คนหนึ่ง ... ยิ่งห่างไกล ยิ่งคิดถึง
อีกคนหนึ่ง ... ยิ่งห่างไกล ยิ่งเหินห่าง
หนึ่งเดือนแห่งการรอคอย เป็นเวลาอันแสนยาวนาน ทั้งๆที่หนึ่งวันก็มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่าเดิม
ปลายเดือนพฤษภาที่ผ่านมา เราได้ทำความรู้จัก ได้พูดคุย ช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราคุยกันก่อนจะพบกัน
ประโยคที่ใช้สนทนาในแต่ละวันมันมากกว่าตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
บทสนทนามักจะถูกจบลง ด้วยการอ่านแต่ไม่มีข้อความตอบกลับ
30 พ.ค.
กระทู้หนึ่งถูกตั้งขึ้น ด้วยความจิงพร้อมความหวัง และเชื่อเรื่องวาสนา
หนึ่งข้อความทักทาย "อยากไปไหนจะพาไป" ข้อความที่ทำให้คนอ่านแทบจะดีดตัวจากที่นอน
ทั้งที่ป่วยเก็บกระเป๋าแล้วไปทันที สถานที่ต่างๆ ถูกเสนอขึ้นด้วยความคาดหวังจะได้เดินทางไปพักผ่อนแบบจิงจัง
31 พ.ค.
บทสนทนา แสดงถึงความห่วงใย ด้วยเพราะอีกฝ่ายยังป่วยแต่ต้องทำงาน และอีกฝ่ายก็อดไม่ได้ที่จะออดอ้อนเมื่อมีคนแสดงความห่วงใย ไม่คิดว่าสุดท้ายมันจะกลายเป็นบ่วงที่มาผูกคอเรา
1 มิ.ย.
ข้อความทักทายและบทสนทนา ยังคงแสดงถึงความห่วงใยเช่นเคย และมีคำถามถึงวันหยุดเพื่อวางแผนในการออกเดินทาง
2 มิ.ย.
นอกจากบทสนทนา ก้อยังมีสติกเกอร์ น่ารักเป็นเชิงอ้อนกันไปมา คุยกันแค่4วัน คำพูดว่าคิดถึงและอยากเจอ เริ่มมีออกมาจากอีกฝ่าย
3 มิ.ย.
ความห่วงใยยิ่งมีมามากมาย อยากดูแล อยากอยู่ใกล้ๆมักมีในได้ยินเสมอๆ ความสนิทใจเริ่มมีมากขึ้น กล้าที่จะพูดคุยและล้อเล่นกับอีกฝ่ายมากขึ้น เริ่มมีอะไรที่คล้ายๆกันหลายอย่าง และเป็นวันที่เราคุยกันมากกว่าทุกวัน คุยกันแทบจะทุกเวลา
4 มิ.ย.
คำออดอ้อนมักส่งมาไม่ห่างหาย สติกเกอร์ถูกส่งแทนคำพูดบางคำ และกิริยาบางอาการ การนัดกันครั้งแรก ถูกกำหนดวันขึ้น ความห่วงใยและช่างสังเกตุ นำมาซึ่งใจของอีกฝ่ายที่ทุ่มไปแบบไม่เผื่อใจ
5 มิ.ย.
คำขอความช่วยเหลือถูกสร้างขึ้น การช่วยเหลือมียื่นมาแบบไม่รับแต่ใจมาเต็มๆ
6 มิ.ย.
บทสนทนา ยังมีมาอย่างสม่ำเสมอ คำบอกกล่าวแสดงความออดอ้อนถูกส่งมาอย่างต่อเนื่อง
7 มิ.ย.
คำทักทาย ความห่วงใย ยังมีมาไม่ขาดสาย
8 มิ.ย.
การนัดพบกัน เป็นอันชัดเจน ว่าคือวันพรุ่งนี้ ครั้งแรกที่เราได้พูดคุยกันแบบจิงจัง ได้ยินเสียง เราคุยกันเหมือนรู้จักกันมานาน 40 นาที ที่เราคุยกัน ทำให้อีกฝ่ายนอนดึกกว่าทุกๆวันในรอบหลายเดือน
9 มิ.ย.
ยังคงพูดคุยกันเหมือนเช่นเคย แต่ช่วงเย็นของวันนี้เราจะได้ เจอกัน ได้กอดกัน ได้ว่ายน้ำด้วยกันอย่างที่พูดคุยกันเสมอมา
เย็นวันนั้น 1 ช.ม.ของการนั่งรถช่างยาวนานเหลือเกิน