29/7/15
ช่วงบ่ายแก่ของวันนั้น ขณะที่ฉันนั่งทำเอกสารบางอย่างอยู่หน้าคอมฯ มีข้อความpmจากเว็บส่งมายังอีเมล์ ฉันเปิดดูในมือถือ มียูสนึง ส่งมาบอกว่า “ สวัสดีครับ ผมสมาชิกใหม่ครับ ยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรมาก line : xxxx”
ฉันแอดไลน์เขาแล้วก็ทักเบาๆ “ pukpikนะ” รอ รอ รอ เขาอ่านแล้วแต่ไม่ตอบ ในใจฉัน ตอบสิ ตอบ จงตอบ โอม จงตอบ ผ่านไป ยี่สิบนาที จึงได้รับการตอบกลับ
เราทักทายกัน แล้วเขาก็ถามฉันว่า “แล้วผมต้องทำยังไงบ้างเหรอครับ” เอิ่ม ลังเลคำตอบอยู่สักพัก
“ก็เลี้ยงข้าว เลี้ยงหนังค่ะ” คำถามต่อมาคือ “สะดวกวันไหน” ฉันตอบไปว่า “วันนี้” เขาโอเค และฉันก็นัดเขาที่ “สยามพารากอน เจอกันสักหนึ่งทุ่มกว่า”
เมื่อใกล้ถึงเวลานัดกัน ฉันแว๊บมาช็อปปิ้งที่อนุเสารีย์ อีกทั้งฉันรู้ว่า เขาต้องผ่านมาทางนี้ เพื่อมาต่อบีทีเอส สรุปแล้วเราเลยเจอกันที่ บีทีเอสอนุเสาวรีย์ เพื่อไป สยามพารากอน
19.30 น. ถึง ห้างพารากอน เรารีบขึ้นบันไดเลื่อนไปจองตั๋วหนัง และเราก็ยืนคุยยืนงงกับตู้ซื้ออัตโนมัติ สุดท้ายต้องเดินไปถามพนักงาน สรุปแล้ว เราจองรอบ20.40 น. เรื่อง ted2 ที่นั่งโซฟา
โอ้ว เหลือแค่ชั่วโมงเดียว เราก็รู้สึกว่า ต้องหาอะไรรองท้องแล้วแหละ ฉันพาเขาเดินหลงหาร้านอาหาร สุดท้ายต้องลงไปที่ชั้นใต้ดิน หาร้านอาหารสักร้าน นั่นคือ “ฟูจิ” ที่เลือกร้านนี้เพราะคนน้อย ไม่ต้องต่อแถว เราสั่งอาหารมาสี่อย่าง และชาเขียว ,น้ำเปล่า รออาหารมาเสิร์ฟ
เราสองคนก็ได้นั่งตรงข้ามคุยกัน จริงจังเสียที
**34**เราอายุเท่ากัน ตอนนี้กำลังฝึกงานเหมือนกัน เรารู้สึกอยากมีเพื่อนเหมือนกัน
ฉันบอกเขาไปว่า เธอเป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันเจอแล้วอายุเท่าฉัน แล้วเขาเลยถามต่อว่า “ผู้ชายในนี้เขาอายุประมาณไหนกันหรา” ฉันตอบไปว่า “18-60ปีแหละ“ พร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ
แล้วฉันก็นั่งตอบคำถามเขาอีกหลายคำถาม เพราะเขาค้นหาในอินเตอร์เน็ต แล้วเจอเว็บเลยสมัครเมื่อคืนนี้ แล้วตอนเช้าสนใจกระทู้ของฉันเลยลอง pm มาคุย ก็เว็บเราเปิดโลกการเรียนรู้เรื่องเที่ยว นัว แรง เนอะ
ฉันนั่งกิน นั่งคุย มองหน้าสลับกับอาหาร ฉันว่าเขาน่ารักดี ขาว ตี๋ สูง หุ่นดี แอบเขินเบาๆ แถมเป็นคนที่ทำให้ฉันยิ้มได้เวลาคุยกัน
มองเวลาอีกทีก็เวลาหนังเข้าไปแล้ว เราเลยสั่งเช็คบิล เอิ่ม คือรอนานมาก สิบหรือสิบห้านาที กว่าพนักงานจะเก็บตัง
เราเดินออกจากร้านฟูจิแล้วขึ้นบันไดเลื่อน ฉันลังเลใจอยู่นานจึงต้องรบกวนเขาให้ซื้อ หนังสือนิยายจีนแปลไทยเล่ม6ให้หน่อย เขาก็ไม่ว่าอะไร เขาก็ซื้อให้ตามคำขอ รู้สึกขอบคุณและดีใจ
ฉันชอบอยู่ประโยคนึง ตอนที่ขึ้นบันไดเลื่อน ที่เขาพูดกับฉันว่า “เราดูหนังกันโหดจัง หนังเข้าไปชั่วโมงล่ะ 555 ”
ฉันคิดว่า เราคงมีเวลาน้อย กระชั้นชิด แต่เขาก็ไม่ซีเรียสหรอก บางทีเขาก็ชอบเลทแบบนี้
เราแวะซื้อโค้กแก้วนึงก่อนเข้าโรง เราเข้าโรงไปก็คนเต็มโรงอ่ะ หนังก็เล่นไปเกือบชั่วโมงละ นั่งโซฟาก็กว้างดี แต่ก็มีบ่อยที่ต้องกระซิบคุยกัน
เรื่องที่แปลกคือ เขาบอกเขาชอบกินน้ำแข็ง ไม่ค่อยอยากกินน้ำโค้ก และฉันเลยอาสาน้ำโค้ก เพื่อให้เขากินน้ำแข็ง จนโดนแซว “ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้เดี๋ยวปวดฉี่นะ ไม่ต้องฝืน “ เอิ่ม ฉันก็ปวดฉี่จริง แว๊บไปห้องน้ำ และหนังใกล้จบฉันก็น้ำหมดพอดี เลยยื่นแก้วไปให้เขา
พอหนังจบเราก็ออกจากโรงตอนห้าทุ่ม ห้างปิดแล้ว ต้องออกทางลิฟท์และออกหลังห้าง เจอฝนตกพร่ำๆเราก็เดินลัดเลาะจนไปสถานีบีทีเอส สยาม แล้วเราก็โบกมือลา .......แยกทางกัน
ต่างคนต่างกลับ และถึงบ้านเที่ยงคืนกว่าๆพร้อมกัน
ปล. เราใช้สรรพนามเรียกแทนกันว่า ฉัน และ เธอ
ดีใจที่ได้เป็นเพื่อนเธอนะ หวังจากเราคงมีโอกาสเจอกันอีก เพราะเธอบอกฉันว่า ฝึกงานเสร็จก็กลับ ตจว. แล้ว