ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.01  (อ่าน 1921 ครั้ง)

mzazaza2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 278
  • People Like This 103
 **36** วันนี้ตื่นเช้ามาว่างจัดนั่งอ่านของคนโน้นคนนี้ พลันมามองดูตัวเอง เอเราก้อลงแต่การบ้านงานนัว งานถ่ายภาพ แลี มีน้องน่ารักสนใจ ผ่านงานมาเยอะ แต่จริงๆก้อมีโมเม้นนี้เหมือนกัน โมเม้นที่ความรู้สึกมันลงลึกและก้าวนำความเข้าใจ ซึ่งเป็นโมเม้นที่มากกว่าการจ้างงาน ก้อเอามาแชร์กัน ที่สำคัญมีหลายคนเลยตั้งการบ้านนี้เป็น EP.01

           โดยปกติผมจะเป็นคนที่ตีกรอบความเข้าใจของการรับงานไว้ในรูปแบบฟีลแฟน แต่ไม่เลี้ยงดู ถูกใจเจอกันไปได้เรื่อยๆ น้องก้อมีชีวิตส่วนตัวของน้อง แต่เมื่อเจอกันก้อขอมีความทรงจำร่วมกันที่ดีๆภายใต้เวลาที่ตกลง ที่สำคัญที่สุดคือไม่ว่างานจะไหลไปไกลขนาดไหนจะไม่มีฟีลบังคับกัน จึงเป็นที่มาของงานฟีลแฟน

           แหมฟังดูกรอบความเข้าใจของผม อืมมันีเลยทีเดียวแหละ แต่นั่นแหละเมื่อเราไม่ได้ต้องการฟีลแฟนเพียงฝ่ายเดียว ประกอบกับความน่ารักและเคมีที่เข้ากัน หลายครั้งมันก้อนำพาไปสู่การลาจากแต่สิ่งที่เหลือไว้จางๆคือความทรงจำที่ดีที่ไม่จางหาย

           EP.01 : เมื่อน้องบอกว่า "ขอให้พี่เป็นผู้ชายคนเดียวของหนูได้มั้ย" สำหรับน้องคนนี้เป็นน้องที่ผมเจอบ่อยที่สุดน่าจะเกิน 20 ครั้ง และพูดคุยกันบ่อยมากๆ และที่สำคัญฟังไม่ผิดครับ "ขอให้พี่เป็นผู้ชายคนเดียวของหนูได้มั้ย" น้องพูดแบบนั้นจริงๆ มันไม่ใช่ผมหน้าตาดีหรือร่ำรวยอะไรมันมาจากความบังเอิญและรสนิยมส่วนตัวของน้องคนนี้ เรื่องมันมีอยู่ว่า.....

           ผมได้เริ่มต้นพูดคุยกะน้องคนนึงโดยเริ่มต้นจากการที่น้องแอดมาคุย แต่คุยไปคุยมาก้อไม่ออกแนวรับงานซักที แถมเธอยังเริ่มต้นความทรงจำด้วยบทสนทนาที่ว่า "หนูเป็นเลสเบี้ยน หนูมองผู้หญิงแบบที่ผู้หญิงมองผู้ชาย" เอ่อมาแนวนี้แล้วจะไปยังงัยต่อล่ะทีนี้ ก้อคุยๆกันไปครับไ้ด้ความว่า น้องรู้สึกตัวว่าชอบผู้หญิงมาตั้งแต่เด็กๆ ผมก้อมักจะได้ฟัง ไลฟสไตล์ของเลสเบี้ยนผ่านน้องคนนี้ ทั้งเรื่องความชอบ รสนิยม หรือแม้แต่สถานที่เที่ยวที่เธอบรรยายซะผมอยากไป เพราะทุกอาทิตย์เธอมักจะไปปาร์ตี้ น่าจะเรียกว่าปาร์ตี้เลสล่า อะไรซักอย่างถ้าผมจำไม่ผิด เธอบอกเป็นสถานที่ๆมีแต่ผู้หญิงชอบผู้หญิงหรือทอมกะดี้อะไรประมาณนั้น เวลาเธอเล่ามักจะมีกิจกรรมนึงเกิดขึ้นในการเที่ยวเสมอ คือเธอโดนจีบและโดนขอจูบ เธอบอกว่าเธอเป็นแบบที่ผู้หญิงแนวนี้ชื่นชอบ ไอผมก้อนึกไม่ออกว่าแนวไหนน้า เธอบอกขนาดเดินปกติกลางวันก้อมักจะมีผู้หญิงหรือทอมเข้ามาจีบเธอแบบนั้น มันยิ่งทำให้ผมอยากเห็นหน้าเธอมากขึ้นไปอีก

       คุยกันอยู่นาน เธอมักบอกว่าผมเสียงเพราะเหมือนเกย์เลย เป็นเกย์รึป่าวเนี่ย ผมก้อไม่ได้สวนว่าลองสิหรือพิสูจน์สิอะไรทำนองนั้น ผมแค่บอกเธอไปว่า "ลองเจอดู รับรองว่าหนูรู้ว่าพี่ไม่ใช่แน่นอน" ไม่รู้เพราะประโยคนี้รึป่าว จึงเป็นที่มาของการเจอกันของสองเรา เพราะผมประมาณจากอายุและนิสัยของเธอ เธอเป็นประเถทอยากรู้อยากเห็น ออกแนวเด็กวัยรุ่นสมัยใหม่ ด้วยนิสัยข้อนี้นำพาเราสองคนมาเจอกัน

      การเจอกัน ผมก็ทำตามกรอบข้อตกลงของตัวเอง คือเจอกันก่อนพูดคุยกันแล้วถ้าถูกใจก้อไปต่อกัน แต่แค่แตกต่างตรงไม่ได้พูดคุยเรื่องงานหรือเรทหรือข้อตกลงอะไรอีกเลย คือเลิกคุยเรื่องพวกนี้มานานแล้ว เพราะน้องบอกเธอไม่ได้มาหางาน เธอแค่ทักผมเข้ามาจากโพส เราเจอกันก้อคุยกันสนิทดีเพราะคุยกันมานาน เธอก้อเป็นลุคที่ผมบอกได้ว่าไม่ใช่แค่ผู้หญิงหรอกที่ชอบเธอ ผู้ชายก้อชอบ โดยเฉพาะผม เธอเป็นผู้หญิงที่ตัดผมประมาณแนวบ่าไม่สั้นมากและยาวมาก ดูทะมัดทะแมง เธอขี่มอเตอร์ไซต์ แบบเท่ๆแต่ไม่ถึงกะบิ้กไบท์ เธอยิ้มน่ารัก และที่สำคัญตลอดการสนทนาเธอยิ้มและเขิลตลอดเวลา เธอกระซิบบอกภายหลังว่า "หนูไม่ชินเลยพี่การนั่งคุยกะผู้ชาย 2-2"

    เราคุยกันไม่นานนัก ผมพลั้งปากชวนเธอออกไป ความจริงก้อไม่ได้พลั้งปากหรอก ตั้งใจแหละ แต่แค่เร็วไปหน่อย เธอเงียบไป นั่งก้มหน้า ไม่พูดอะไร ผมก้อเงียบด้วยเช่นกัน และไม่นานผมก้อชวนคุยเรื่องอื่นเนื่องจากไม่อยากให้เสียบรรยากาศ แต่เธอกลับพูดลอยๆ ออกมาว่า จะไปที่ไหน หนูไว้ใจพี่ได้ใช่ป่าว ตอนนั้นผมก้อสงสัยกับคำถามหลังของเธอว่าที่ว่าไว้ใจได้มันคืออะไร แต่ก้อดีใจจนรีบพยักหน้าและตอบรับเธอไป

    เมื่อเราได้อยู่ด้วยกัน ผมกอดเธอเบาๆ เธอก้มหน้าและที่สำคัญไหล่สองข้างของเธอสั่นเบาๆ ผมจึงชวนเธอคุย แต่คราวนี้เป็นการคุยแบบตาใกล้กันในระยะกระชั้นชิด เธอหลบตาหน้าแดงผิวขาวเหลืองของเธอตอนนี้บนในหน้ามีรอยชมพูจางๆ ผมเริ่มนำมือของตนเองไปจับปลายคางของเธอแล้วยกขึ้นเบาๆให้ตาเราสองคนอยู่ในระยะประสานกัน แต่ก้อทำไม่สำเร็จเธอเบี่ยงหน้าซ้ายขวาตลอด แต่ตลอดเวลาเราก้อพูดคุยกันเหมือนเดิม ต่างกว่าทุกครั้งก้อแค่ระยะห่างระหว่างเราที่ตอนนี้ติดกันไปเหมือนปาท่องโก๋เลย ผมไม่รู้จะทำยังงัยจึงนำมือสองข้างสัมผัสที่แก้มทั้งสองของเธอเบาๆ และปรับระดับให้ตาเราประสานกัน แล้วเธอก้อประสานตากับผมจนได้ ตอนนั้นไม่รู้อะไรแล้วในสมองผม รู้แต่ว่าระยะริมฝีปากของเราสองคนค่อยๆใกล้กัน และมันก้อสัมผัสกัน จากเบา จากผิว ไล่ระดับไปลึก จนได้ฟีลลิ่ง บิด หยิก บด โอย ไม่รู้ฟีลไหน รู้แต่ว่ามาถึงโมเม้นนั้น ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงบอกเธอชอบจูบ ไอผมก้อชอบเหมือนกัน ส่วนตัวผมก้อโอเคเพราะไวรัสตับอักเสบที่หลายคนกลัวผมก้อฉีดยาไว้แล้ว เลยสบายๆขอแค่อย่ารุนแรงมากจนเลือดออกละกัน เธอไม่หยุด ส่วนผมก้อไม่คิดจะหยุด กว่าจะห่างระยะออกมา ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เหมือนมันอยู่ข้างๆหูผมตลอดเวลา ตัวที่สั่นขึ้นมากกว่าเดิม

    โมเม้นนั้นผมก้อทำในสิ่งที่ผู้ชายคนนึงพึงกระทำใส่ผู้หญิงคนนึงโดยไม่ได้มองหรือคิดว่าเธอเป็นเลสหรือเป็นดี้หรือเป็น เออเป็นอะไรก้อช่างเถอะ รู้แต่ว่าผมชอบฟีลตอนนั้นเป็นบ้าเลย แตะตรงไหนเธอมีรอยจางๆตลอด ที่สำคัญเสียงลมหายใจ เสียงพูดในบทสนทนาที่ขาดห้วง และที่สำคัญกล้ามเนื้อที่กระตุกและสั่นในหลายๆส่วนทำเอาผมอารมณ์เตลิดเป็นที่สุด สุดท้ายผมว่าผมเหนื่อยกว่าวิ่งรอบสนามฟุตบอลแน่ๆ เหงื่อเต็มตัว ผมเกรงใจเธอพยายามจะเอาผ้ามาเช็ด เธอส่ายหน้าและกอดผมแน่นขึ้น เออแบบนี้นี่ฟีลยิ่งกว่าผู้หญิงที่ชอบผู้ชายซะอีก

     หลังจากนั้นเป็นภาวะเงียบงันอยู่พักนึง ผมก้อทำตัวไม่ถูก เพราะเอาจริงๆนี่มันไม่รู้เลยว่าไถลอารมณ์ตัวเองมาไกลขนาดนี้ได้ยังงัย แล้วก้อมีประโยคนึงหลุดออกมาจากปากเธอ "พี่หนู ขอโทษ" เอ่อสมองผมเหมือนโดนเหวี่ยงแรงๆ เอ้ยๆนี่คำพูดของผมรึป่าว น้องเล่นผิดบทรึป่าว หน้าตาผมตอนนั้นคงตลกมากแน่ๆเพราะออกแนวเหวอๆ จนประโยคถัดไปของเธอทำเอาผมโล่งใจ "หนูทำพี่เป็นรอยที่แขน" อ๋อ ผมเข้าใจและ ตลอดเวลามือเธอหาที่หยิกจนผ้าปูที่นอนแทบขาด ผมเลยตอบไปโดยหันหน้าไปกระซิบข้างหูเบาๆว่า "ไม่เป็นไร แล้วหนูล่ะทำไมเป็นแบบนี้" เธอไม่ได้ทำหน้างงอะไร แค่หันมามองผมแล้วหันกลับไปนอนหงายพร้อมพูดเบาๆว่า "หนูว่าจูบผู้ชายกะผู้หญิงไม่เหมือนกัน" เอาล่ะตอนนี้บทสนทนาเริ่มขับเคลื่อนไปด้วยตัวของมันเองไม่เกิดภาวะสูญญากาศชวนอึดอัดอีกแล้ว แล้วเธอก้อไล่ไปเรื่อยๆในทุกบทบาทเปรียบเทียบกันแบบช็อตต่อช็อต คุยกันอย่างได้อรรถรสระหว่างคนนึงที่อยากรู้กับอีกคนนึงที่อยากระบาย จนสุดท้ายเธอจบประโยคที่ว่า "ขอให้พี่เป็นผู้ชายคนเดียวของหนูได้มั้ย" แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรแค่กอดเธอเบาๆ เพราะเอาจริงๆไม่รู้ไม่กล้าไม่เข้าใจคือไม่เคยมีฟีลนี้กะเลสเบี้ยนจริงๆเลยตอบไม่ถูก ไม่ใช่สิไม่กล้าตอบมากกว่า

     ขณะที่นั่งรถจะพาเธอไปส่งที่คอนโดผมก้อหยิบเงินตามที่ผมประทับใจส่งให้เธอ เธอมองหน้าผมจากสีหน้ายิ้มแย้มเขิลๆ เป็นหน้านิ่งๆ ไม่ยอมรับเงินจากมือผม จนผมต้องหันหน้าไปมองเธอ แต่ไม่นานผมก้อต้องหันกลับมา แล้วเธอก้อพูดว่า "ถ้าพี่อยากเจอหนูอีก พี่อย่าทำแบบนี้อีก" ผมไปไม่ถูก ออกอาการตกใจ เลยรีบพูดออกไปว่า "หนูโกรธเหรอ พี่แค่ไม่อยากเอาเปรียบหนู" เธอไม่ตอบอะไร ผมรู้ได้โดยสัญชาตญาณ จึงไม่พยายามส่งมันกลับไปให้เธออีก แต่แน่นอนการทำแบบนี้อยู่นอกกรอบความเข้าใจของผม ในภายหลังผมจึงหาวิธีสังเกตว่าเธอชอบอะไรก้อจะหามาให้เท่าที่ผมพอจะหาได้ เธอก้อรับไว้ แต่ทุกครั้งเธอจะบอกว่าไม่ต้องเลย มันเปลืองพี่

     เราคุยกันหลายครั้ง เจอกันหลายครั้งและเธอก้อทำแบบที่เธอบอกจริงๆ เธอมักจะเล่าเรื่องแฟนของเธอซึ่งเป็นผู้หญิงให้ผมฟัง เธอคุยกะผมตั้งแต่เรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องที่บ้าน เรื่องแฟน แต่ผ่านไปหลายเดือนเธอไม่เคยเอ่ยปากยืมเงินผมแม้แต่ครั้งเดียว จนมีครั้งนึงเธอขาดเงินแค่จำนวนไม่มากเพื่อจะไปจ่ายค่าเทอม ผมจำท่าทางของเธอวันนั้นได้ดี เธอทำหน้าไม่ถูกออกแนวไม่เป็นตัวของตัวเอง พร้อมยื่นเอกสารให้ผมแผ่นนึง แล้วพูดกะผมว่า "พี่ช่วยหนูหน่อยได้มั้ย" ผมอ่านเอกสาร เฮ้ยนี่มันสัญญายืมเงินรึอะไรซักอย่างมีเงื่อนไขการผ่อนชำระด้วย ผมอ่านแล้วก้อพับกระดาษใส่มือเธอ แล้วหยิบเงินจำนวนนั้นให้เธอ พร้อมพูดว่า "ไม่ต้องยืมพี่ให้" แต่เธอกลับพูดว่าถ้าพี่ทำแบบนี้หนูไม่รับ หนูขอยืมนะไม่ได้ขอเลย เรายื้อกันอยู่นาน จนผมยอมเธอ

     ตลอดเวลาที่รู้จักน้องคนนี้มันทำให้ช่วงเวลารถติดของผมมันเพลิดเพลิน เหมือนมีเพื่อนชวนคุยตลอดทาง จนในที่สุดความต้องการผมเริ่มมากขึ้น ไม่ใช่ในเรื่องอะไรนะครับ แค่เรื่องทางใจ ผมรู้สึกหงุดหงิดกับแฟนของเธอที่ทำไม่ดีกับเธอ จนวันนึงผมพลั้งปากออกไป เนื่องจากเธอเล่าให้ฟังว่าแรกที่แฟนทำร้ายร่างกายเธอ ผมจึงหมดความอดทน ทั้งๆที่ผมควรจะเป็นแค่ที่ระบายความรู้สึกของเธอ ผมกลับพูดไปว่า "ถ้าหนูยังเป็นแบบนี้ ถ้าหนูไม่เชื่อพี่ พี่จะไม่คุยกับหนูแล้ว" นั่นคือที่มาของการห่างกันของเรา จนสุดท้ายผมเห็นภาพของเธอกับแฟนเริ่มมีความสุขมากขึ้น ผมก็เข้าใจ และคิดว่าผมออกห่างมาน่าจะดีที่สุด เพราะความทรงจำที่เธอให้ผมนั้นมากเกินพอแล้ว แม้เธอจะติดต่อมาเรื่องคืนเงิน ผมก้อแค่ตอบไปว่า "พี่ให้ และไม่ต้องบอกว่าทำแบบนี้จะไม่คุยกะพี่แล้ว เพราะตอนนี้หนูมีความสุขดีแล้ว เอาเงินไปทำอย่างที่หนูเคยเล่าให้พี่ฟังละกัน" หลังจากนั้นเราก้อห่างกันไป เหลือไว้แค่ความทรงจำที่สวยงาม

    น้องแนวนี้ผมเจอหลายคนเหมือนกัน ไว้วันไหนมีฟีลลิ่งจะมาเล่าให้ฟังอีกครับ แต่ฟีลตอนลบแชทที่เคยคุยกะน้องเพื่อหักใจให้ไม่ทักไม่คุยนี่ มันเป็นซีนสะเทือนอารมณ์จริงๆ แต่ความทรงจำของน้องคนนี้ก้อเป็นความรู้สึกที่แปลกและชวนให้คิดถึงอยู่เสมอ  **36**

ปล. การบ้านเอมันไม่ใช่การบ้านนะ มันออกแนวระบายความรู้สึก ไม่มีปาหรืออะไรเลยนะครับ ส่วน FC ที่รอการบ้านปาสวยๆ วันนี้มาครับ มาตอนไหนลองดูในห้องการบ้านนะครับ

BunnyR

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 91
  • People Like This 64
  • Now I see, if I wear a mask, I can fool the world.
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.01
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 17, 2017, 07:41:23 AM »
เข้าใจอารมณ์ตอนลบแชท ตอนดึงสติตัวเองไม่ให้มือลั่นส่งข้อความไปเลยค่ะ
ตอนนี้ทำได้แค่เข้าไปดูทามไลน์ที่มีเพียงรูป6รูปของเค้าแทน

กระต่ายหน้าตาดีที่มีแฟนแล้ว

mzazaza2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 278
  • People Like This 103
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.01
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 17, 2017, 09:03:50 AM »
เข้าใจอารมณ์ตอนลบแชท ตอนดึงสติตัวเองไม่ให้มือลั่นส่งข้อความไปเลยค่ะ
ตอนนี้ทำได้แค่เข้าไปดูทามไลน์ที่มีเพียงรูป6รูปของเค้าแทน

เนอะๆ มันออกแนวมือสั่นๆ ใจหวิวๆ

^0^คุณหนูสายนก

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 127
  • People Like This 65
  • "เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว แม้ว่าเธอไม่เคยเป็นอะไรกับฉันเลย ^^"
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.01
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 17, 2017, 10:30:36 AM »
อ๋อคนนี้นี่เอง ต้นเหตุของอาการแปลกของพี่ ก็เก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีต่อกันแระกันนะคะ เพราะบางสิ่งที่เราทุกคนรู้และเข้าใจดีคือโลกในนี้มันไม่ใช่โลกแห่งความเป็นจริง สักวันมันก็ต้องหายไป เรารู้แต่เราดันชอบเผลอใช้ความรู้สึกจริงๆไปกับมัน ก็เปนกำลังใจให้นะคะ
...ความสวยที่หนูมีน่ะพอไปวัดไปวา แต่ความฮาที่มีอ่ะ อันลิมิต...

"รับงานเที่ยว ทุกเพศนะคะ ชาย หญิง ทอม ดี้ เลส ได้หมดถ้าสดชื่น กั๊กๆ"
#บริการสไตล์สายฮา ทุกรีราาาเน้นความบันเทิง อรรถรสค่ะ!!!
#พี่อาจจะมาด้วยใบหน้าพาจิตดับ แต่หนูจะส่งพี่กลับพร้อมรอยยิ้ม ^^

ปล.สำหรับพี่ๆที่หางานแรงสายนกขออนุญาตผ่านนะคะ ^^

Zhaosz

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 76
  • People Like This 35
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.01
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 17, 2017, 12:40:14 PM »
รอ ep2 ครับ
เหมือนดูหนังญี่ปุ่นเลย
เครียดปนเศร้า แต่ลึกซึ้งและเข้าถึงได้
ดีมากมายครับ
เริ่มชอบ วันที่ 3
สารภาพ วันที่ 6
จบลงใน วันที่ 9

mzazaza2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 278
  • People Like This 103
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.01
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 17, 2017, 12:55:57 PM »
อ๋อคนนี้นี่เอง ต้นเหตุของอาการแปลกของพี่ ก็เก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีต่อกันแระกันนะคะ เพราะบางสิ่งที่เราทุกคนรู้และเข้าใจดีคือโลกในนี้มันไม่ใช่โลกแห่งความเป็นจริง สักวันมันก็ต้องหายไป เรารู้แต่เราดันชอบเผลอใช้ความรู้สึกจริงๆไปกับมัน ก็เปนกำลังใจให้นะคะ

ขอบคุณคร้าบ หนูฉลาดไปนะ อิอิ

mzazaza2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 278
  • People Like This 103
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.01
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 17, 2017, 12:57:24 PM »
รอ ep2 ครับ
เหมือนดูหนังญี่ปุ่นเลย
เครียดปนเศร้า แต่ลึกซึ้งและเข้าถึงได้
ดีมากมายครับ

ขอบคุณคร้าบ ep.02 นี่นางเอกเปลี่ยนไปนะครับ คนนั้นจะออกแนวสาวสวย แบบหวานๆเลยครับ รอฟีลผมก่อนนะครับ

slow

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,830
  • People Like This 2111
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.01
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 17, 2017, 06:03:35 PM »
เจอคนพิเศษ ย่อมมีความรู้สึกพิเศษเป็นธรรมดา...

mzazaza2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 278
  • People Like This 103
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.01
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 18, 2017, 06:46:06 PM »
อ๋อคนนี้นี่เอง ต้นเหตุของอาการแปลกของพี่ ก็เก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีต่อกันแระกันนะคะ เพราะบางสิ่งที่เราทุกคนรู้และเข้าใจดีคือโลกในนี้มันไม่ใช่โลกแห่งความเป็นจริง สักวันมันก็ต้องหายไป เรารู้แต่เราดันชอบเผลอใช้ความรู้สึกจริงๆไปกับมัน ก็เปนกำลังใจให้นะคะ

ขอบคุณน้า FC อิอิ

mzazaza2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 278
  • People Like This 103
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.01
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มีนาคม 18, 2017, 06:47:08 PM »
เจอคนพิเศษ ย่อมมีความรู้สึกพิเศษเป็นธรรมดา...

ความรู้สึกพิเศษเมื่อมันหายไปมันจะแปลงร่างเป็นความทรงจำที่แสนพิเศษครับ อิอิ