ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.02  (อ่าน 994 ครั้ง)

mzazaza2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 278
  • People Like This 103
 **36** วันนี้ตื่นเช้ามาว่างจัดนั่งอ่านของคนโน้นคนนี้ พลันมามองดูตัวเอง เอเราก้อลงแต่การบ้านงานนัว งานถ่ายภาพ แลี มีน้องน่ารักสนใจ ผ่านงานมาเยอะ แต่จริงๆก้อมีโมเม้นนี้เหมือนกัน โมเม้นที่ความรู้สึกมันลงลึกและก้าวนำความเข้าใจ ซึ่งเป็นโมเม้นที่มากกว่าการจ้างงาน ก้อเอามาแชร์กัน ที่สำคัญมีหลายคนและเขียนคนแรกไปแล้วใน EP.01 วันนี้จึงเป็นของคนที่ 2 ใน EP.02 

           โดยปกติผมจะเป็นคนที่ตีกรอบความเข้าใจของการรับงานไว้ในรูปแบบฟีลแฟน แต่ไม่เลี้ยงดู ถูกใจเจอกันไปได้เรื่อยๆ น้องก้อมีชีวิตส่วนตัวของน้อง แต่เมื่อเจอกันก้อขอมีความทรงจำร่วมกันที่ดีๆภายใต้เวลาที่ตกลง ที่สำคัญที่สุดคือไม่ว่างานจะไหลไปไกลขนาดไหนจะไม่มีฟีลบังคับกัน จึงเป็นที่มาของงานฟีลแฟน

           แหมฟังดูกรอบความเข้าใจของผม อืมมันดีเลยทีเดียวแหละ แต่นั่นแหละเมื่อเราไม่ได้ต้องการฟีลแฟนเพียงฝ่ายเดียว ประกอบกับความน่ารักและเคมีที่เข้ากัน หลายครั้งมันก้อนำพาไปสู่การลาจากแต่สิ่งที่เหลือไว้จางๆคือความทรงจำที่ดีที่ไม่จางหาย

           EP.02 : เมื่อน้องบอกว่า "หนูแค่อยากได้เพื่อนคุยในไลน์แค่นั้นเอง" โดยปกติคือผมจะไม่ทักน้องที่โพสงานในเว็บเลย น้องที่เจอกันจะมาจากน้องทักมาจากโพสงานที่ผมลง และเวลาที่ผมโพสรับงานลงไปก็จะมีน้องทักมาบ้าง น้องคนนี้ก็มาประมาณแนวนั้นเลย ทักมาสั้นๆ ห้วนๆ ผมก็ตอบทุกคนไปแบบปกติ เธอตอบกลับมา ผมตอบกลับไป ทำกันอยู่แบบนั้นซักพักนึง คือผมเป็นคนที่ตอบน้องทุกคนแต่ช้าหรือเร็ว เพราะบางทีก้อติดงาน น้องคนนี้ดูไม่กระตือรือล้นในการนัด ออกแนวเหมือนคุยเล่นๆ จนวันนึงมีน้องทักมา 3-4 คน และน้องคนนี้ก้อทักมาในไลน์ น้องที่ทักมาใหม่ทุกคนคุยดี และหน้าตาน่ารัก แต่เวลาจำกัด ผมสามารถเลือกเจอได้เพียงคนเดียว ในขณะที่กำลังตัดสินใจ มันเหมือนมีอะไรมาดลใจ ทำให้ผมกลับไปไล่อ่านไลน์ที่คุยกันกับน้องคนนี้ อ่านไปอ่านมา อืมทำไมมันรู้สึกแปลกๆ จึงตัดสินใจเลือกน้องคนเดิมที่เคยคุยกันมา หลังจากพิมพ์ลงไปผมก้อมานั่งคิด "เลือกน้องคนนี้ทำไม รูปก้อไม่เห็น รับงานก้อไม่รับ" ตอนนั้นไม่รู้คิดอะไรจริงๆ รู้แต่ว่านี่แรกที่ไปเจอน้องที่ไม่ให้แม้แต่รูป และไม่แม้แต่จะรับงาน

           ถึงวันนัด ผมงานยุ่งมาก ขับรถตลอด จนพอใกล้เวลานัดผมจึงได้เปิดอ่านไลน์ "หนูถึงแล้วนะคะ" เอ้ยนี่มันก่อนเวลานัดตั้งเป็นชั่วโมง ผมตกใจเลยรีบขับรถออกไป ผมอ่ะไปทันตามเวลานัด แต่น้องสิมานั่งรอตั้งเกือบสองชั่วโมง ระหว่างเดินไปหาน้องนี่ผมตื่นเต้นมาก ทั้งเกรงใจ ทั้งตื่นเต้น ปนๆกันไปหมด ร้านที่นัดเจอมีคนนั่งอยู่เต็มร้าน ผมกวาดตาไปมองจึงเห็นผู้หญิงคนนึงในชุด........ นั่งเขียนอะไรซักอย่างอยู่ ผมมั่นใจว่าต้องใช่เธอ แต่ตอนนี้ความตื่นเต้นของผมมากกว่าเดิม เพราะมันไม่ใช่ความตื่นเต้นเรื่องหน้าตาที่ผมไม่เคยเห็นของน้องแต่มันถูกแทนที่ด้วยความตื่นเต้นที่กำลังจะได้พูดคุยกับคนที่หน้าตาน่ารักมาก หากใครเห็นผมตอนนั้นคงแอบขำ คนบ้าอะไรยืนนิ่งอยู่หน้าร้านและยิ้มคนเดียว ว่าแล้วผมก้อเดินเข้าไปทักน้อง น้องเงยหน้าขึ้นมามองผมและยิ้มบางๆ ใช่แล้วครับยิ้มของเธอมันบางๆปนอาการไม่พอใจนิดๆและท่าทางหยิ่งๆ ออกแนวคุณหนูมากมาย จนผมเผลอขออณุญาตินั่งกันเลยทีเดียว

           ผมนั่งลงไป เธอยังก้มหน้าเขียนอะไรของเธอต่อไป ผมไม่ได้เร่งเร้าอะไรในการเปิดฉากสนทนา ในเวลานั้นผมกำลังล่องลองไปกับการได้ดู เด็กผู้หญิงคนนึงที่มีผมยาวสวย กำลังตั้งใจเขียนอะไรบางอย่าง มองลงไปในสิ่งที่เธอเขียน ตัวหนังสือที่เขียนออกมาน่ารักสไตล์เด็กวัยรุ่น แต่เป็นระเบียบ และเรียงตัวกันอย่างมากมายราวกับเขียนมันมาได้ซักพักนึงแล้ว ที่สำคัญในหน้าเดียวกลับมีตัวอักษรหลากสีสัน ผมละสายตาไปมองในอุปกรณ์การเขียนของเธอ ...........นี่มันร้านเครื่องเขียนเล็กๆชัดๆ "พี่คะ........" คำพูดเปิดประโยคของเธอพร้อมท่าทางการปิดสมุดและเก็บอุปกรณ์การเขียนของเธอ ทำผมหลุดจากภวังค์ เมื่อได้สติผมจึงพบว่า สาวน้อยคนนี้สวยจริงสวยจังแบบใสๆไม่แต่งอะไรที่สำคัญบุคลิกของเธอ ขอเน้นย้ำว่าบุคลิกนะครับ คุณหนูมาก และเป็นระเบียบมาก ไล่ตั้งแต่การแต่งตัวจนท่าทาง ผมได้แค่คิดในใจว่า "นี่งัย การตัดสินใจวันนี้ที่แหกข้อจำกัดของตัวเอง มันคุ้มจริงๆ" บอกตรงๆตอนนั้นผมไม่ได้คิดถึงเรื่องงานอะไรเลย เพราะแค่ได้นั่งคุยกับเธอก้อเป็นการปล่อยเวลาไปกับอารมณ์ที่ดีที่สุดในตอนนั้นจริงๆ

          "ครับ รอนานมั้ยครับ" เธอก้มดูนาฬิกาแล้วพูดด้วยท่าทางเรียบเฉย "ก็เกือบสองชั่วโมงค่ะ" โอยคำพูดมันเรียบ สั้น แต่ทิ้มแทงความรู้สึกชนิด ปั้นหน้ารับแทบไม่ถูก พลันดึงสติกลับมา "เอ้ย เราไม่ผิดนะ เรามาตามเวลานัดเป้ะ ทำไมเราต้องรู้สึกผิดด้วย" ไม่ทันซะแล้ว "ขอโทษครับ" คำพูดนี้ออกจากปากผมไปแบบไม่ลังเล เธอได้ฟังก้อเฉยๆ กลับทำท่าทางยิ้มมุมปาก "ไม่เป็นไรค่ะ พี่ก้อมาตามเวลานัด" ทำอะไรไม่ถูกได้แต่คว้าแก้วน้ำมาดังเฮือกใหญ๋ๆ หลังจากนั้นผมก้อเริ่มชวนเธอคุย เป็นงัยทำอะไรมาก่อนหน้านี้ เธอก้อเล่าให้ฟังว่าเธอเพิ่งเรียนเสร็จ เมื่อกี้ก้อนั่งสรุปที่เรียนมา บทสนทนาเราเริ่มต่อกันไปได้ แต่มันออกแนวเหมือน บ่าวผู้รับใช้กำลังคุยกับคุณหนูยังงัยยังงั้น "ไม่ได้การละ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป น่าจะเล่นบทนี้กันไปจนจบแน่ๆ" ความคิดในใจมันตะโกนเตือนตัวเอง จึงพยายามดึงบทสนทนาของน้องเข้าสู่โลกของการรับงาน เธอก็ตอบด้วยอาการเรียบเฉย "หนูไม่สนใจเรื่องเงินนะคะ หนูเหงา อยากได้คนคุยที่โอเค " เธอน่าจะตอบมาประมาณนี้ ทำเอาผมไปต่อไม่ถูกน้ำไปอีกเฮือกใหญ่ๆ จนแล้งจนรอดก้อไม่ได้คุยเรื่องงาน รู้แต่ว่าเราคุยกันสนุก เธอยิ้มให้เห็นบ่อยๆ แต่ท่าทางก้อยังเหมือนเดิมออกแนว คุณหนูมากมาย ผมสังเกตเห็นแววตาของหลายๆคนในร้านกำลังชำเลืองมองคู่สนทนาของผมอยู่บ่อยๆ ว่าแล้วเมื่ออยากจะเลื่อนบทจากบ่าวรับใช้มาเป็นองครักที่ภักดีจึงเอ่ยปากออกไปว่า "เราเปลี่ยนที่คุยกันมั้ยคะ......" เธอทำตาโต และทำสีหน้าเหมือนตกใจเล็กๆ แต่ยังคุมอาการอยู่ ก่อนที่เธอจะตอบปฏิเสธ ผมรีบตัดบทออกไปว่า "ไปนั่งคุยในรถเฉยๆครับ พี่จอไว้ใกล้ๆนี้เอง" หน้าตาจากที่เธอกำลังจะตอบปฏิเสธ ตอนนี้สีหน้าเริ่มลังเล จนในที่สุดเธอก้อพยักหน้า ว่าแล้วผมก้อดึงคุณหนูคนนั้นออกจากร้าน ท่ามกลางสายตาของตัวประกอบฉากหลายคู่ที่ผมรู้เลยว่ากำลังเสียดาย อิอิ แบบตอนนั้นโอบโชว์ได้นี่ผมทำไปแล้ว อิอิอิ

           ตัดมาที่รถ "หนูก้อจอดรถไว้ชั้นถัดจากพี่เลย" เอ เธอ มีรถด้วยเหรอ เด็กสมัยนี้ขับรถไปเรียนด้วยเหรอ สมัยผมยังนั่งรถเมล์อยู่เลย หรือจะเป็นเด็กเสี่ยเนี่ย ความคิดวนไปวนมา แต่พอเริ่มคุยกับเธอต่อในรถ ความคิดพวกนี้ก้อหายไป เวลาผ่านไปซักพัก ผมเริ่มดึงเสียงหัวเราะของเธออกมาได้ แต่ก้อยังดูออกแนวหยิ่งๆ ชอบกล หากนึกภาพไม่ออกลองนึกถึงผู้หญิงที่เวลาจะหัวเราะแล้วมักจะเอามือมาปิดปากแบบเป็นธรรมชาติ ภายในบทสนทนาผมพบว่าเธอทำงานมาหลายแบบส่งนใหญ่อยู่ในวงการบันเทิง แต่เอาจริงๆผมไม่ค่อยเชื่ออะไรนะ แบบประมาณคนทำงานแบบนั้นจะมานัดกับผมในเว็บนี้ทำไม แต่ก้อเออๆออๆตามเธอไป เมื่อได้เวลาที่ผมเห็นว่าปล่อยไปนานกว่านี้บทองครักษ์ของผมได้เปลี่ยนเป็นบทเพื่อนสนิทแน่ๆ เลยรีบชวนเธอไปต่อ คราวนี้ไม่มีแม้แต่สีหน้าให้ผมสังเกต เธอตอบสวนแบบเรียบง่าย "ไม่ไปนะคะ" พร้อมรอยยิ้มกระชากใจเหมือนผู้ชนะ พร้อมกับการน้ำในมือแบบไม่สนใจคู่สนทนา อึ้งๆครับ ผมยังไม่เคยโดนน้องปฏิเสธเลยอึ้งไปเลย ไปต่อไม่ถูก แต่ปัจจุบันผมไปต่อถูกนะครับ เริ่มเจอเคสปฏิเสธงานมาบ้าง หากผมเจอแบบนี้ตอนนี้ผมยิ้มได้ครับคุยต่อได้ แต่บอกตรงๆตอนนั้นแรกมันออกแนวหน้าชาๆ คำถามมากมายหลุดจากปากผมซึ่งวนๆเวียนๆอยู่กับคำว่าทำไม ................

*************เดี๋ยวค่อยมาต่อนะครับ ขอเวลาไประลึกความทรงจำหน่อยครับ เพราะบทสนทนาทุกอย่างในไลน์ผมลบไปหมดแล้วที่พิมออกมาจุงเป็นความรู้สึกและความทรงจำล้วนๆ อาจมีเพี้ยนไปบ้างแต่รับรองว่าไม่หนีจากความจริงครับ********************

^0^คุณหนูสายนก

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 127
  • People Like This 65
  • "เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว แม้ว่าเธอไม่เคยเป็นอะไรกับฉันเลย ^^"
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.02
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 09, 2017, 07:45:16 AM »
มาต่อเร็วๆค่ะ มันไม่ได้จบแต่นี้ใช่มะ  **25**
...ความสวยที่หนูมีน่ะพอไปวัดไปวา แต่ความฮาที่มีอ่ะ อันลิมิต...

"รับงานเที่ยว ทุกเพศนะคะ ชาย หญิง ทอม ดี้ เลส ได้หมดถ้าสดชื่น กั๊กๆ"
#บริการสไตล์สายฮา ทุกรีราาาเน้นความบันเทิง อรรถรสค่ะ!!!
#พี่อาจจะมาด้วยใบหน้าพาจิตดับ แต่หนูจะส่งพี่กลับพร้อมรอยยิ้ม ^^

ปล.สำหรับพี่ๆที่หางานแรงสายนกขออนุญาตผ่านนะคะ ^^

^0^คุณหนูสายนก

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 127
  • People Like This 65
  • "เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว แม้ว่าเธอไม่เคยเป็นอะไรกับฉันเลย ^^"
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.02
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 09, 2017, 07:54:31 AM »
ชอบงานฟีลประมาณนี้นะคะ ไม่ต้องอะไรเยอะ แต่คุณก็ลืมเราไม่ได้ อิอิ อ่านแล้วรุสึกสำคัญดีค่ะ ชอบๆ
อารมประมาณผู้หญิงดูเป็นผู้ชนะดีค่ะ  **34**
...ความสวยที่หนูมีน่ะพอไปวัดไปวา แต่ความฮาที่มีอ่ะ อันลิมิต...

"รับงานเที่ยว ทุกเพศนะคะ ชาย หญิง ทอม ดี้ เลส ได้หมดถ้าสดชื่น กั๊กๆ"
#บริการสไตล์สายฮา ทุกรีราาาเน้นความบันเทิง อรรถรสค่ะ!!!
#พี่อาจจะมาด้วยใบหน้าพาจิตดับ แต่หนูจะส่งพี่กลับพร้อมรอยยิ้ม ^^

ปล.สำหรับพี่ๆที่หางานแรงสายนกขออนุญาตผ่านนะคะ ^^

mzazaza2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 278
  • People Like This 103
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.02
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 09, 2017, 02:40:53 PM »
 **36** มาต่อนะครับ.............คำถามผมได้รับคำตอบง่ายๆครับ "หนูแค่อยากคุยกับพี่" เอ่อ เจอแบบนี้ไปต่อยังงัยครับ แล้วน้องก้อถามมาว่า "จะไปต่อเพื่ออะไรคะ จะทำอะไร" ผมก้อเป็นคนตรงๆ ผมเลยบอกพี่อยากกอดหนูนะแต่ทำแบบนี้ในรถคงไม่ดีหรอก หรือหนูให้พี่กอดได้คะในรถแบบนี้ ........."ได้ค่ะกอดได้" หาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เธอตอบออกมาแต่หน้าตาก้อเรียบเฉยเหมือนเดิม ผมจึงเอื้มมือไปสองข้างไปหาเธอ เธอขยับตัวมาหาผม แต่มันไม่ถนัดนักหรอกครับ ผมกอดเธอแบบเก้ๆกัง ส่วนเธอก้อเกร็งตัวไว้พอสมควร แล้วเธอก้อผละตัวออกไป "โอเคแล้วใช่มั้ยคะ" ผมยิ้มแบบเสียดายเล็กๆ แต่คุยกันไม่นานเราก้อกอดกันอีก ทำอยู่แบบนี้หลายครั้ง บ่อยเข้าผมก้อเริ่มหอมเธอ เสียงเธอเริ่มอ่อนๆลง แต่หน้าตายังหยิ่งๆเหมือนเดิม เอ้อ บทเจ้าหญิงนี่ถอดยากจริง สุดท้ายผมก้อชวนเธอไปต่อจนได้......................................

                ไปถึงห้องเธอ นั่งลง แบบเป็นธรรมชาติไม่ดูออกอาการเกร็งแต่อย่างไร ผมขยับเข้าไปนั่งข้างๆเธอ แต่ให้ตายเหอะ ผมทำตัวไม่ถูกเลย ตัวแข็งๆ มือแข็ง ไม่รู้จะเอามือไปไว้ตรงไหน ผมเริ่มขยับเข้าไปหาเธ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจอะไร แต่ตาเธอที่มองผมมันสะกดอาการหลายๆอย่างของผมได้ เอ้อ จนสุดท้ายเมื่อเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดผมอีกครั้งคราวนี้ ผมลูบแผ่นหลังเธอเบาๆในขณะกอด อาการเกร็งของเธอค่อยๆผ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ผมค่อยจูบเธอ แต่เธอกัดปากแน่น และมีเสียงแข็งๆออกมา "หนูไม่ทำแบบนี้นะ" ผมจึงได้แค่กอดเธอ สุดท้ายเธอก้อล้มตัวลงไปนอน เวลาผ่านไปเนิ่นนาน สิ่งที่ผมอยากได้ซักครั้งคือการได้จูบปากเธอแบบเต็มใจ ในที่สุดผมก้อทำมันได้ ไม่นานเสียงโทรศัพท์เธอดังขึ้น คนที่บ้านเธอโทรตาม ผมจึงบอกเธอว่าไม่เป็นไรกลับเถอะ แล้วเราก้อจูบกันอีกครั้ง รสริมฝีปากของเธอ ไม่เข้มแต่เป็นแบบจางๆเหมือนรอยยิ้มของเธอ ผมส่งเธอกลับ ก่อนกลับผมยื่นเงินให้เธอจำนวนนึง เสียงแข็งๆเย็นๆ "พี่ให้หนูทำไม" ทำเอาผมรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจ จนผมต้องออกอาการขอโทษขอโพยเธอไป เธอบอกว่าหนูไม่สนใจเรื่องเงินนะ หนูแค่รู้สึกเหงาและอยากหาคนคุยด้วย ผมก้อไม่ได้พูดอะไร ผมก้อขับรถไปส่งเธอ เธอก้อบอกทางไปตรงที่ๆเธอจอดรถไว้ พอเป็นรถเธอผมจึงเข้าใจว่า เธอน่าจะไม่สนใจเรื่องเงินจริงๆ ผมคิดแล้วรู้ได้เลยว่าผมน่าจะไม่ได้เจอเธอคนนี้อีกแน่ๆ ผมจึงขอกอดเธออีกซักครั้ง ไม่รู้อะไรทำให้เธอเอ่ยออกมาว่า "ทำไมกอด เหมือนจะไม่ได้เจอหนูอีก" ผมอึ้งไป เธอรู้ความคิดผมได้ยังงัย ทำไมวันนี้ผมดูไม่เป็นตัวของตัวเอง

            แยกจากเธอมาได้ซักพักแล้ว แต่หัวใจผมยังเต้นแปลกๆ เอหรือจะเป็นเพราะแค่น้องเค้าเป็นแนวแปลกๆ ว่าแล้วผมก้อกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่เรื่องหลังจากนี้มันทำให้ผมเข้าใจตัวเธอมากขึ้น เธอทักมาคุยกับผมอีก คราวนี้ดูเป็นธรรมขาติมากขึ้น ผมส่งการบ้านให้เธออ่าน เธอมักจะตอบมาว่า "พี่ผู้หญิงเยอะ ที่พี่พูดกับหนู ก็คงพูดกับคนอื่นเหมือนๆกัน" เธอมักจะพูดแบบนี้กับผมอีกหลายครั้ง เวลาเธอโทรคุยกับผม มันเหมือนผมคุยกับหลายๆคนในบ้านเธอ เธอไม่ปิดบัง แม่ น้อง และคนอื่นๆว่ากำลังคุยกับผม มันเหมือนผมกำลังนั่งอยู่ในบ้านเธอด้วยยังงัยยังงั้น มีครั้งนึงเธอพาผมไปเที่ยวตลาดผ่านทางโทรศัพท์ คือแบบเธอรู้จักคนเยอะมาก เธอทักทายทุกคนพร้อมสวัสดี ด้วยคำพูดที่เพราะมาก ทุกคนๆที่พูดตอบกลับมาก้อแสดงท่าทางเอ็นดูเธอ ผมพูดคุยกับเธอและมีหลายครั้งที่ผมประทับใจเธอ

          จนมีครั้งนึงผมต้องไปต่างประเทศ ผมบอกเธอว่าอยากเจอเธออีกซักครั้ง เธอตอบกลับมาว่า "หนูอยู่ที่....มาอ่านหนังสือกับเพื่อน" ผมก้อตามเธอไป และพาเธอมานั่งคุยในรถ เธอแสดงออกทางสายตาที่อ่อนโยนขึ้นกว่าครั้งก่อนๆ ดูเธอเป็นธรรมชาติมากขึ้น ผมนึกในใจว่า เธอน่าจะชอบพอผมบ้างไม่มากก้อน้อย เราคุยกันอีกหลายครั้ง แต่ไม่ได้เจอกันด้วยเหตุผลที่ว่า "หนูกลัว หนูไม่กล้าเจอพี่แล้ว"

         มีบางครั้งเธอไปทำงานเธอก้อจะถ่ายรูปมาให้ดู ไป่านหนังสือ ไปสอบ เธอก้อจะถ่ายรูปมาให้ดู เราคุยกันเหมือนเขียนไดอารี่ แต่ผมอึดอัดที่เราไม่ได้เจอกัน มีครั้งนึงผมพิมพ์ไปว่า "พี่ดีใจนะที่ได้รู้จักกับหนู ลาก่อนนะ" เธอรีบพิมตอบกลับมาแบบทันทีว่า "พี่ไปไหน พี่จะไปไหน".....................

mzazaza2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 278
  • People Like This 103
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.02
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2017, 02:15:56 PM »
 **36** มาต่อให้จบนะครับ วันนี้วันหยุด ผมควรจะหยุดและนั่งลงเขียนเรื่องนี้ให้จบซักที...............................

           หลังจากที่เธอได้ทักตอบผมมาแบบนั้น ผมรีบตอบกลับเธอไปพร้อมรอยยิ้ม "ทำไม เป็นอะไร" .............เธอพิมตอบมาไม่นาน "พี่จะหายไปไหน" ผมจึงรีบตอบไปว่าพี่ไม่ได้จะไปไหน หลังจากนั้นก้อกลับเข้าสู่การคุยปกติ และเหมือนเราจะขยับก้าวเข้าไปใกล้กันมากขึ้น หลังจากนั้นเราก้อคุยกันอีกพักใหญ่ๆ ผมเริ่มรู้สึกว่าเธอไม่เคยขออะไรจากผมเลยทั้งที่เราก็พบกันแล้ว มันเหมือนผมเอาเปรียบเธอ ผมจึงไปเดินหาของบางอย่างให้เธอ ตอนเดินหานี่มันเหมือนผมกลับไปเป็นเด็กวัยรุ่นอีกครั้ง รู้สึกตื่นเต้น และสนุกกะการค้นหา และการคาดเดาหน้าคนรับ แล้วผมก็ไปสะดุดกับปากกาเล่มนึง ใช่แล้วผมจะซื้อปากกาให้เธอ แม้ปากกาเล่มนี้ในภายหลังจะไม่ถึงมือผู้รับ แต่หากย้อนเวลาได้ผมก็ซื้อมันอยู่ดี ผมพยายามยืนมองหน้าตู้ แต่คนขายแทบไม่สนใจผมเลย อาจเพราะมันคือสินค้าแบรนดังหรือยังงัยผมไม่รู้จริงๆ แต่ถ้าผมสนใจเพื่อจะซื้อไว้ใช้เอง ผมคงเดินจากไปแล้ว แต่ที่ผมหยุดและไม่ไปไหนเพราะผมกะลังคิดถึงหน้าน้องเค้าที่จะได้ดีใจตอนได้รับปากกาแท่งนี้ ผมจดๆจ้องๆอยู่นาน เซลคงรำคาญจึงเดินเค้ามาถาม สนใจแท่งไหนคะ ผมชี้นิ้วไปยังปากกาที่ตัวด้ามมีหลากสีแต่ออกเป็นแนวสีอ่อนๆ คนขายหยิบปากกาเพร้อมบรรยายสรรพคุณมานิดหน่อย ผมแทบจะไม่ได้ฟัง แต่เงยขึ้นแล้วถามไปแบบซื่อๆว่า "ยี่ห้อนี้มันดังเหรอครับ" คนขายมองผมประมาณว่านี่คุณไม่รู้จักยี่ห้อนี้จริงๆเหรอ "ค่ะมันเป็นของ บลาๆๆๆๆๆๆ " ผมมาสะดุดตรงคำว่ามันเป็นรุ่นที่ผลิตขึ้นมาในโอกาสบลาๆ มีแค่ไม่กี่แท่งนะคะ ผมถามราคา เมื่อทราบราคา ผมจึงถามต่อว่า สองสามสีที่วางอยู่นั้น ด้านในต่างกันมั้ย คือถ้าต่างกันสิ่งที่ผมคิดในใจคือจะเอามาทั้ง 3 แบบ แต่พนักงานขายก็บอกว่าไม่ต่างกัน ผมจึงตัดสินใจบอกไปว่า "ผมเอาแท่งนี้" ก่อนจะจ่ายเงินผมถามว่าไส้ปากกาซื้อได้ที่ไหนบ้าง เมื่อได้ฟังสิ่งที่คนขายตอบ ผมรู้ทันทีว่ามันยุ่งยากเหลือเกิน ผมจึงหันไปบอกว่า งั้นผมเอาไส้ด้วย เอามา สามอันละกัน ในที่สุดผมก้อได้ปากกาและไส้ที่พอจะคำนวณให้น้องคนนี้ใช้ไปได้ประมาณสองถึงสามเดือน แล้วก้อเดินกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม

       หลังจากนั้นผมมองหาโอกาสที่จะให้เธอ เราคุยกันบ่อยขึ้น แต่ผมมองเห็นลางสังหรณ์บางอย่างที่กำลังจะทำให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้มันสิ้นสุดลงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ก่อนที่ความสัมพันธ์ครั้งนี้จะจบลง เธอส่งลิ้งโพสต์รับงานที่เธอบอกว่าตั้งแต่เล่นมาเธอเคยโพสต์ครั้งเดียวมาให้ผม ผมก็กดเข้าไปอ่าน แล้วก้ออึ้งไปแป้บนึง เพราะผมเคยอ่านโพสต์นี้ ผมจำได้ว่า ผมยังเคยบ่นกับตัวเองว่า น้องคนนี้ยังงัยโพสหางานหรือโพสหาแฟน สเปคสูงและโอเว่อมาก รายละเอียดยิบย่อยเยอะมาก อ่านแล้วตอนนั้นก้อหมั่นไส้คนโพสอยู่นิดๆ แต่ก้อคงโทษเค้าไม่ได้ เพราะเค้าระบุไว้ในรายละเอียดว่าไม่ต้องการเงิน แต่ผมก็ไม่คิดว่าเธอคนนี้ก็คือเจ้าของโพสสเปคสูงคนนั้น ผมมานั่งดูตัวเอง เออความจริงผมไม่ผ่านข้อจำกัดที่เธอเขียนไว้หลายข้อเลยทีเดียว แต่ผมก็ไม่ได้หยิบเอาประเด็นเหล่านี้มาพูดคุย นอกจากจำไว้เป็นบทเรียนว่าเราไม่ควรตัดสินเจ้าของโพสต์จากแค่สิ่งที่เค้าพิมพ์ออกมา

      ผมพยายามนัดเจอเธอหลายครั้งแต่เราก็คลาดกันตลอด มันเหมือนเธอไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการเจอกัน แต่เธอกลับเพิ่มน้ำหนักความสำคัญในการพูดคุยกันมากขึ้นทุกทีๆ จนวันนึงผมถามเธอออกไปว่า "สรุปแล้วเราจะไม่เจอพี่แล้วใช่มั้ย" เธอตอบมาสั้นๆ "ค่ะ' คำสั้นๆคำนี้ทำเอาผมตกใจ และต้องรีบถามหาเหตุผลจากเจ้าของคำพูดนี้ "หนูเริ่มกลัวการเจอกันของหนูกะพี่ บลาๆๆ" ผมจึงบอกเธอไปว่า "งั้นพี่ไม่โอเคแระ งั้นเราหยุดการพูดคุยไว้เพียงแค่นี้ดีกว่านะ" สุดท้ายผมก็ไม่ได้คิดว่านี่จะเป็นบทสนทนาหลังสุดของเราสองคน แต่เมื่อผ่านเวลาจาก ชั่วโมง เป็นวัน เป็นอาทิตย์ ผมจึงเข้าใจว่าเธอพูดจริง ในวันที่ผมลบแชทระหว่างเราสองคน ผมอ่านมันก่อนที่จะลบ แทนที่ผมจะเสียใจแต่กลับปรากฏรอยยิ้มเล็กๆที่ริมฝีปาก ความทรงจำครั้งนี้ มันย้อนเวลาทำเอาความรู้สึกตอนเด็กๆผมกลับมา แค่นี้ผมก็มีความสุขมากแล้ว................:)

journey

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
  • People Like This 3
Re: เมื่อความต้องการก้าวนำกว่าความเข้าใจ EP.02
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 13, 2017, 12:23:45 PM »
อ่านแล้วก็รู้สึกยิ้มไป แต่แล้ว ไหงจบลงด้วยรอยยิ้มที่มีแววตาเศร้านิดๆ
I have a bad habit of breaking my own heart.
And in the end, all I learned was how to be strong.