คงไม่ได้เข้ามาปลอบเพราะเชื่อเองว่าน้องจ๋องไม่ใช่สาวที่จะอ่อนไหวไปกับคำพูด
เอาประสบการณ์พระเอกมาให้รับรุ้ดีกว่า
ช่วงที่poppy loveได้ไปไหนมาไหน และ มีลักษณะเดียวกันกับที่น้องจ๋องระบุแต่ช่วงเวลาคงต่างกันคือผมกับแฟนคบกันตั้งแต่มัธยมต้นจนเข้ามหาลัยคบกันนานราว7ปีมีความสุขตามประสาวัยรุ่นแต่ไม่นัวไม่เซ๊กส์ตามค่านิยมในสมัยนั้น
วันหนึ่งมีรุ่นพี่มาจีบเธอทุ่มเทให้กับเธอถ้าเรื่องทั่วไปก็ไม่น้อยกว่าผมแต่ถ้าเรื่องความสะดวกสบายแน่นอนเขารวยล้นฟ้าผมจนติดดิน
ลองทายว่าแฟนผมเลือกใคร
เธอยังคงเลือกผม
รุ้มั๊ยผมเลือกเดินอย่างไร
ผมเลือก เหมือนหนุ่มๆในสมัยนั้นที่ถูกอิทธิพลของภาพยนต์ไทยที่อยากเป็นพระเอกผู้เสียสละโดยตัดสินใจเลิกคบเปิดทางให้กับเธอ เธอเฝ้าง้อแต่ผมใจร้ายใจแข็งด้วยเหตุผลว่าในอนาคตถ้าเธอคบรุ่นพี่คนนี้เธอคงมีความสุขมากกว่าที่จะมาแต่งกับผมที่ยากจน นี่คือการตัดสินด้วยเหตุผลที่ปนความรุ้สึกโดยไม่นึกถึงว่าคู่รักของเราจะคิดอะไร สุดท้ายเธอแต่งกับรุ่นพี่คนดังกล่าว แล้วเป็นอย่างไร
ตั้งแต่จากกันมาได้ยินข่าวเพียงครั้งเดียวจากเพื่อนสนิทเมื่อสิบกว่าปีก่อนว่าเธอทุกข์มาก ทุกข์ตลอด
ลองถามและบอกกับตัวเราเองว่าเมื่อรุ้ผลแบบนี้แล้วถ้าย้อนกลับไปได้เราจะเลิกกับเค้าหรือไม่
ร่ายมายาวแค่ไม่อยากให้น้องจ๋องหรือใครก็ตามมองไกลหรือมัวแต่คิดหาเหตุผลเพื่อจะเลิกตามจิตใต้สำนึกจนลืมนึกถึงความรู้สึกของคู่ของเราในขณะนี้แล้วตัดสินใจผิด
ก่อนตัดสินใจถามตัวเราก่อนว่าจะทุกข์หรือสุขแล้วตัดสินใจอะไรก็ได้ที่ทำให้เราและคู่ของเรามีความสุขที่สุดไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งครับ
เหตุผลและอารมณ์เป็นเพียงข้ออ้างที่จิตใต้สำนึกบงการชีวิตีเราครับ
ด้วยความปรารถนาดีต่อชีวิตคู่ที่มีความสุขที่ต้องดำเนินต่อไป