ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อเจอป้ายหน้าร้านค้าเขียนไว้ว่า"ถ้าคิดจะต่ออย่าเดินเข้ามา"  (อ่าน 2658 ครั้ง)

OZLO

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 366
  • People Like This 18
คุณคิดอย่างไรหากวันหนึ่งอยากซื้อเสื้อผ้าใส่แล้วเดินไปเจอร้านค้าเขียนป้ายติดไว้ว่า"ถ้าคิดจะต่ออย่าเดินเข้ามา"
ก. เขาท้าทายทั้งร้านเท่าไหร่ เอาเงินฟาดหัวมันเลย
ข. อยากได้เสื้อผ้าชุดนี้มากเดินเข้าไปอ้อนวอนขอให้ได้ซื้อ
ค. อึ้ง.....
ง. ไม่ซื้อร้านนี้ก็ไม่ตาย ซื้อร้านใหม่ก็ได้

ถามใจคุณดูว่าหากคุณเป็นคนซื้อเสื้อผ้าหรือคุณเป็นคนขายเสื้อผ้าจะมีมุมมองเรื่องนี้อย่างไรจะได้แขวนป้ายหน้าร้านถูกนะจ๊ะ

Aunny.aun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 579
  • People Like This 277
ถ้าเดินเข้าไปเลือกชมแล้ว เจอของที่ถูกใจ ราคาเอื้อมถึง ก็จัดการซื้อมาครอบครอง.....ป้ายเค้าเขียนชัดเจนแล้ว" งดต่อ "ก็จะไม่ต่อให้เสียอารมณ์ ทั้งสองฝ่าย มาซื้อความสุขและ รางวัลให้ตัวเอง แต่ถ้าอยากได้มากๆตามหามานาน ทรงนี้ แบบนี้ เท่าไหร่ก็ยอม555+ แต่ถ้าเสื้อผ้าสวยแค่ไหน เราใส่ไม่เหมาะก็จะไม่ใส่ต่อค่ะ จะใส่เฉพาะอันที่เข้ากับตัวเอง หลายครั้งจะมีเสียงหลง "ไม่น่าซื้อมาเลย"หรือ"ดีนะที่ซื้อมา" คละเคล้ากันไป ไม่ชอบก็ซื้อใหม่ค่ะ ไม่สมเหตุสมผลก็ผ่านดูร้านอื่น มีเต็มเวป!!! เอ้ยยยย....
 **25** **25** **25**
Travel as much as u can,As far as u can,As long as u can,Life's not meant to be lived in one place.

|♤|♤|♡ กลีบอูฐ__แท้ :3

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,184
  • People Like This 262
  • Do what makes you happy and what you love.
ก่อนอื่นดูกำลังทรัพย์ในกระเป๋าก่อนค่ะ (affordable)
ถ้ามีเพียงพอที่จะซื้อ ก็ซื้อค่ะ... เพราะ ชอบ เพราะเห็นว่ามันสวย..

แต่ก็อย่างว่าแหละนะ
เสื้อผ้าสวยๆไม่ได้มีร้านเดียว.. ถ้าร้านนี้แพง เดินไปอีกร้าน อาจเจอในราคาที่ถูกกว่าก็ได้..

ถ้ามันเป็นสินค้าที่ ทดแทน กันได้..
เลือกจ่าย ดีกว่าค่ะ..
สวยถูกใจ ราคาสบายกระเป๋า ก็พอมีให้เลือก อิอิ

#หมายถึงเสื้อผ้า นะคะ แง่วว **11** **11** **30** **30**
• มียูส&ไลน์เดียว และไม่พร้อมจะคุยกับตะกวดและคน torlae •
-- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- --
คติประจำใจ : ค.ว.ย.
( คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ) = กาลามสูตร

♤•♤•♤Timing is a bitch, yes. But it's only a bitch if we let it be. ♤•♤•♤
• น่ารัก เรียบร้อย พูดน้อย กินจุ •
 ~> แรงมา แรงกลับ ไม่โกง <~

TiBBieee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 450
  • People Like This 121
คงไม่มานั่งต่อค่ะถ้ามีเงิน หรือมีน้อยกว่าคงหาซื้อในราคาที่ซื้อได้ การอยากได้อะไรมากๆแล้วไปต่อให้เค้าลดราคาให้ ถือว่าไม่เห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คนค้าขายล้วนอยากได้เงินอยากได้กำไร เพราะมีการลงทุน เค้าจะบวกกำไรมากน้อย มันก็เป็นสิทธิของเค้า ถ้าคิดว่าร้านนี้ขายแพงไปเราก็แค่เดินไปร้านอื่นแค่นั้นเอง 


ถ้ามุมมองคนขายจะยินดีให้ลูกค้าเดินเข้ามาดูมาลองใส่หรือแม้กระทั่งเข้ามาพูดคุยว่าใส่แล้วจะเหมาะมั้ยจะสวยมั้ย  ถ้าลองแล้วไม่ชอบคงไม่เป็นไร คราวหน้าคงหาของที่ต่างจากเดิมมาไว้ให้เป็นตัวเลือกเพิ่มเติม ลูกค้าไม่ได้มีคนเดียว ร้านค้าก็เหมือนกัน ^^
ออกจากบ้านต้องได้เงิน !!!!!

k p i2 z

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 164
  • People Like This 81
คุณคิดอย่างไรหากวันหนึ่งอยากซื้อเสื้อผ้าใส่แล้วเดินไปเจอร้านค้าเขียนป้ายติดไว้ว่า"ถ้าคิดจะต่ออย่าเดินเข้ามา"
ก. เขาท้าทายทั้งร้านเท่าไหร่ เอาเงินฟาดหัวมันเลย
ข. อยากได้เสื้อผ้าชุดนี้มากเดินเข้าไปอ้อนวอนขอให้ได้ซื้อ
ค. อึ้ง.....
ง. ไม่ซื้อร้านนี้ก็ไม่ตาย ซื้อร้านใหม่ก็ได้

ถามใจคุณดูว่าหากคุณเป็นคนซื้อเสื้อผ้าหรือคุณเป็นคนขายเสื้อผ้าจะมีมุมมองเรื่องนี้อย่างไรจะได้แขวนป้ายหน้าร้านถูกนะจ๊ะ


หากเห็นป้ายบอกแบบนี้ ส่วนตัวไม่เข้าไปคะ และไม่คิดจะสร้างรายได้ให้เค้า

เพราะถึงจะอยากได้ แต่มันก็มีแบบอื่นทดแทนได้นิคะ
เราซื้อเพราะเราอยากได้ทั้งสินค้าและความสบายใจที่จะซื้อคะ

*

OZLO

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 366
  • People Like This 18
ถามใจเราเองว่าเมื่อเราเป็นคนซื้อเสื้อผ้าส่วนใหญ่ก็คงคิดคล้ายๆกันครับ ชุดนี้แม้จะสวยแค่ไหน อยากได้แค่ไหน มีตังค์แค่ไหนก็ไม่อยากซื้อเพราะแค่แว่บแรกที่เห็นป้ายก็รู้สึกเหมือนโดนไล่แล้ว
หลักการตลาด step by step
1. ทำอย่างไรให้ลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน
2. ลูกค้าเดินเข้ามาในร้านแล้ว ทำอย่างไรที่จะปิดดีลได้ การเจรจาธุรกิจย่อมเกิดการเจรจาต่อรอง แม้การต่อรองจะอยู่ในราคาขายที่ผู้ขายรับไม่ได้ก็ไม่จำเป็นต้องติดป้ายไม่ให้ลูกค้าเข้ามาในร้าน เพราะหลายปัจจัย ลูกค้าอาจเปลี่ยนใจเพราะชอบสินค้าสวยจริง ลูกค้าอาจเปลี่ยนใจเพราะแม่ค้าพูดจาดีเคมีเข้ากัน หรืออยากได้แต่งบไม่ถึงแค่ไหนได้ เหล่านี้คือโอกาสในการปิดดีลที่มีความเป็นไปได้ แต่ถ้าลูกค้าไม่เดินเข้ามาในร้านความเป็นไปได้ในการปิดดีลคือ 0%
3. หากลูกค้าตัดสินใจซื้อแล้วทำอย่างไรให้ลูกค้าซื้อซ้ำ ต้นทุนทางการตลาดในการหาลูกค้าใหม่ๆมากกว่าการให้ลูกค้าเดิมพึงพอใจสูงมาก เปรียบเทียบง่ายๆ คือต้นทุนโฆษณา100บาทหากต้องหาลูกค้าใหม่จนได้ปิดดีลอาจต้องใช้ถึง80บาทแต่ต้นทุนในการกระตุ้นให้ลูกค้าที่พึงพอใจสินค้าใช้ซ้ำใช้เพียงประมาณ20บาท ดังนั้นการรักษาลูกค้าเดิมมีต้นทุนน้อยกว่าหาลูกค้าใหม่มาก
จากลำดับที่1-3จนปิดดีลนั้น ข้อ1คือโจทย์ใหญ่ที่จะต้องสร้างให้เเกิดโอกาสดังนั้นการติดป้ายว่า "ถ้าต่ออย่าเดินเข้ามา" แม้ใจจริงเราจะคิดเช่นนั้นก็ไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องเขียนเป็นป้าย เพราะโอกาสในการปิดดีลจะเข้ามาในช่วงNegotiationข้อ2 และถ้าหากพิจารณาว่าทำไม่ได้คิดว่าเสื้อผ้าชุดนี้มีตัวเดียวในโลกตั้งราคาเท่าไหร่ก็ต้องซื้อ เมื่อคุณเองเป็นผู้ซื้อเสื้อผ้าชุดนั้นบอกได้เลยว่าคุณเองก็ไม่คิดเช่นนั้นกระมังครับ
Remark หลักการตลาดพื้นฐานใช้ได้กับสินค้าทุกชนิดที่มีสินค้าทดแทนกันได้

pop2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 952
  • People Like This 831
ตอบ. ข้อ ง.ครับ

สมัยก่อนผมอาจไม่ต่อครับ.  แต่ยุคนี้หลายสิ่งหลายอย่างบางทีไม่สมเหตุสมผลทั้งๆที่ไร้แบรนด์เนม. ขนาดของแบรนด์เนมระดับโลกยังมีลดราคาสารพัด ทำไมเราจึงไม่เลือกซื้อล่ะ ต่อให้มีเงินยิ่งควรจะต่อครับซื้อแพงจะดูโง่ไร้กึ๋นไม่มีเพาเวอร์ไปซะอีก

ครั้งนึงนานมาแล้วผมไปดูนาฬิกาแบรนด์ธรรมดาในห้าง ปรากฎว่าเจอรุ่นพี่ผ่านมาเลยทักคุยกันตามประสา. พอเราบอกกำลังดูนาฬิกาอยู่เท่านั้นแหละ เขาเรียกพนักงานมาสอบถามเลยรู้ว่าแกขาประจำ ต่อนู่นนี่ในห้างนะครับ สรุปลดไป 38% แถมถ้ารูดบัตรแคชแบ๊กในบัตรคืนอีก5%. จากนั้นเลยรู้ว่าแม้ในห้องใหญ่ก็ต่อได้. พนักงานทุกคนมีส่วนลดให้หมดถ้าไม่ถามก็ไม่บอก.

หลังจากนั้นผมต่อแหลก ในห้างไม่ลดไม่ซื้อ.  ยกเว้นในซุปเปอร์ถ้าเป็นท๊อปก็มีส่วนลด และบัตรลดจาก one card.  ผมเคยซื้อทีวี 64" ซัมซุงตัวท๊อปตอนนั้น จากราคาแสนกว่า เหลือราคา6หมื่นกว่า แถมแคชแบ๊ก5% และยังแถมเก้าอีlazy boy มูลค่า2หมื่นกว่ามาด้วยอีกตัว คุ้มเหมือนแจกฟรี.  โดยการรวมกลุ่มเพื่อนไปต่อลองกับซัมซุงซื้อคนละเครื่อง

strawberry shortcake

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 15
  • People Like This 27
เฉยๆค่ะ ถ้าเป็นแบบที่อยากได้ก็ซื้อ ไม่อยากได้ก็ผ่านค่ะ
ไม่ได้เซนซิทิฟกับข้อความขนาดนั้น แต่ก็ดูแม่ค้าว่าหน้าตาคำพูดรับแขกรึเปล่ามากกว่าค่ะ
ไม่มีตัวเลือกเพิ่มเนอะ ว่าถ้าสนใจก็ดูตามปกติ ไม่ได้คิดอะไรมาก

ปกติไม่ต่อของอยู่แล้ว เห็นใจคนขาย
นอกจากซื้อหลายชิ้นในทีเดียว ก็ถามหลายชิ้นลดได้ไหม ส่วนมากเค้าจะลดให้เองค่ะ
แต่ถ้าชิ้นเดียว ไม่เคยต่อเลย ถ้าสูงเกินจริงไป หรือดูไม่คุ้ม ก็ไปดูที่อื่นแทน
ยกเว้นถ้าที่เที่ยวบางทีที่ราคาของตั้งเป็นธรรมเนียมว่าต้องต่อเยอะๆ เป็นอีกเรื่องค่ะ

A WayBackIntoLove

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 832
  • People Like This 313
  • เมตตาธรรม เป็นเครื่องค้ำจุนโลก
แล้วแต่มุมมองครับ

มันก็เป็นวิธีการสกรีนลูกค้าอย่างหนึ่ง
เพราะร้านนี้เค้าเน้นลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
หากเราไม่ใช่กลุ่มลูกค้าของเค้า
ก็มองผ่าน ๆ ไปครับอย่าซีเรียส   **26**

ถ้าเค้าขายสินค้าไม่ได้ เดี๋ยวก็คงหาวิธีการใหม่เอง
ทุกวันนี้ตลาดเป็นของผู้ซื้อ ไม่ใช่ของผู้ขาย
แต่ก็มีสินค้าบางอย่าง ที่ผู้ซื้อแย่งกันซื้อ
แถมยอมจ่ายแพงกว่าราคาป้ายด้วยซ้ำ   **08**

 
ความจริงใจ มีไว้สำหรับคนที่เหมาะสมเท่านั้น
กับคนปลิ้นปล้อน ให้ความจริงใจไปก็ไร้ค่า

mzazaza2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 278
  • People Like This 103
 **36** สำหรับผม จะลองเดินเข้าไปดูนะครับ เพราะยังไม่รู้ว่าชอบมากขนาดไหน แต่ถ้าชอบมาก แม้ราคาจะสูง ก้ออาจจะลองพิจารณาตามสถานการณ์ และลองเสียงเจรจาดูครับ เพราะบางครั้งคนขายก้ออาจจะคิดว่าเสื้อนี้มันเหมาะกับคุณ จนอาจจะไม่สนใจเรื่องราคาที่จะขายมากนัก อันนี้มุมมองส่วนตัวนะครับ และถ้าเป็นแบบนั้น คุณจะเดินเข้ามาในร้านนี้อีก เมื่อคุณเดินผ่านมันครับ  **36** ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ