หลายปีก่อน ตอนที่เข้ามาหาดูแล แม้ไม่ได้ตกลงดูแลกันแต่ในทางปฏิบัติก็เหมือนดูแลแต่ก็ยังไม่เคยถูกเลิกหรือเทครับ
ส่วนใหญ่เราตกลงกันก่อนคือเมื่อผูกพันมากๆและน้องเค้าเริ่มตั้งตัวได้จึงเริ่มเกรงใจไม่อยากเอาเปรียบ จึงมักมาขอไม่รับเงินแน่นอนว่านั่นคือการบอกเลิกแบบอ้อมๆครับ(ทุกวันนี้ก็ยังช่วยเหลือกัน มาเจอกันตามแต่น้องๆเค้าจะสะดวก ส่วนใหญ่ยังช่วยค่าเช่าคอนโดครับ แต่ก็มีน้องบางคนที่ไม่ขอรบกวนค่าเช่านี้แล้ว)
เรื่องการจ่ายตังค์ หลอกนึกภาพนะครับ ทานอะไร ซื้ออะไร หยิบแบ็งค์พันออกมา ที่เหลือยกให้ทุกครั้ง
ค่าเทอม ทั้งป.ตรีและป.โท ผมจ่ายเทอมนึง 3หมื่น
ค่าเช่าคอนโด(ไม่รวมมัดจำล่วงหน้า3เดือนที่เท่ากับให้เปล่า)
ค่าสิ่งของต่างๆที่ต้องมีใช้ในห้องเหมือนในบ้านนี่แหละ สัปดาห์หนึ่งก็หลักสองถึงสามพัน
นี่ไม่นับค่าซ่อมรถ ค่ายาง ค่าเที่ยว...
รวมแล้วผมคิดว่าผมเองก็คงไม่น้อยกว่าท่านพี่แต่จะแตกต่างกันตรงผมใช้เงินแลกความสุขทั้งตัวผมและน้องๆ
ดังนั้นเมื่อเงินออกจากกระเป๋าท่านพี่ไปแล้วก็อย่าไปรู้สึกอะไรเลยครับแค่ทำให้คนที่ท่านพี่นึกรักมีความสุขก็น่าจะภูมิใจ
ส่วนการที่น้องเค้ามาคบกับท่านพี่เท่าที่อ่านแน่ใจว่า เพื่อเงินล้วนๆ น้องเค้าตั้งเป้าหมายเอาไว้ก่อนแล้วล่ะครับ พอได้ครบตามที่ตั้งใจไว้น้องเค้าก็ขอเลิก ท่านพี่เองที่ประเมินพลาดไป ยังไงก็ตามผมคิดว่าปสก.นี้จะช่วยให้ท่านพี่เข้มแข็งขึ้นครับ
อ่านกระทู้นี้แล้วเกรงว่าถ้าท่านพี่นำปสก.นี้ไปใช้ในครั้งต่อไปกับน้องคนใหม่โดยนำเรื่องเหล่านี้มาใช้อ้างในการที่จะไม่แฟร์กับน้องๆก็คงไม่น่าจะเหมาะ ระวังไว้ด้วยนะครับ
(การเปย์ทั้งทรัพย์สินและใจเป็นสิ่งสร้างสรรค์เป็นคุณสมบัติที่ดีของพี่ๆ โปรดรักษาไว้นะครับ)
นี่คืออีกมุมมองและขอให้พบคนที่ใช่ครับ
The Show must go on บรื้นนนนนน