...
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าลูกค้าของสายนกคนนี้ไม่ได้เล่น WLG แต่เรารุจักคุ้นเคยกันมาก่อน แต่ยุๆมาจ้างกันได้ไง ติดตามในการบ้านฉบับนี้กันได้เลยนะคะ...
ณ พิธีแต่งงานในโบสถ์ย่านใจกลางเมือง
...ระหว่างที่คู่บ่าวสาวกำลังกล่าวคำสาบานต่อกันและกัน บรรดาแขกในงานต่างยืนเป็ักขีพยานให้กับความรักของทั้งสอง และร่วมกันขอพรจากพระเจ้าให้ประทานความสุขและความอบอุ่นให้กับครอบครัวของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่อีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้เค้าทั้งสองกำลังจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
...บรรยากาศภายในโบสถ์เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก บ่าวสาวจูงมือกันบนพรมแดงผ่านบรรดาแขกในงานที่ร่วมกันโปรยดอกไม้แสดงความยินดีให้กับความรักในครั้งนี้ สายนกก็เป็นคนหนึ่งที่รับหน้าที่โปรยดอกไม้เช่นกัน
>>สายนก : "ขอให้รักกันนานๆ มีครอบครัวที่อบอุ่น สมบูรณ์แบบนะคะ" สายนกอวยพรพร้อมกับโปรยดอกไม้ให้กับคู่บ่าวสาวที่เดินมายืนตรงหน้า และค่อยๆเดินผ่านไป
...วินาทีนั้นเองสายตาของสายนกก็เผอิญไปสะดุดกับรอยยิ้มของผู้ชายคนหนึ่งในงาน มันดูเป็นรอยยิ้มที่คุ้นเคย จนทำให้สายนกต้อง พิจารณาใบหน้าของชายที่เป็นเจ้าของรอยยิ้มนั้นให้ชัดเจนอีกครั้ง
...ภาพที่ปรากฏตรงหน้าของสายนกคือ ชายหนุ่มผิวขาว สูงราวๆ 173 เซน ในชุดเสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาวสีขาว ตัดขอบและปกเสื้อด้วยสีชมพู ที่ส่งยิ้มหวานมาให้สายนก ^^ และเค้าก็ไม่ใช่ใครคุณเพื่อนชายเจ้าของฉายายิ้มมาริโอ้นี่เอง ดังนั้นสายนกขอเรียกเพื่อนคนนี้ว่า "พ่อมาริโอ้" แล้วกันนะคะ
>>สายนก : อ้าว โหยยยย เราก็ว่า ป้อจาย ติไหน น้อออ ยิ้มซะนึกว่ามาริโอ้มาเอง ^o^ (เนี่ยเหนผู้ชายเป็นแซว กุลสตรีหน่อยหล่อนนน!!!)
>>พ่อมาริโอ้ : 555 ขนาดน้านเรยหราจ๊ะ (ก้มหน้า เอามือเกาแก้มตัวเองแก้เขิน)
...นี่แหละเหตุผลหนึ่งที่นกชอบรับงานผู้ชายขี้อายๆ มันทำให้นกรู้สึกเหนือกว่า 555... (บ้าผู้ชายแระยังจะบ้าอำนาจอีก หล่อนนี่ ครบเรยนะยะ)
>>สายนก : จริงๆ ตัวอ่ะ เวลายิ้มน่ารักเหมือนมาริโอ้เลย แบบพี่โชนสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารักอ่ะ ^^ (ชื่อหนังบ่งบอกอายุอานาม กั๊กๆๆๆๆ)
>>พ่อมาริโอ้ : ก็มีตัวเองคนเดียวแหละเรียกเค้าแบบนั้นอ่ะ (มือไม้ยุไม่สุก นี่ๆรุจักกันมาตั้งนานแระ จาเขินไรนักหนาจ๊ะ ทำหยั่งกะครั้งแรก 555)
>>สายนก : "ถึงคนอื่นเค้าไม่เรียกแต่เค้ากะเหนด้วยกันนะจ๊ะ จริงป่ะ? พวกเธอ" สายนกพูดพลางหันไปถามความเห็นบรรดาเพื่อนเก่าที่มางานเหมือนกัน แระทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ช่ายยยยยยยยยยยยย"
>>พ่อมาริโอ้ : "แหม...งั้นคงต้องขอบคุณ ญาญ่า นั่นแหละที่ตั้งฉายานี้ให้เรา ^o^" พูดเส็ดก็จ้องหน้าสายนกตามระเบียบเจ้าค่ะ (เอาแระไงพ่อมาริโอ้ของสายนก เริ่มออกลายล่ะ อิอิ)
>>แก๊งค์ชะนีน้อย(เพื่อนสายนกเอง) : หูยยยยยยย (ประสานเสียง) ก่อนจะมีเพื่อนชะนีนางหนึ่งโพล่งออกมากลางกลุ่มว่า "เฮ้ยยย พวกเมิง หนิสรุปเรามางานแต่งใครแน่ว่ะ กุสับสน"
>>สายนก/พ่อมาริโอ้/แก๊งค์ชะนี : 5555555
...พวกเราก็จับกลุ่มนั่งเม้ามอยกันตามประสาเพื่อนที่นานๆจะเจอกันที
...จนสมควรแก่เวลาที่พวกเราควรจะกลับบ้านใครบ้านมันได้แระ เราก็รำ่ลากันตามปกติ แล้วสักพักสายนกก็ได้ยินเสียงผู้ชายดังมาจากด้านหลัง
>>พ่อมาริโอ้ : "ญาญ่าาาาา" ยืนทำหน้าตาจิ้มลิ้ม เรียกสายนก
>>สายนก : ได้ยินแบบนั้น แน่นอนว่า สายนกต้องรีบหันไปแน่นอน (#มีความหลงตัวเองระดับสิบ) 555 ไม่แคร์ค่ะ สายนกถือคติว่า สวยให้ 5 มั่นหน้าให้ 10 แต่ถ้าพูดกันตามจริงสายนกควรได้คะแนนรวมที่ 15 นะ อิอิ (ยังๆ ยังไม่หยุดนะนังนู๋นก)
>>พ่อมาริโอ้ : "วัุกร์หน้าว่างมั้ยจ๊ะ" พูดพร้อมกับส่งอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายๆกระดาษใบเล็กๆสองใบมาให้สายนก
...สายนกรับมาดูถึงได้รู้ เป็นตั๋วดินเนอร์บนเรือสำราญ คือมันเป็นอะไรที่สายนกอยากไปมากๆๆๆๆ อยากไปมานานแล้วแระไม่เคยได้ไปเลย พูดขนาดนี้น่าจะพอเดาคำตอบของสายนกกันออกเนอะว่าจะเซย์เยสรึเซย์โนว...
>>สายนก : เก๊าว่างงงงง ล้านเปอร์เซ็นเรยยยย (ต่อให้มีนัดอื่นสายนกก็จิเลื่อน อิอิ) แระจะให้ไปเจอที่ไหนคะ ท่าเรือเลยรึเปล่าจ๊ะ?
...แต่จะว่าไปสายนกก็แอบคิดนะว่า นางซื้อตั๋วมาพร้อมขนาดนี้ ตั้งใจมาชวนสายนกตั้งแต่แรกรึว่าผิดหวังจากสาวอื่นมาน๊าาา
>>พ่อมาริโอ้ : ไม่ๆ เดะเราไปรับเทอเอง แต่งตัวรอที่บ้านเลยจร้า เราไปรับสัก 18.00 น. นะคะ พูดเส็ดกะยิ้มหวานให้สายนกอีกรอบก่อนเราจะแยกย้ายกันกลับ
...และแล้ววันนัดของเราก็มาถึง Nissan Teana สีดำค่อยๆเคลื่อนเข้ามาจอด ณ รังของสายนก พ่อมาริโอ้ของสายนกมาในชุดเสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาวเข้ารูปเล็กน้อย สีดำสนิทดูมีความวาวเล็กน้อยตัดกับสีผิวนางสุดๆ ปลดกระดุมคอสองเม็ด ทำให้ลุคของนางในวันนี้ดูกึ่งๆเป็น playboy ซึ่งค่อนข้างแปลกตามากๆ เพราะปกติสายนกจะชินกับลุคคุณชายของนางมากกว่า
>>พ่อมาริโอ้ : "พ่อครับ แม่ครับ สวัสดีครับ นกบอกรึเปล่าครับว่าผมจะมารับไปทานข้าว" กล่าวสวัสดีทักทายพ่อนก แม่นก อย่างสุภาพเรียบร้อยเหมือนที่ผ่านมา
>>พ่อนก/แม่นก : บอกแล้วจร้า เดินทางกันดีๆนะลูกนะ แม่ฝากไอ้นกด้วยนะลูก
>>พ่อมาริโอ้ : ครับ รับรองผมมาส่งนกถึงบ้านแน่นอนครับ พ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วง
...และแล้วก็ถึงเวลาเปิดตัวสายนกกันบ้างนะคะท่านผุชม (ต้องรีบออก เดะผุชายแย่งซีนหมด)...
...สายนกลงมาในชุดเดรสเกาะอกหน้าสั้นหลังยาวสีขาว ผ้าชีฟองบางๆ ทำให้มองเห็นขาเรียวงาม (จิงหราาาาา โม้รึเปล่า?) เออน่ะ ขอฟีลนิยายมั่งไม่ได้ไง ขัดตลอด ><
...ถึงไหนแระ อ่าต่อๆ ช่วงบนประดับมุกและดอกไม้สีชมพู ดูหวานๆรับกับใบหน้าและทรงผมเปียเจ้าหญิงของเธอ...
...สายนกลงมาพร้อมส่งยิ้มหวานให้พ่อหนุ่ม playboy ที่ยืนมองอยู่ด้านล่าง...
>>สายนก : เป็นไงมั่ง วันนี้เราสวยมะ ^^ (ยิ้มหวานอีกรอบ) อ่อยเต็มที่เรยนะยะหล่อน!!!
>>พ่อมาริโอ้ : ตอบแบบนิ่งๆ "ก็เหมือนเดิม"
>>พ่อนก/แม่นก :
555555555 (หัวเราะอารมณ์แบบสะใจสุดๆ คือถ้าจะเย้ยขนาดนี้เอามีดมาแทงนกเลยดีฟ่า)
...สายนกที่ตอนนี้หน้าบูดหน้าคว่ำ เดินมาขึ้นรถแบบเซงๆ
...และดูเหมือนว่าตัวต้นเหตุจะรุตัว ว่าทำสายนกไม่สบอารมณ์ซะแระ
>>พ่อมาริโอ้ : เปนไรจ๊ะ โกดหรอ ^o^ น่าๆ ที่เราบอกว่าเหมือนเดิม เราหมายความว่า "น่ารักเหมือนเดิมนะคะ"
>>สายนก :
บร้าาาาาา (ยิ้มกว้างยุในใจ) หูยยย ตั้งแต่กลายเป็นขุ่นพ่อลูกหนึ่งเนี่ย ปากหวานขึ้นเป็นกองเรยน๊าาา ><
>>พ่อมาริโอ้ : ก็ไม่ใช่ว่าปากหวานนะ แต่เราว่าเรากล้าพูดความจริงมากกว่า (พูดเส็ดก็ส่งสายตาพิฆาตนารีมาให้สายนกหนึ่งกระบวนท่า)
...เฮ้ยๆ ท่าทางงานนี้จะไม่หวานหมูอย่างที่คิดซะแระม้างงงง สายนกแอบคิดในใจ เมื่อเริ่มเห็นท่าทางที่มั่นอกใจในคำพูดของพ่อหนุ่มที่ตลอดเวลาที่รุจักกันมาเค้ามักจะเขินๆอายๆเวลาพูดกับสาวๆ เลยรุตัวทันทีว่าต้องเตรียมพร้อมรับมือให้ดีๆ อิอิ...
...เราไปถึงท่าเรือประมาณ 19.20 น. สายนกยืนมองเรือสำราญสีขาว ตกแต่งอย่างสวยงาม แสงสีชมพูสาดส่องพาดยาวตลอดแนวลำเรือ ทำให้สายนกแอบคิดในใจว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงไปชั่วขณะ
...โต๊ะที่พ่อมาริโอ้จองไว้ จะอยู่โซนท้ายๆลำเรือ เพราะคนจะเลือกนั่งกันบริเวณหัวเรือกับชั้นสองเสียมากกว่า แต่ที่เลือกโต๊ะนั้นเพราะรู้สึกว่าค่อนข้างเป็นส่วนตัว และคนไม่พลุกพร่านสักเท่าไหร่ ก็เลยได้นั่งคุยกันสบายๆ
...เราคุยกันไป ทานอาหารไป คืนนั้นบรรยากาศค่อนข้างดีที่เดียว ฟ้าโปร่ง มีลมเย็นๆตลอดทั้งคืน ความอบอุ่นที่มีในตอนนี้มาจากแสงไฟในตะเกียงบนโต๊ะที่เรานั่งด้วยกันเท่านั้น สายนกเองก็ไม่เคยอยู่ในสถานที่ๆโรแมนติกขนาดนี้ และคงเป็นเพราะความฝังใจว่า เราอยากมาแบบนี้อ่ะ แต่ไม่เคยได้มาเลย สายนกเลยอดที่จะขอบคุณผู้ชายตรงหน้า ที่พานกมาที่นี่ด้วยไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่เค้าก็ทำให้นกได้ในสิ่งที่คิดว่าชาตินี้ทั้งชาติคงไม่มีผู้ชายคนไหนทำให้สายนกแบบนี้อีกแล้ว...
>>สายนก : ขอบคุณนะคะ ที่วันนี้ตัวพาเรามาด้วย แระก็ขอโทษที่งี่เง่านิดหน่อย อิอิ (ที่งี้ล่ะสำนึกเชียว)
>>พ่อมาริโอ้ : 555 ไม่งี่เง่าหรอก เธอก็เป็นของเธอแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แล้วอีกอย่างเราก็จำได้นะ ว่าตอนเราอยู่ปี 1 เธอเคยบอกว่าอยากมาใช่ป่ะ ^^ ขอโทษที่ตอนนั้นพาเธอมาไม่ได้นะ พูดไปพลางยิ้มให้นกไปพลาง แต่สายตาที่มองมา มันชัดเจนว่าความทรงจำในวันนั้นยังอยู่กับเค้าตราบจนวันนี้
>>สายนก : อึ้งไปชั่วขณะ ไม่เคยคิดเลยว่าเค้าจะจำได้ มันก็แค่คำพูดของเด็กๆ ที่แม้แต่ตัวนกเองที่เป็นคนพูดยังรู้สึกว่าเพ้อเจ้อ แต่ผู้ชายคนนี้จิงจังกับมันมากขนาดนี้เชียวหรือ (ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกว่าอยากกระโดดกอดจิงๆ น่ารักมากกกกกกกกก ผู้ชายไรเนี้ยยยย)
>>สายนก : "โห...ทำไมตัว ต้องใส่ใจเค้าขนาดนี้ด้วยอ่า ทำแบบเนี้ย เดะเค้าก็ไม่ให้กลับบ้านไปหาลูกเมียพอดี 555" (เฮ้ยๆ หล่อนอย่าผิดกฏของตัวเอง ห้ามคิดเกินเลยกับลูกค้าเฟ้ยยย)
>>พ่อมาริโอ้ : 555 ไม่มีทางหรอก เรารู้เธอไม่ใช่คนแบบนั้น แล้วอีกอย่างเรื่องเซอร์ไพรส์มันยังไม่หมดแค่นี้นะคะ ที่รัก ^^ (อร๊ายยยยยย ที่ร้ากกกกเรยหรอ บร้าาาาา พูดงี้แระมันจั๊กจี้นะตัว อิอิ)
>>พ่อมาริโอ้ : อะไรพูดแค่นี้ หน้าแดงแล้วหรอ? นี่แค่เริ่มต้นนะคะ ชายหนุ่มเอื้อมมือมาจับแก้มสายนกที่ตอนนี้ก้มหน้างุดๆ อย่างแผ่วเบา แล้วค่อยๆเชยคางขึ้นมาเราสบตากันอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า "เราเองก็ต้องขอบคุณนะ ที่วันนี้เธอทำให้เรามีความสุขแล้วก็ยิ้มได้อีกครั้ง ไม่เคยรู้สึกอุ่นใจแบบนี้มานานมากแล้ว ขอบคุณนะคะ"
...ไม่พูดเปล่าชายหนุ่มค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ๆสายนก (เฮ้ย...อย่าบอกนะว่าจะจูบช้านนนน อย่าเชียวนะ ><)
...ปลายจมูกและหน้าผากของเราแตะกัน ชายหนุ่มยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆหลับตาลงช้าๆ สัมผัสที่อ่อนโยนทำให้สายนกรู้สึกราวกับว่าตัวเองช่างน่าทะนุทะนอมซะเหลือเกินสำหรับเค้า สายนกเองก็อยากจะเก็บความรู้สึกแบบนี้ไว้เช่นกัน จึงค่อยๆหลับตาลงรับรู้ความรู้สึกดีๆจากชายหนุ่มที่แลดูจะมองเห็นคุณค่าที่มีในตัวเธอ มากกว่าที่ใครๆจะมองเห็น...
...จากนั้นไม่นานสายนกก็ได้เสียงไวโอลินที่ค่อยๆดังใกล้เข้ามาทุกที เพลงที่เล่นคือเพลง "ทำไมต้องเธอ" ของป๋าเบิร์ดนั่นเองสายนกถึงได้หันไปมอง นักดนตรีก็มาหยุดเล่นเพลงที่โต๊ะของเราทำให้สายนกเหว่อไปชั่วขณะ แต่อีกไม่กี่วินาทีถัดมาก็ **39**หายงง เมื่อบริกรชายหนุ่มบนเรือเดินเข้ามาหาสายนกพร้อมกับช่อดอกลิลลี่สีขาว ที่เป็นสีโปรดของสายนก และพูดว่า
>>บริกร : ดอกไม้สำหรับคุณผู้หญิงครับ คุณผู้ชายสั่งดอกไม้กับนักดนตรีมาเป็นพิเศษ เพื่อคุณผู้หญิงเลยครับ ^o^
...สายนกรับดอกไม้จากบริกร และฟังเพลงต่อ ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากเราทั้งคู่ ชายหนุ่มเอื้อมมือมากุมมือสายนกเอาไว้ เราสบตากันและส่งผ่านความรู้สึกที่มีผ่านแววตาของทั้งคู่ ช่างน่าแปลกที่แม้จะไม่มีคำพูดใดๆเลย แต่นกรู้ว่าเราเข้าใจความรู้สึกของกันและกันดีแค่ไหน...
...และเวลาก็ล่วงเลยไป จวบจนเรือใกล้จะเทียบท่าเป็นสัญญานเตือนให้รู้ว่า ช่วงเวลาดุจความฝันของเรากำลังจะหมดไป...
...นาทีนั้น เราทั้งคู่เดินไปชมความงดงามของสายน้ำและท้องฟ้า เพื่อเก็บช่วงเวลาสุดท้ายไว้เป็นความทรงจำในค่ำคืนที่แสนพิเศษของเรา ก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดขึ้นว่า
>>พ่อมาริโอ้ : "จะเป็นอะไรมั้ย ถ้าเราจะขอกอดเธอสักครั้งนึง จะได้รึเปล่า"
...สายนกไม่มีคำตอบให้ เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยเชิงอนุญาต ให้อีกฝ่ายรับรู้ (แต่วินาทีนั้นนกฮาม่ายออกจีๆ ต้องขอโทษด้วยถ้าทำให้คุณผู้อ่านผิดหวัง)
...ชายหนุ่มใช้แขนขวาคล้องเอวสายนกเข้าไปกอด มือซ้ายค่อยลูบผมนกอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล และพูดว่า
>>พ่อมาริโอ้ : "ตัวหอมจังค่ะ"
>>สายนก : ^^
...สายนกซบหน้าลงที่ไหล่ด้านซ้าย สองมือกอดตอบรับสัมผัสที่แสนนุ่มนวลนั้นกลับไปเบาๆ สายนกเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คืองานเที่ยวงานแรก ที่นกส่งแระรับความรู้สึกแบบที่เรียกว่าฟีลแฟนจิงๆ ทุกๆความรู้สึกมันดีต่อใจจริงๆค่ะ
...เรือใกล้จะเทียบท่า แต่ทว่าชายหนุ่มไม่มีท่าทีจะปล่อยสายนกให้เป็นอิสระ และกระซิบที่ข้างหูของสายนกว่า
>>พ่อมาริโอ้ : "เราชอบนกนะ ชอบมาตลอด นกรู้ใช่มั้ย"
(โฮะๆๆๆ มาตกเปนทาสของสายนกซะดีๆ)
>>สายนก : "เราจะรู้รึเปล่ามันไม่สำคัญ สำคัญคือ เราต้องไม่ทำให้ความรู้สึกที่เรามี ทำให้เราทำผิดกับใครอีกคน เธอเข้าใจความหมายของเราใช่มั้ย" (แลดูฟีลนางเอกเบาๆ จิงๆก็ไม่หรอก สร้างภาพๆ)
>>พ่อมาริโอ้ : นั่นสินะ เราไม่น่าพูดแบบนั้นเลย ขอโทษนะคะ ถ้ามันทำให้เธอรู้สึกไม่ดี
>>สายนก : ไม่มีอะไรต้องขอโทษ เราเองก็รู้สึกดีและขอบคุณมากๆกับความรู้สึกดีๆ ที่เธอมอบให้เรา แต่เราอยากให้ความรู้สึกที่เรามีมันเป็นสิ่งที่สวยงามและคงอยู่ในหัวใจของเราตลอดไป ดังนั้นเราก็ต้องไม่ทำให้มันกลายเป็นเรื่องผิด
..."เก็บความทรงจำดีๆในวันนี้ เป็นความทรงจำสีขาวของเราตลอดไปนะ"...
...หลังจากเรือเทียบท่าเราก็ยังอยู่คุยกันต่อเรื่อยๆ เรื่องในอดีตบ้าง เรื่องปัจจุบันบ้าง แลกเปลี่ยนทัศนคติและให้กำลังใจกันและกัน ก่อนที่พ่อมาริโอ้จะขับรถมาส่งสายนกที่รังของสายนก อิอิ ตอนนั้นเวลาก็ประมาณเที่ยงคืนแล้ว (เกินเวลาตลอด คนไหนฟินนี่แถมตลอดนะนังนู๋นก)
>>พ่อมาริโอ้ : "ซินเดอเรลล่าต้องกลับบ้านตอนเที่ยงคืนสินะคะ" พูดเส็ดก็ส่งสายตาอาลัยอาวรณ์ให้สายนกอีกหนึ่งกระบวนท่า (แหม...รุว่าสายนกใจอ่อนล่ะ เอาใหญ่เชียวนะ เดะแม่คิดตังเพิ่มเรยหนิ 555)
>>สายนก : "เพคะ หม่อมชั้น น้อมส่งเสด็จเจ้าชายเท่านี้นะเพคะ" ถอนสายบัว ล้อเลียนนางไปหนึ่งกระบวนท่า (ทำเอาพ่อมาริโอ้หลุดขำออกมาอีกจนได้ ^o^)
...เรากอดกันเบาๆเป็นการรำ่ลา และเป็นกำลังใจให้กันและกัน สายนกยืนส่งรถของพ่อมาริโอ้จนลับหายไปจากสายตาถึงได้กลับขึ้นห้องเก็บช่อดอกลิลลี่แสนสวยไว้ในแจกัน
...ทบทวนความทรงจำในวันนี้ เก็บไว้ในใจตลอดไป ว่าอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต ก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่เห็นว่านกนั้นมีค่ากลับความรู้สึกของเค้ามากแค่ไหน ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ขอบคุณที่อยู่ข้างๆกันตลอดมานะคะ...
...The End... : แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้านะคะ
Spacial : ไลนนนนนนน์!!!! เสียงไลน์ของพ่อมาริโอ้ ที่พึ่งจะขับรถออกไปไม่นาน บอกว่า "มีเพลงๆนึงเราอยากให้เธอฟังนะ" (เพลง เผลอไปของ tattoo color) ส่งลิ้งค์มาให้เสร็จศัพท์
กับประโยคทิ้งท้ายว่า "ตัว ...(ชื่อย่อสายนก)... ต้องไม่ลืมคิดถึง ตัว...(ชื่อย่อของตัวนางเอง)... นะครับ
ไอย๊ะ...ป๊อจายอะไรชอบอ่อย อิอิ เกือบจะ "เผลอไป" แล้วมั้ยล่ะ อิอิ
VV ลิ้งค์เพลงสำหรับใครที่อยากฟังนะคะ VV
https://youtu.be/piWSFKOKLc0