงใหม่..คุณคงลืมว่า..

ฉันตอบตกลง.. จะแต่งงานกับคุณ ..เพราะแหวนวงนี้.. แต่ไม่เป็นไร.. ที่ผ่านมา.. ฉันยังรักคุณ ”

ชายหนุ่มได้เรียนรู้แล้วว่า..
บางทีสิ่งที่เขาไขว่คว้ามาตลอดชีวิต อาจเทียบไม่ได้กับ
สิ่งเล็กน้อย.. ที่เขาเคยได้รับ จนเป็นเรื่องปกติของทุกวัน

รถคันหรูแล่นไกลออกไป เหลือไว้เพียงกล่องแหวนเพชรราคาแพง
หน้าหลุมศพ ที่ดูไม่เหลือค่าอะไร ..สำหรับเขา..อีกต่อไป

“ ผมมีบ้านหลังใหญ่.. แต่คงกว้างไป สำหรับการที่จะต้องอยู่คนเดียว..
ผมมีรถราคาแพง แต่ไม่รู้จะขับไปรับใครให้มานั่งเคียงคู่.. เพื่อไปที่ไหน ๆ ด้วยกัน..
ผมมีเวลาอยู่กับงานครึ่งชีวิต แต่ไม่เคยมีเวลา.. ที่จะได้อยู่กับคนที่.. ผมรัก
ตอนนี้ผมมีเงินมากมาย แต่ไม่อาจซื้อเวลาเพียง 1 นาที ที่จะบอกว่า ‘ รักเธอ ’..
ผมมีทุกอย่างเพียบพร้อมตามที่ผมฝัน แต่ขาดส่วน..ที่สำคัญที่สุด.. ที่อยากให้ย้อนกลับมา.. จะได้ไหม ?”..

วันนี้คุณลองก้าวออกจากโต๊ะทำงานก่อนตะวันจะตกดิน
สักวัน / สองวันต่อสัปดาห์.. หันกลับไปเอาใจใส่คนที่รักเราบ้าง
อาจจะไม่ใช่แค่แฟนหรือ..คนรัก.. บางที พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ก็เฝ้ารอ 1 นาทีจากเราเหมือนกัน

ณ. วันนี้..
อย่างน้อยเราก็ยังมีเวลาเหลือมากกว่า 1 นาทีที่บางคนโหยหา...
อย่าปล่อยให้อะไรๆ มันสายเกินไป...
ชีวิตคน.. ถึงมันจะไม่สั้นนัก.. แต่มันก็ใช่ว่าจะยาวนานตลอดไป..
เงินทองที่มากมายจากการทำงานหักโหม...
บางทีอาจได้คืนกลับมาเพียงแค่  " โลงราคาแพง "จากน้ำพักน้ำแรง
ในครึ่งชีวิตที่ผ่านมา ...

 วันนี้คุณดูแลและ ใส่ใจ คนที่คุณรัก มากกกกพอหรือยัง ?....

รักและดูแลคนของหัวใจ....ก่อนไม่มีใครให้ดูแล.!!!!

ปล.....วันนี้คิดถึงแม่จัง..!!!! ครบรอบวันลาจากอีก 1 ปี...รู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน...  **12**

อยู่อย่างไร้ตัวตน....

ผ้าแพร

  • VERIFY USER
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 377
  • People Like This 239
  • "กอดฉันที"
Re: ขอเวลาแค่ 1 นาที
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2015, 04:39:59 PM »
คำพูด...สร้างพลัง....

คน..เปราะบางยิ่งกว่าไข่ไก่ ไข่ไก่ต้องเคาะหนึ่งที่ถึงจะแตก คน..กลับบ่อย
ครั้ง เพียงเพราะคำพูดคำๆเดียวของผู้อื่นซึ่งมองไม่เห็น หัวใจก็แหลกสลาย
แล้ว

ครั้งแรก..ที่เข้าร่วมการประชุมผู้ปกครอง คุณครูชั้นอนุบาลพูดว่า...
" ลูกชายของคุณเป็นโรคอยู่ไม่สุข ไม่สามารถนั่งสงบนิ่งบนเก้าอี้ แม้เพียง
สามนาที ให้ดีแล้ว ผมว่าคุณพาเขาไปตรวจเช็กที่โรงพยาบาลดีกว่าไหม "

ตอนเดินทางกลับบ้าน ลูกชายถามเธอว่า คุณครูพูดอะไรบ้าง เธอเจ็บปวด
หัวใจ น้ำตาแทบจะไหลรินออกมา เพราะว่า..เด็กน้อยทั้งห้องสามสิบคน มี
เพียงการกระทำ การปฏิบัติตัวของเขาแย่ที่สุด

คุณครูแสดงออกถึงความดูแคลน ทว่า.. เธอยังคงบอกกับลูกชายว่า
" คุณครูชื่นชมเธอ บอกว่า เดิมทีเธอไม่สามารถนั่งสงบนิ่งบนเก้าอี้แม้แต่นาที
เดียว ตอนนี้สามารถนั่งได้สามนาทีแล้ว ส่วนคุณแม่คนอื่นๆ ต่างก็อิจฉาแม่
เพราะว่า ทั้งห้องมีลูกเพียงคนเดียว ที่มีการพัฒนาที่ดีขึ้น "

ค่ำวันนั้น ลูกชายของเธอกินข้าวหมดสองถ้วย ซึ่งเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งไม่ต้องให้เธอป้อน
ลูกชาย..ขึ้นชั้นประถมแล้ว การประชุมผู้ปกครอง คุณครูพูดว่า......
" นักเรียนทั้งชั้นห้าสิบคน ผลการสอบคณิตศาสตร์ครั้งนั้ ลูกชายของคุณได้
อันดับที่สี่สิบ พวกเราสงสัยว่า สติปัญญาของเขาอาจจะมีปัญหา ให้ดีแล้ว
คุณพาเขาไปตรวจเช็กที่โรงพยาบาล นะ"

ระหว่างเดินทางกลับบ้าน น้ำตาเธอไหลรินออกมา ทว่า เมื่อกลับมาถึงบ้าน
แล้ว กลับพูดกับลูกชายว่า....
" คุณครูเชื่อมั่นในตัวเธอมาก เขาบอกว่า เธอไม่ใช่เด็กที่โง่เขลา ขอเพียงแต่
เพิ่มความละเอียดรอบคอบมากขึ้น ก็จะเหนือกว่า คนที่นั่งโต๊ะเดียวกันกับเธอ
ครั้งนี้..คนที่นั่งโต๊ะตัวเดียวกันกับเธอ เขาสอบได้อันดับที่ยี่สิบเอ็ด "

ตอนที่เธอพูดคำพูดเหล่านี้ เธอพบเห็นว่า......ดวงตาของลูกชาย ค่อยๆเปล่ง
ประกายแสงยิ่งๆขึ้น ใบหน้าที่เศร้าสร้อยเมื่อครู่ก็ร่าเริงขึ้นมาทันที อีกทั้ง..เธอ
พบเห็นว่า ลูกชายอ่อนโยนจนทำให้เธอตกใจ คล้ายดั่งเขาได้เติบใหญ่ขึ้น
มากในทันที วันรุ่งขึ้นไปโรงเรียน ก็ไปเช้ากว่าปกติ

ลูกชาย..ขึ้นชั้นมัธยมต้น เป็นอีกครั้งของการประชุมผู้ปกครอง เธอนั่งอยู่ในที่
นั่งเรียนของลูกชาย รอคอยคุณครูขานชื่อของลูกชายเธอ เพราะว่าการประ ชุมผู้ปกครองทุกครั้งที่ผ่านมา รายชื่อของนักเรียนที่มีผลการเรียนย่ำแย่ จะมี รายชื่อของลูกชายเธอทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของ
เธอ จวบจนสิ้นสุดก็ไม่ได้ยินชื่อของลูกชายเธอ เธอเกิดความไม่เคยชิน ก่อน
กลับจึงไปถามคุณครู คุณครูบอกกับเธอว่า......
" ดูจากผลการเรียนของลูกคุณในปัจจุบันแล้ว หากไปสอบเข้าเรียนโรงเรียน
มัธยมปลายที่มีชื่อเสียง ยังมีความเสี่ยงที่สูงอยู่ แต่เขาพัฒนาขึ้นมาก"

เธอเดินออกจากโรงเรียนด้วยความดีใจ ยามนี้เธอเห็นลูกชายยืนรอคอยเธอ
อยู่ ระหว่างทางเธอจับไหล่ของลูกชาย ภายในจิตใจรู้สึกหวานชื่นยิ่ง เธอ
บอกกับลูกชายว่า.....
" คุณครูประจำชั้น พอใจในตัวเธอมาก เขาบอกแล้วว่า ขอเพียงลูกมีความ
พยายามก็จะมีหวังยิ่งขึ้น ที่จะสอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียง "

จบมัธยมปลายแล้ว รายชื่อนักเรียนชุดแรก ที่ทางมหาวิทยาลัยได้แจ้งผลการ
สอบผู้คัดเลือกได้ ยามนั้น..ทางโรงเรียนได้โทรศัพท์มา ให้ลูกชายเธอไปที่
โรงเรียน เธอมีลางสังหรณ์ว่า ลูกชายของเธอจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่
มีชื่อเสียงแน่ เพราะว่า..ตอนที่ไปสมัครสอบเธอได้พูดกับลูกชายว่า เธอเชื่อ
และมั่นใจว่า เขาต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี้แน่นอน

ลูกชายกลับมาจากโรงเรียน นำจดหมายที่มีตราประทับ จากสำนักงานของ
มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังยื่นให้เธอ จากนั้นเขาเดินมากอดแม่และก็ร่ำร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง ร้องไปก็พูดไปว่า
" แม่..ผมรู้ว่าผมไม่ใช่เด็กที่เฉลียวฉลาด แต่ว่า..บนโลกนี้ มีเพียงแม่เท่านั้นที่ดีกับผมเสมอและชื่น
ชมผมตลอดมา ขอบคุณครับแม่........ที่ทำให้ผมเกิดมา ขอบคุณที่ทำให้ผมเป็นคนได้อย่างภาคภูมิ และอนาคต แม่จะต้องภูมิใจในตัวผม."เขารู้แล้ว รู้เรื่องทั้งหมดจากที่ครูประจำชั้นเล่าให้ฟังว่าจริงๆแล้ว ท่านเคยพูดอะไรในตอนที่แม่ของเขาไปประชุมผู้ปกครองทุกครั้ง ครูรู้เพราะถามเขาว่าทำไมเขาถึงสอบได้ ถามว่าทำไมเขาเก่งขึ้น พอเขาเล่าให้ครูฟัง ครูเงียบไปพักใหญ่จากนั้น เรียกให้เขามานั่งใกล้ๆ แล้วจึงเล่าความจริงให้เขาฟัง นั่นยิ่งทำให้เขารับรู้ความรักอันยิ่งใหญ่ของผู้ที่เรียกว่าแม่...

ผู้เป็นแม่ ยามนี้..เธอสุดแสนจะดีใจ ไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่อัดอั้นมาสิบกว่าปีอีกต่อไป
แล้ว จึงปล่อยให้ไหลรินร่วงลงบนซองจดหมายที่อยู่ในมือ
**เอามาฝากอีกเรื่องค่ะ... **07**
*****ออฟไลน์*****
Bey welovegig.....

Nong-Dam

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 578
  • People Like This 390
Re: ขอเวลาแค่ 1 นาที
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2015, 12:26:28 PM »
คำพูด...สร้างพลัง....

คน..เปราะบางยิ่งกว่าไข่ไก่ ไข่ไก่ต้องเคาะหนึ่งที่ถึงจะแตก คน..กลับบ่อย
ครั้ง เพียงเพราะคำพูดคำๆเดียวของผู้อื่นซึ่งมองไม่เห็น หัวใจก็แหลกสลาย
แล้ว

ครั้งแรก..ที่เข้าร่วมการประชุมผู้ปกครอง คุณครูชั้นอนุบาลพูดว่า...
" ลูกชายของคุณเป็นโรคอยู่ไม่สุข ไม่สามารถนั่งสงบนิ่งบนเก้าอี้ แม้เพียง
สามนาที ให้ดีแล้ว ผมว่าคุณพาเขาไปตรวจเช็กที่โรงพยาบาลดีกว่าไหม "

ตอนเดินทางกลับบ้าน ลูกชายถามเธอว่า คุณครูพูดอะไรบ้าง เธอเจ็บปวด
หัวใจ น้ำตาแทบจะไหลรินออกมา เพราะว่า..เด็กน้อยทั้งห้องสามสิบคน มี
เพียงการกระทำ การปฏิบัติตัวของเขาแย่ที่สุด

คุณครูแสดงออกถึงความดูแคลน ทว่า.. เธอยังคงบอกกับลูกชายว่า
" คุณครูชื่นชมเธอ บอกว่า เดิมทีเธอไม่สามารถนั่งสงบนิ่งบนเก้าอี้แม้แต่นาที
เดียว ตอนนี้สามารถนั่งได้สามนาทีแล้ว ส่วนคุณแม่คนอื่นๆ ต่างก็อิจฉาแม่
เพราะว่า ทั้งห้องมีลูกเพียงคนเดียว ที่มีการพัฒนาที่ดีขึ้น "

ค่ำวันนั้น ลูกชายของเธอกินข้าวหมดสองถ้วย ซึ่งเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งไม่ต้องให้เธอป้อน
ลูกชาย..ขึ้นชั้นประถมแล้ว การประชุมผู้ปกครอง คุณครูพูดว่า......
" นักเรียนทั้งชั้นห้าสิบคน ผลการสอบคณิตศาสตร์ครั้งนั้ ลูกชายของคุณได้
อันดับที่สี่สิบ พวกเราสงสัยว่า สติปัญญาของเขาอาจจะมีปัญหา ให้ดีแล้ว
คุณพาเขาไปตรวจเช็กที่โรงพยาบาล นะ"

ระหว่างเดินทางกลับบ้าน น้ำตาเธอไหลรินออกมา ทว่า เมื่อกลับมาถึงบ้าน
แล้ว กลับพูดกับลูกชายว่า....
" คุณครูเชื่อมั่นในตัวเธอมาก เขาบอกว่า เธอไม่ใช่เด็กที่โง่เขลา ขอเพียงแต่
เพิ่มความละเอียดรอบคอบมากขึ้น ก็จะเหนือกว่า คนที่นั่งโต๊ะเดียวกันกับเธอ
ครั้งนี้..คนที่นั่งโต๊ะตัวเดียวกันกับเธอ เขาสอบได้อันดับที่ยี่สิบเอ็ด "

ตอนที่เธอพูดคำพูดเหล่านี้ เธอพบเห็นว่า......ดวงตาของลูกชาย ค่อยๆเปล่ง
ประกายแสงยิ่งๆขึ้น ใบหน้าที่เศร้าสร้อยเมื่อครู่ก็ร่าเริงขึ้นมาทันที อีกทั้ง..เธอ
พบเห็นว่า ลูกชายอ่อนโยนจนทำให้เธอตกใจ คล้ายดั่งเขาได้เติบใหญ่ขึ้น
มากในทันที วันรุ่งขึ้นไปโรงเรียน ก็ไปเช้ากว่าปกติ

ลูกชาย..ขึ้นชั้นมัธยมต้น เป็นอีกครั้งของการประชุมผู้ปกครอง เธอนั่งอยู่ในที่
นั่งเรียนของลูกชาย รอคอยคุณครูขานชื่อของลูกชายเธอ เพราะว่าการประ ชุมผู้ปกครองทุกครั้งที่ผ่านมา รายชื่อของนักเรียนที่มีผลการเรียนย่ำแย่ จะมี รายชื่อของลูกชายเธอทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของ
เธอ จวบจนสิ้นสุดก็ไม่ได้ยินชื่อของลูกชายเธอ เธอเกิดความไม่เคยชิน ก่อน
กลับจึงไปถามคุณครู คุณครูบอกกับเธอว่า......
" ดูจากผลการเรียนของลูกคุณในปัจจุบันแล้ว หากไปสอบเข้าเรียนโรงเรียน
มัธยมปลายที่มีชื่อเสียง ยังมีความเสี่ยงที่สูงอยู่ แต่เขาพัฒนาขึ้นมาก"

เธอเดินออกจากโรงเรียนด้วยความดีใจ ยามนี้เธอเห็นลูกชายยืนรอคอยเธอ
อยู่ ระหว่างทางเธอจับไหล่ของลูกชาย ภายในจิตใจรู้สึกหวานชื่นยิ่ง เธอ
บอกกับลูกชายว่า.....
" คุณครูประจำชั้น พอใจในตัวเธอมาก เขาบอกแล้วว่า ขอเพียงลูกมีความ
พยายามก็จะมีหวังยิ่งขึ้น ที่จะสอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียง "

จบมัธยมปลายแล้ว รายชื่อนักเรียนชุดแรก ที่ทางมหาวิทยาลัยได้แจ้งผลการ
สอบผู้คัดเลือกได้ ยามนั้น..ทางโรงเรียนได้โทรศัพท์มา ให้ลูกชายเธอไปที่
โรงเรียน เธอมีลางสังหรณ์ว่า ลูกชายของเธอจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่
มีชื่อเสียงแน่ เพราะว่า..ตอนที่ไปสมัครสอบเธอได้พูดกับลูกชายว่า เธอเชื่อ
และมั่นใจว่า เขาต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี้แน่นอน

ลูกชายกลับมาจากโรงเรียน นำจดหมายที่มีตราประทับ จากสำนักงานของ
มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังยื่นให้เธอ จากนั้นเขาเดินมากอดแม่และก็ร่ำร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง ร้องไปก็พูดไปว่า
" แม่..ผมรู้ว่าผมไม่ใช่เด็กที่เฉลียวฉลาด แต่ว่า..บนโลกนี้ มีเพียงแม่เท่านั้นที่ดีกับผมเสมอและชื่น
ชมผมตลอดมา ขอบคุณครับแม่........ที่ทำให้ผมเกิดมา ขอบคุณที่ทำให้ผมเป็นคนได้อย่างภาคภูมิ และอนาคต แม่จะต้องภูมิใจในตัวผม."เขารู้แล้ว รู้เรื่องทั้งหมดจากที่ครูประจำชั้นเล่าให้ฟังว่าจริงๆแล้ว ท่านเคยพูดอะไรในตอนที่แม่ของเขาไปประชุมผู้ปกครองทุกครั้ง ครูรู้เพราะถามเขาว่าทำไมเขาถึงสอบได้ ถามว่าทำไมเขาเก่งขึ้น พอเขาเล่าให้ครูฟัง ครูเงียบไปพักใหญ่จากนั้น เรียกให้เขามานั่งใกล้ๆ แล้วจึงเล่าความจริงให้เขาฟัง นั่นยิ่งทำให้เขารับรู้ความรักอันยิ่งใหญ่ของผู้ที่เรียกว่าแม่...

ผู้เป็นแม่ ยามนี้..เธอสุดแสนจะดีใจ ไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่อัดอั้นมาสิบกว่าปีอีกต่อไป
แล้ว จึงปล่อยให้ไหลรินร่วงลงบนซองจดหมายที่อยู่ในมือ
**เอามาฝากอีกเรื่องค่ะ... **07**

 **36**  **36** ขอบคุณนะคะ >>>> ยิ่งทำให้คิดถึงแม่เข้าไปอีก  **12**  **01**
อยู่อย่างไร้ตัวตน....

kua12

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 334
  • People Like This 114
Re: ขอเวลาแค่ 1 นาที
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 03:10:21 PM »
ขอบคุณครับ ที่ได้อ่านเรื่องดีๆทั้งสองเรื่องครับ