แยกเป็นสองปัญหานะครับ
1 ปัญหาพี่ชาย
ข้อเท็จจริงคือ พี่มีปัญหา และ ครอบครัวน้องไม่มีความรู้ชัดเจนจนมั่นใจได้ว่าจะต้องทำอย่างไร
ที่ควรทำคือน้องและพ่อแม่ควรไปหาผู้รู้จริงปรึกษา ลองไปติดต่อโรงพยาบาลที่มีแผนกจิตเวช
แล้วขอคำแนะนำอย่างเป็นทางการถ้าต้องจ่ายค่าที่ปรึกษาก็ต้องทำ
ใช้"ความรู้ของคนที่รู้จริง"ไม่ใช่"ความเห็นของคนทั่วๆไป"
เปรียบเหมือนเวลาโดนเขาฟ้องศาลจะเอาผิดเรา เราต้องใช้ทนายนักกฎหมายไม่ใช่ถามความเห็นทั่วๆไป
2 ปัญหาของน้อง เวลาที่เราจดจ่ออยากได้อะไรจากผู้อื่น แล้วต้องรอไม่รู้กำหนดมันทุกข์ครับ
และที่สำคัญกว่าคือมันปิดกั้นตัวเราจากความคิดที่จะขวนขวายพึ่งตนเองในด้านอื่นๆ
โดยไม่รู้ตัวชีวิตก็จะหยุดนิ่งไม่พัฒนาไปไหนไปหลายๆปี น่าเสียดายเวลาครับ
1. ปัญหาของพี่ ตอนนี้ไปรับยาที่รพ.สราญรมย์ ประมาณ 4 ปี แล้ว พ่อไปรับให้ แต่พ่อไม่ได้บอกพ่อว่ามีอากายจะทำร้ายคนในบ้านและ ใช้ปืน ข่มขู่.. พี่ไปปีละหน หลังจากนั้นก็ไม่ยอมไปเอง และตอนไปไม่ได้แสดงอาการ หลังจากถามที่นี่ ก็ได้ถามนักสุขภาพจิตไปพร้อมๆกัน
2. งาน คือตอนนี้เปิดร้านๆนึงที่บ้าน แต่ไม่สามารถดูได้เพราะอาการของพี่ มีคนทำงานให้ มีรายได้เข้ามาพออยู่ได้ อีกงานเพิ่งเปิดขายเสื้อผ้าออนไลน์ และประมาณปีหน้าที่พ่อบอกว่าจะทำรีสอร์ท แต่ถ้าไม่ได้ทำ ก็คงเอาเงินที่ได้มาลงทุนอย่างอื่น
3. จากที่คุยกับจิตแพทย์ ปัญหาก็จะคล้ายๆกับที่พี่ตะวันบอก คือ ปัญหาอยู่ที่พ่อไม่ยอมรับว่าอาการของพี่เป็นเยอะ และไม่ได้บอกหมอทั้งหมด
ช่วงที่ร้านมีรายได้เยอะหน่อยก็จะไม่ค่อยทุกข์ แต่การที่อยากอยู่กับครอบครัว กลับบ้านแล้วโดนไล่กลับมาอยู่ที่อื่น มันก็ทุกข์ค่ะ