เวลาคุยนัดกับน้องดูแล เมื่อถึงเวลาไปเจอ อึดอัดกันมั้ยครับ

[A WayBackIntoLove]

ถ้าเป็นกรณีจ้างเที่ยว เจอกันบ่อย ๆ แล้วคลิ๊กกัน
คงอึดอัดไปอีกแบบ แต่อึดอัดเพราะมันพร้อมจะ
ระเบิดออกมาอยู่แล้วได้ทุกเมื่อ

แต่ในกรณีน้องดูแล  พอเจอหน้ากันปุ๊ป คำถามที่
ต้องเจอแน่นวล คือ

พี่ โอเคร กับน้องมั้ย ?
พี่พร้อมดูแลเลยมั้ย ?
น้องกำลังเดือด ต้องการความช่วยเหลือด่วนที่สุด
ขอค่าดูแลก่อนเลยได้เปล่า ?

การเจอกันไม่ถึงชั่วโมง แล้วต้องตัดสินใจทันที
มันสร้างความอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูกเลยจริง ๆ

ถ้า say "No" การเจอกันวันนั้นก็สิ้นสุดลงทันที
แต่ถ้า say "Yes" คุณก็ต้องพร้อมเข้าหอทันที
เหมือนเป็นไฟลท์บังคับไปในตัว

ไม่รู้ว่าผมรู้สึกแบบนี้อยู่คนเดียวหรือเปล่า? 

[k p i2 z]

สตั๊นแพร๊ฟฟฟ ...  ฮาๆ
 เหมือนจริงจนนึกว่าพี่ดูแลแอบมาตั้ง 
 
ถ้าบอกในมุมของน้อง
>> เค้าก็คงถูกชะตากับพี่ด้วยหละคะ ถึงอยากให้พี่ดูแล

หาก say no ., ยังไงมันก็ดีกว่าที่ไม่คุยกันแบบตรงไปตรงมา ในเมื่อเคมีไม่ใช่คบไปก็อยู่กันไม่นาน

แต่ถ้า say yes,! มันก็ดีต่อทั้งคู่ หากตัวพี่เองก็โอเคกับน้องเช่นกันคะ


แต่ถ้า เพิ่งเจอกัน..ก็ลองศึกษากันไปคะ ใจเย็นๆ 

[reson]

ผมก็เป็นคนนึง ที่มีอาการคล้ายๆครับ ไม่รู้เรียกว่าอึดอัดมั้ย
แต่คิอไม่รู้ว่าจะจบยังไง ชวนยังไง และรู้สึกไม่คุ้น
ผมใช้วิธีขอคุยก่อน นัดเที่ยวกันก่อนครับ

ซึ่งส่วนมาก น้องจะมาแบบจำเป็น รีบร้อนแล้วครับ
พอไปได้ซักไม่นานก็มีอันต้องเลิกกันไป

[สีเทา]

คำถาม
หาน้องดูแลหรือหาแฟน !!
หาน้องดูแลแค่ทางกาย เราปฎิเสธได้หากไม่ตรงกัน
หาแฟนมันทางใจ.....เราปฎิเสธ แต่หัวใจเรียกร้อง
ปล.อยู่ที่ท่านครับ คนใจอ่อนมักตายตอนจบ 

[sago]

น้องๆหลายท่านไม่เข้าใจว่าการหาคนดูแลมันต้องพิจารณาหลายอย่าง
1. รูปลักษณ์ภายนอก
2. นิสัย
3. เคมีเข้ากันได้ไหม
4. Sex
5. คชจ.ที่ Match กัน บางคนบอกเท่านี้แต่มีโน่นนี่นั่นอีก ความคาดหวังคนให้กับคนรับไม่เหมือนกัน
หลายๆสิ่งที่ว่ามานั้นไม่สามารถจะพิจารณากันได้ในการพบหน้ากันครั้งเดียวหรือเวลาอันสั้น ดังนั้นถ้าเอาความเดือดร้อนมาเป็นตัวกำหนดแล้วจะหาข้อสรุปในเวลาอันรวดเร็วก็ยากครับ แต่อธิบายไปหลายคนก็ไม่เชื่อและไม่พยายามจะเข้าใจ บางคนใช้เวลาหาหลายเดือน บางคนเป็นปี บางคนก็เป็นอาทิตย์ก็Matchแล้วแต่ต้นทุนที่ต่างกันของแต่ละคน ถ้าข้อ1ผ่านข้ออื่นๆก็พิจารณาได้เร็วขึ้นแต่ไม่ใช่ว่า1ผ่านแล้วอย่างอื่นจะใช่ น้องหลายคนปิดโอกาสของตัวเองตั้งแต่โพส ถ้าไม่ใช่แบบนี้อย่าแอดมา ถ้าไม่ได้เท่านี้ไม่คุย หลัก Marketing เขาบอกทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้บริโภคสนใจเข้ามาคุย เข้ามาคุยแล้วทำอย่างไรที่จะปิดดีล ไม่ได้อยากเปรียบเทียบคนเป็นสินค้า แต่เอาจริงๆไม่มโนสินค้าชนิดนี้ถ้าผู้บริโภคไม่ซื้อที่นี่เขาก็หาซื้อที่อื่นได้เช่นกัน ถ้าโลกไม่สวยก็พอจะเข้าใจ ถ้าไม่เชื่อก็ลองจดสถิติไว้ดูว่าต้องใช้เวลาคุยกี่คนถึงจะปิดดีลได้ 1 คน ถ้าอยากทราบไปถามเซลล์ขายเครื่องกรองน้ำหรือขายประกันชีวิตดูครับ Business deal ที่ดีคืออย่าปิดโอกาสใดๆทั้งสิ้นก่อนที่Dealจริงๆจะเกิด นี่หมายถึงมุมมองทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ต้องถามนะครับฝ่ายไหนมีโอกาสในการเลือกมากกว่ากัน Demand and Supply จะบอกคุณเองครับ

[ʕ•ᴥ•ʔ❤8888]

อ่าา...แนตตี้จะบอกว่า
ในเวปนี้ มีหลายประเภทมากๆนะคะ
♡น้องดูแล♡
ถ้าโพสหา ดูแลเรยเนี่ย แปลว่า
น้องรีบใช้เงินค่ะ ต้องการ"เงินก้อน"
ไปใช้จ่าย เรยมาโพสหาดูแล
เพราะงั้น น้องที่โพสหาแบบนี้
.....ต้องการปิดจ็อบเร็ว.......

ถ้าพี่อยากได้ ความสัมพันธ์แบบ
ค่อยเปน  ค่อยไป ให้"จีบ"
น้องจ้างเที่ยว จะดีกว่าค่ะ
เพราะน้องไม่รีบ เจอกันหลายครั้ง
น้องก็เลือก พี่ก็เลือก น้องไม่รีบใช้เงิน
ใช้เวลาดูกันนานๆได้

ส่วนเหตุผลว่า....ทำไมน้อง
ไม่ชอบคุย...รีบๆๆ บอกเรยค่ะ
ว่าพี่ที่จ่ายจริงมีน้อยมาก
ถ้าไม่มาจากกลุ่ม หรือมีคนแนะนำมา
ควานหาเอาเอง ....... คนจ่ายจริงน้อยสุดๆ
เพราะคนแอดมามี ทั้งพี่ยาม พนง.ห้าง
ทุกเกรด ทุกระดับกันเรยทีเดียว
กับคำถามที่ว่า... "ดูแลไหวไม๊?"
จึงเป็นที่มาของ "ขอจ่ายหมดรวดเดียว"
"รึครึ่งนึงก่อน" กันพี่ชิ่ง กันพี่หนี

☆พี่ดูแล☆
อันนี้ก็มีหลายรูปแบบค่ะ
ถ้าพี่หื่น อารมณ์พุ่ง เจอหน้าปุ้ป
พร้อมปิดจ๊อบทันที แบบนี้ก็มีค่ะ
เพราะบางคนก็ต้องการแค่นี้...
ไม่ต้องการความสัมพันธ์อะไร
มากมาย

แต่พี่บางท่าน ไม่ได้มีอารม์ขนาดนั้น
ต้องอาศัยความคุ้นเคย ค่อยเปนค่อยไป
ศึกษานิสัยใจคอ ค่อยพัฒนาดูแลกันไป

เหตุผลจากทั้ง2 ฝ่ายคร่าวๆประมานนี้
มั้งคะ อ่านเพลินๆค่ะ แนตว่างพิม 555

[A WayBackIntoLove]

สตั๊นแพร๊ฟฟฟ ...  ฮาๆ
 เหมือนจริงจนนึกว่าพี่ดูแลแอบมาตั้ง 
 
ถ้าบอกในมุมของน้อง
>> เค้าก็คงถูกชะตากับพี่ด้วยหละคะ ถึงอยากให้พี่ดูแล

หาก say no ., ยังไงมันก็ดีกว่าที่ไม่คุยกันแบบตรงไปตรงมา ในเมื่อเคมีไม่ใช่คบไปก็อยู่กันไม่นาน

แต่ถ้า say yes,! มันก็ดีต่อทั้งคู่ หากตัวพี่เองก็โอเคกับน้องเช่นกันคะ


แต่ถ้า เพิ่งเจอกัน..ก็ลองศึกษากันไปคะ ใจเย็นๆ 

ประเด็นมันอยู่ตรง ต้องตัดสินใจเลยทันทีนี่แหละ แถมน้องต้องการให้ช่วยทันที

ทำให้ตัดสินใจลำบากเข้าไปอีก ว่าเติมเงินแล้วจะหายเข้ากลีบเมฆหรือเปล่า 

[A WayBackIntoLove]

ผมก็เป็นคนนึง ที่มีอาการคล้ายๆครับ ไม่รู้เรียกว่าอึดอัดมั้ย
แต่คิอไม่รู้ว่าจะจบยังไง ชวนยังไง และรู้สึกไม่คุ้น
ผมใช้วิธีขอคุยก่อน นัดเที่ยวกันก่อนครับ

ซึ่งส่วนมาก น้องจะมาแบบจำเป็น รีบร้อนแล้วครับ
พอไปได้ซักไม่นานก็มีอันต้องเลิกกันไป

ก็ประมาณเดียวกันเลยครับ 

[A WayBackIntoLove]

คำถาม
หาน้องดูแลหรือหาแฟน !!
หาน้องดูแลแค่ทางกาย เราปฎิเสธได้หากไม่ตรงกัน
หาแฟนมันทางใจ.....เราปฎิเสธ แต่หัวใจเรียกร้อง
ปล.อยู่ที่ท่านครับ คนใจอ่อนมักตายตอนจบ 

มันยากตรงหากยังไม่ลอง ก็ไม่รู้นี่แหละ 555  แต่ถ้าจะลอง ก็ต้องวัดดวงอีก ว่าจะเจอน้องนินจารึเปล่า 

[A WayBackIntoLove]

น้องๆหลายท่านไม่เข้าใจว่าการหาคนดูแลมันต้องพิจารณาหลายอย่าง
1. รูปลักษณ์ภายนอก
2. นิสัย
3. เคมีเข้ากันได้ไหม
4. Sex
5. คชจ.ที่ Match กัน บางคนบอกเท่านี้แต่มีโน่นนี่นั่นอีก ความคาดหวังคนให้กับคนรับไม่เหมือนกัน
หลายๆสิ่งที่ว่ามานั้นไม่สามารถจะพิจารณากันได้ในการพบหน้ากันครั้งเดียวหรือเวลาอันสั้น ดังนั้นถ้าเอาความเดือดร้อนมาเป็นตัวกำหนดแล้วจะหาข้อสรุปในเวลาอันรวดเร็วก็ยากครับ แต่อธิบายไปหลายคนก็ไม่เชื่อและไม่พยายามจะเข้าใจ บางคนใช้เวลาหาหลายเดือน บางคนเป็นปี บางคนก็เป็นอาทิตย์ก็Matchแล้วแต่ต้นทุนที่ต่างกันของแต่ละคน ถ้าข้อ1ผ่านข้ออื่นๆก็พิจารณาได้เร็วขึ้นแต่ไม่ใช่ว่า1ผ่านแล้วอย่างอื่นจะใช่ น้องหลายคนปิดโอกาสของตัวเองตั้งแต่โพส ถ้าไม่ใช่แบบนี้อย่าแอดมา ถ้าไม่ได้เท่านี้ไม่คุย หลัก Marketing เขาบอกทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้บริโภคสนใจเข้ามาคุย เข้ามาคุยแล้วทำอย่างไรที่จะปิดดีล ไม่ได้อยากเปรียบเทียบคนเป็นสินค้า แต่เอาจริงๆไม่มโนสินค้าชนิดนี้ถ้าผู้บริโภคไม่ซื้อที่นี่เขาก็หาซื้อที่อื่นได้เช่นกัน ถ้าโลกไม่สวยก็พอจะเข้าใจ ถ้าไม่เชื่อก็ลองจดสถิติไว้ดูว่าต้องใช้เวลาคุยกี่คนถึงจะปิดดีลได้ 1 คน ถ้าอยากทราบไปถามเซลล์ขายเครื่องกรองน้ำหรือขายประกันชีวิตดูครับ Business deal ที่ดีคืออย่าปิดโอกาสใดๆทั้งสิ้นก่อนที่Dealจริงๆจะเกิด นี่หมายถึงมุมมองทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ต้องถามนะครับฝ่ายไหนมีโอกาสในการเลือกมากกว่ากัน Demand and Supply จะบอกคุณเองครับ

ตรงประเด็นมากครับ  แต่ไม่กล้าเขียน