1.คบกันเพียงเพราะถูกใจกัน ไม่ยุ่งเกี่ยวชีวิตส่วนตัวกัน
2.เพราะไม่ใช่ตัวจริงของกันและกัน จึงไม่จำเป็นต้องจริงใจและซื่อสัตย์ต่อกัน
3.ดูแลห่วงใยกันในทุกเรื่อง แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัวก็ตาม
4.ถึงจะไม่ใช่ตัวจริง แต่ก็มีความจริงใจและซื่อสัตย์ต่อกัน
ข้อ 1 - 3 ถูกแต่เท่าที่ได้สัมผัส ท่าน จขกท. คงกำลังอยู่ในช่วงแสวงหาหลักปรัชญาของการดูแลน้อง
แน่นอน เราทุกคน พอมีน้องที่เราถูกใจ ก็เริ่มมีความเป็นเจ้าของ อยากจะห่วงใยเขาไปทุกเรื่อง
แต่เราลืมไปว่า เขาก็มีชีวิตส่วนตัวของเขา มีคนรอบข้าง มีเพื่อน มีครอบครัว อาจจะมีแฟน อาจจะมีพี่ดูแลคนก่อน อาจจะมีพี่ดูแลอีกคน
ค่าครองชีพสมัยนี้มันน้อยๆ เสียที่ไหน ถ้าได้จากเราทางเดียวจะไปพอกินอันใด
ดังนั้นคำตอบข้อ 1 ถูกใจกัน ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว ก็ถูกแล้ว คือบางเรื่องเราก็ไม่มีทางไปล่วงรู้ ยิ่งเราสืบเสาะล้วงแคะแกะเกาแล้วไปเห็นข้อมูลอะไรเข้า เราจะยิ่งไม่สบายใจ ดังนั้น ข้อ 1 ต้องนำมาใช้เป็นหลัก อย่ารู้เรื่องอะไรเค้ามากเลย ถ้ารู้มีหวังเลิก
ข้อ 2 ก็เราไม่ใช่ตัวจริงของน้อง และน้องไม่ใช่ตัวจริงของเรา แม้แต่เราเองยังไม่สามารถให้ความจริงใจซื่อสัตย์กับน้องได้ทุกกรณี เช่นเรื่องส่วนตัวทางบ้านของเรา ก็คงไม่อยากเอามาแชร์กับน้อง หรือบางวันบางเวลาเราก็แอบไปเที่ยวจ้างน้อง SL เราเอามาบอกน้องรึเปล่า ส่วนน้องก็ต้องมีหลายเรื่องที่ต้องไม่บอกกับเรา "มันเป็นเช่นนี้"
ข้อ 3 ดูแลห่วงใย เราห่วงน้องเค้าแน่นอน เอาเค้ามาดูแลแล้ว ได้กอดได้หอม ได้ทำอย่างอื่น ก็มีความผูกพัน ก็อยากให้เค้าได้ดี ให้ผ่านปัญหาต่างๆ ไปได้ เค้าไม่สบายอะไรขึ้นมาก็อดห่วงไม่ได้ พาไปหาหมอ พาไปซื้อยา พาไปจัดฟัน พาไปโบท๊อก พาไปบิวตี้คลีนิก
ข้อ 4 แม้ไม่ใช่ตัวจริงก็มีความจริงใจและซื่อสัตย์ต่อกัน
น่าจะถูกเพียงบางส่วน ความจริงใจ ก็มีบางเวลา จริงใจที่อยากให้เค้าสบาย จริงใจที่เห็นเธอมีความสุข แต่ก็ไม่จริงใจเมื่อเธอขอเงินเพิ่มเราก็ทำหน้าเหมือนเต็มใจจ่าย แต่ในใจอาจจะบ่นว่าเอาอีกแล้วเหรอ
ทางที่ดี ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเสียบ้าง ขอให้เค้าคบกับเราตามที่ตกลงกันเป็นพอ ไม่ใช่จ่ายครบตามเวลา แต่ถึงเวลาเจอไม่ว่าง ไม่สบาย กลับต่างจังหวัด ไปแคสงาน เพื่อนให้ไปช่วยทำรายงาน บลาๆๆ
ถ้าบ่อยเกินจะรับได้ก็ตัดใจปล่อย ถ้ายังรับได้ก็อยู่ต่อไป ไม่แน่ น้องเค้ามักจะไปจากเราก่อนที่เราจะปล่อย
เป็นเช่นนี้