ผู้เขียน หัวข้อ: คิดยังไงกับเรื่อง ธนาคารชื่อดัง กับการเจาะจงมหาวิทยาลัยในการรับ?  (อ่าน 1783 ครั้ง)

Memory_04

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 40
  • People Like This 16
  • ✨ Silver Lining
Davika แค่อยากรู้ความคิดเห็นของหลายๆฝ่าย หลายๆคน ทั้งคนที่ทำงานเเล้ว
เจ้าของบริษัท หรือเเม้เเต่น้องๆ ที่กำลังศึกษา กำลังทำงาน

 **36**

Memory_04

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 40
  • People Like This 16
  • ✨ Silver Lining

buababy

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 242
  • People Like This 164
  • Love suck Luck less
เราว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่บริษัทชั้นนำต่างๆจะรับเด็กที่จบมหาลับท้อปก่อน เพราะ
1. เด็กที่เข้าเรียนม.ท้อปได้ คือ เด็กที่เอนท์ได้คะแนนสูงกว่าม.รองๆ
อย่าหลอกตัวเองเลยว่า ไม่จิง ชั้นก็เก่ง...ถ้าเก่งจิงทำไมเข้า ม.ท้อปๆไม่ได้ล่ะคะ อย่าง จุฬา มธ เกษตร หรือสามพระจอม คะแนนสอบเข้าก็ไม่ได้เยอะอะไรมาก เก่งจิงก็เข้าได้อยู่แล้วค่ะ
2. จากข้อ 1. ม.ท้อป ก็ย่อมมีแต่เด็กเก่งอยู่ด้วยกันเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าการตัดเกรดของมหาลัย จะตัดเป็นอิงกลุ่มอยู่แล้ว ถ้าเด็กเก่งที่อยู่รวมกันมากๆ เกรดก็ย่อมได้น้อยกว่า เด็กเก่งเพียง 5-10% ที่อยู่ปนกับเด็กกลางๆหรือไม่เก่ง
3. ทุกคนจบมาไม่มีประสบการณ์ทำงาน แล้วจะให้วัดอะไรล่ะคะ นอกจากคุณภาพของมหาลัย และเกรดที่จบมา?
4. การจบม.ท้อป เด็กมีคุณภาพกว่าจิงๆค่ะ อย่าเถียงเลย
ช่วงนี้ เด็กกำลังฝึกงานอยู่...เจอเด็กม.ท้อปกับเด็กราชภัฏ คุณภาพต่างกันอย่างชัดเจนค่ะ แค่โปรแกรมพื้นฐาน ความรู้เบื้องต้น ก็ต่างกันแล้วค่ะ
5. ภาษาอังกฤษ...เด็กราชภัฏ จบเอกอังกฤษ แต่ยังใช้งานภาษาอังกฤษไม่ได้ดีเท่าเด็กวิศวะ ม.ท้อปเลยค่ะ...คิดดูเอาเอง งงอยู่ว่า จบเอกอังกฤษมาได้ไง

สรุป คือ จบมหาลัยอะไรมา ใครว่าไม่สำคัญ...นั่นคือคำหลอก ปลอบใจตัวเองค่ะ โลกความจิง โลกแห่งการทำงาน ไม่ได้สวยงามเท่าเทียมกันหรอกค่ะ

ปล. ตอนแรกน้องบัวก็เคยคิดว่าจบที่ไหนมาก็เหมือนกัน ขอแค่เก่ง และดีก็พอ แต่ความจิงแล้วมันไม่ใช่เลย สำหรับเด็กจบใหม่ แต่ถ้ามีประสบการณ์แล้ว ไม่ว่าจะจบอะไรมา จะไม่สำคัญเท่าที่ผ่านมาเคยทำผลงานอะไรไว้บ้าง

น่าจะประมานนี้ 555555
คำตอบดูโหดร้ายไปมั้ยอะ
Action = Reaction

Memory04

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 27
  • People Like This 31
  • Hello there :)
สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ การที่ไม่เรียนรู้ที่จะปรับตัว เราเองบ่อยครั้งที่อดบ่นไม่ได้ถึงความจริงอันโหดร้าย แต่เราก็ย้อนกลับมาถามตัวเองว่าทำไรได้บ้างที่จะอยู่กับความจริงเหล่านี้ อะไรที่เราควบคุมได้บ้าง ตัวอย่างเช่น มีเด็กสองคนสมัครงานที่บริษัท A คนหนึ่งเก่งภาษามาก communication skill ดีมาก แต่ความรู้วิชาการอาจจะสู้เด็กอีกคนหนึ่งไม่ได้เลย แต่สุดท้ายเด็กคนที่เก่งภาษากลับได้งานทำ

    ถ้าเราไม่เก่งภาษาและอยากได้งานที่บริษัท A มาก สิ่งที่เราทำได้คืออะไร เราก็ต้องไปฝึกภาษา เพราะเราคงไม่สามารถไปบอกผู้บริหารให้เปลี่ยนกลยุทธ์การรับคนเข้าทำงานได้ ดังนั้นถ้าเราเป็นเด็กในมหาวิทยาลัยที่ไม่อยู่ใน list แล้วอยากทำงานที่ SCB ใจจะขาด สิ่งที่เราทำได้ก็ต้องกลับมาถามว่า เราทำอะไรได้บ้าง เรียนต่อโท สร้างผลงาน อะไรก็ว่ากันตามแต่ละคนไป เห็นหลายคนตัดพ้อถึงโลกอันโหดร้าย นั่นเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่นั้นคือความอยาก ก็ต้องยอมรับว่านี้คือสิ่งที่เราต้องอยู่กับมัน แล้วต้องถามตัวเองว่าเราจะปรับตัวกับมันอย่างไร เปลี่ยนแปลงหรือควบคุมอะไรได้บ้าง

ปัจจุบันบัณฑิตจบมาเยอะมากมายทุกสาขา ดังนั้นถ้าเราอยากได้งานดีๆ ต้องมีอะไรที่ unique พิเศษที่คนอื่นไม่มี เช่น ภาษาที่ 3 , ความสามารถพิเศษต่างๆ ซึ่งตรงนี้สามารถเพิ่ม Value ให้กับตัวเราได้มหาศาล
Back to reality.

gotta

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 381
  • People Like This 139
มันก็มีมานานแล้วหละคะ โดยเฉพาะ ระบบแบบนี้ แต่.......
"ความในอย่านำออก" เค้าใช้เป็นหลักเกณฑ์ ของการพิจารณาได้ แต่ ก็พลาด ตรงที่ประกาศออกมา
แทนที่จะประกาศ เป็นชื่อมหาวิทยาลัย ควรประกาศเป็น คณะ หรือ เอก ที่ตรงกับความต้องการ

ดังนั้น มหาวิทยาลัยไม่ใช่ทุกสิ่งค่ะ มันอาจจะเป็นแค่ใบเบิกทาง แต่สังคมการทำงานมันต่างกับ ในรั้วมหาวิทยาลัย 


***เราเคยสอบได้ KMUTT แต่สละสิทธิ์ ค่ะ เพราะค่าเทอมโหด ไป สงสารผู้ปกครอง
***ที่สอง เพื่อนเราจบ มรภ. ตอนนี้ได้เป็นเจ้าของกิจการ ตั้งแต่ 2 ปีแรก ที่เรียนจบ ตอนนี้ รวยไปละ

..........

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 735
  • People Like This 361
จะมองว่าเป็นเรื่องปกติมั้ย.. ก็ปกติค่ะสำหรับองค์กรใหญ่ๆที่ก็ต้องการสรรหาบุคลากรที่(เขาคิดว่า)ดีที่สุด
มันเป็นความจริงอันน่าหดหู่ที่ต้อง( ทำใจ) ยอมรับให้ได้ แต่โดยส่วนมากเขาก็รู้ๆกันภายในฝ่ายสรรหาภายในองค์กรเองว่าตำแหน่งนี้ๆนะฉันจะล้อคสเปกเฉพาะกลุ่มนี้นะ สถาบันนี้นะ. ไม่ได้ประกาศอย่างโจ่งแจ้ง  มันก็มีมาแต่ไหนแต่ไรสำหรับประเทศมหาอำนาจ( ตรงไหน)อย่างไทยเรา ลัทธิคลั่งใบปริญญา
แต่.. ที่สร้างปรากฎการณ์สั่นสะเทือนและลึกซึ้งต่อความรู้สึกก็อิตรง มีประกาศออกมาอย่างชัดเจนนี่แหละ
มันเหมือนเป็นการตอกหน้า สถาบันอื่นที่ไม่ได้มีชื่ออยู่ใน14สถาบันนั้น
มันเป็นเรื่องที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกกับสังคมที่ต้องมีการถนอมน้ำใจกันอย่างพี่ไทยเรา
คนทั่วไปเขาก็มองถึงทัศนคติ วิสัยทัศน์ที่คับแคบของผู้บริหาร. รุ้สึกเหมือนโดนเหยียด
ถึงแม้จะมีการออกมาแถลงข่าวว่าเป็นการสื่อสารผิดพลาด ทางองค์กรไม่ได้ปิดกั้นโอกาสแต่ก็คงต้องงัดกลยุทธ์ออกมาแก้เกมส์ยากหน่อย เรื่องที่ส่งผลต่อความรุ้สึกเนี่ยมันไปเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่งอีก โดยเฉพาะในยุคการสื่อสารไร้พรมแดนอย่างทุกวันนี้

โดยส่วนตัวไม่ได้รู้สึกแอนตี้แบงค์นี้นะ และไม่ได้จบจาก14สถาบันนั้นด้วยแต่ในฐานะเคยเป็นทั้งผู้คัดเลือกและถูกคัดเลือก มันก็มองได้หลายด้าน
มองในมุมขององค์กรเราจะเห็นอีกด้านนึง มองในมุมลูกจ้างก็เห็นอีกด้านนึง
ถ้าเราถูกปฏิเสธจากที่ไหนนะ เราก็ไม่ง้อเหมือนกัน เขาไม่เอาเราก็ไปที่อื่นสิ ที่ๆเค้าเห็นความสำคัญเรา
พัฒนาตัวเองอย่าให้เขาดูแคลนได้ ไม่แน่น๊าาา อีกสี่ห้าปีถัดมาที่ที่เคยปฏิเสธเราอาจเป็นฝ่ายโทรตามเราเองก็เป็นได้


ในกรณีนี้จะจบลงอย่างไรไม่ค่อยสนใจเท่า. ตอนนี้ฝ่ายสรรหาที่ลงประกาศทำภาพลักษณ์ขององค์กรเสีย
ได้ไปต่อหรือเปล่า. หุหุ


kua12

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 334
  • People Like This 114
เห็นด้วยกับคุณ Buababy เลยครับ เราต้องยอมรับความจริงครับ

ทุกวันนี้เท่าที่รู้เด็กที่เข้าเรียนราชภัฏหรือมอ.เอกชนบางแห่ง ที่ส่วนมากเรียนให้ผ่านๆเท่านั้น

ให้ได้ชื่อว่าจบปริญญาตรี ให้พ่อแม่ภูมิใจแค่นั้น ส่วนความรู้ที่จะได้เพื่อนำออกมาใช้ไม่สนใจ

เจอน้องหลายคนครับที่เรียนราชภัฏเอกอังกฤษ แค่ศัพท์ง่ายๆยังจำไม่ได้ ส่วนเรื่องพูดนี่ไม่ต้องถามเลยรู้ๆกัน

เทียบกับเด็กน้องมอ.ดังๆจบเอกอังกฤษเหมือนกัน แต่ความสามารถนี่เหมือนต่างกันลิบลับครับ

สื่อสารได้เป็นอย่างดี มึคุณภาพ แบบนี้เจ้าของธุรกิจจะจ้างใครละครับ

ถั่วอบไอน้ำ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,426
  • People Like This 948
ถ้าเรียนจบจะไปสมัครงานที่ไหนดีน๊าเครียดเลยอ่ะ


หาคนดูแลส่งเสียน้องถั่วดีกว่าจะเข้า Harvard , Yale, Cornell ละกัน  **06**

pop2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 952
  • People Like This 831
ธรรมดาครับ. มีมานานแล้ว. มันเป็นมาตรฐานในการคัดคนของเขาน่ะครับ.  แต่อย่ากังวลไปครับ   อย่าไปคิดว่าการที่เขากำหนดแบบนี้แล้วเขาจะได้บุคคลจากมหาวิทยาลัยดังกล่าวมาสมัครน่ะครับ เงียบครับ.   เนื่องจากแบงค์ ถ้าไม่ได้อยู่ส่วนพัฒนาธุรกิจ ส่วนมากจะเงินเดือนน้อยครับ. งานก็ดักดาน ตำแหน่งสลับไปมาแค่ บัญชี กับ พนักงานเคาเตอร์ วนๆแบบนี้เป็น10ปี.    ไม่เหมือนพวกจบด้านเศษฐศาตร์.   จากต่างประเทศ.  จะเงินเดือนเยอะ

อย่างหน่วยงาน. ปตท.  เคยรับพนักงานเฉพาะที่จบจาก. จุฬา. ธรรมศาสตร์. แต่ปัจจบัน. คนจบที่นี่กลับนิยมไปทำงานบริษัทฝรั่งในไทยที่ค้าขายกับต่างประเทศมากกว่า. เนื่องจากหากความสามารถเยอะรับผิดชอบสูงๆเงินเดือนขะเยอะ ประมาณ 2แสน/เดือน ในขณะที่ ทำ ปตท. เงินเดือน 2หมื่นต้นๆถึงกลาง.

ถึงยังไง ในส่วน ปตท.  กฟผ. ปูนซิเมนไทย  หน่วยรัฐวิสาหกิจชั้นนำ. ก็ยังมีปัญหา. เด็กรุ่นหลังๆแม้จบมาในสถาบันดีๆ ก็พบว่าพื้นฐานอ่อน จบมาทำงานไม่ได้ ต้องมาสอนนับปี กว่าจะพอทำงานได้. และยากส์ที่จะพัฒนาองค์กร  ในส่วนของ. ปตท ได้นำร่องเปิดมหาวิทยาลัยเอง. แล้วในภาคตะวันออก เพื่อผลิตพนักงงานเอง เพื่อที่จบมาจะได้มีพื้นฐานทำงานได้ทันที.      อย่างซีพี. ก็มีครับ.  ผลิตวิทยาลัยเองเลย. 

อนาคต. หลังเข้าสู่. AEC. แรงงานระดับปริญาตรีไทย. จะน่าห่วง.  เพราะจะเริ่มมีบริษัท จ้างพนักงงานจาก. ม.เวียดนาม.  หรือ. จากอุดมศึกษาในกลุ่มสมาชิกเข้ามาทำงาน. ได้ดีกว่า ด้วยพื้นฐาน ทักษะ ความมุ่งมั่น และด้านภาษา. เอามาแทน และจ้างในอัตราไม่แพงเท่าคนไทย

ยาวมะ.  เห็นว่ามีประโยชน์ เลยนั่งจิ้มๆให้อ่านกัน.  เผื่อใครมัวฝัน ไม่พัฒนาตนอาจแย่.    เมื่อเดือนก่อนผมไปประชุมที่สิงคโปร. มีพาเข้าไปชมบ่อน.  ตกใจมาก.  โสเภณีส่วนใหญ่คือคนไทย ที่มีการศึกษาระดับ ป.ตรี.     เรียกว่าต่อไปนี้.  สาวๆกีๆเมืแงไทยไม่กล้าไปดที่ยวสิงคโปรเลย.  กลัวโดนเหมาเพราะเยอะจริงๆ.

tawans

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,521
  • People Like This 1458
  • อดีตหนุ่มเนิร์ด ที่กลายเป็น เพลย์บอย

ยาวมะ.  เห็นว่ามีประโยชน์ เลยนั่งจิ้มๆให้อ่านกัน.  เผื่อใครมัวฝัน ไม่พัฒนาตนอาจแย่.    เมื่อเดือนก่อนผมไปประชุมที่สิงคโปร. มีพาเข้าไปชมบ่อน.  ตกใจมาก. โสเภณีส่วนใหญ่คือคนไทย ที่มีการศึกษาระดับ ป.ตรี.     เรียกว่าต่อไปนี้.  สาวๆกีๆเมืแงไทยไม่กล้าไปดที่ยวสิงคโปรเลย.  กลัวโดนเหมาเพราะเยอะจริงๆ.

น่าอ่อนใจแทนประเทศไทย
มาตราฐานบุคลากรในแต่ละวิชาชีพ เมื่อเปรียบเทียบในโลกแล้วมันอ่อนลงเกือบทุกสาขาเลย
มียกเว้นบ้างบางอัน ซึ่งไม่รู้จะดีใจหรือไม่ มาตราฐานสูงจริงๆ

ต้องโทษคนรุ่นเรา(พวกแก่ๆ)ที่สร้างคนรุ่นถัดมาไม่เอาไหน คือโทษคนวาดรูปไม่ใช่โทษรูปวาดว่าไม่สวย

 **07**
หนุ่มเนิร์ด ที่กลายเป็นเพลย์บอย

ลำเอียงเสมอสำหรับคนพิเศษ