ช่วงนี้งานชุก ไม่ได้ค่อยพาไอ้ตัวเล็ก ไปเที่ยว เบี้ยวทั้งทริปรัสเซีย และ ทริปมัลดีฟ เนื่องจากติดงาน
หนักมากเป็นเดือน ๆ จนมาถึงวัน พฤหัส ที่ผ่านมา นางก็มางอแง อยากไปเที่ยวอีก ก็เลยลองเช็คเวลา
ดู พอจะมีวันว่าง ที่พอแว๊ป ๆ ได้ ซัก 3-4 วัน ก็เลย จัดกระเป๋าลุยญี่ปุ่นกันคืนนั้นเลย ด่วนสุด ๆ แบบ
ไม่ได้เตรียมอะไร แวะเซ็นทรัลซื้อชุดใหม่ 3-4 ชุด แล้วไปรับนาง เดินทางเลย
ลุ้นสุด ๆ รถติดนรก ไปถึงยังต้องหาที่จอดรถอีก เกือบทำเอาตกเครื่อง ถึงญีีปุ่น คราวนี้ นางคล่องแล้ว
เดินเป็นผู้นำ พาผ่าน ตม. ผ่าุลกากร อย่างไว
วันแรกลุยท่องเที่ยวธรรมชาติ แถว ๆ ฟูจิ แต่เสียดาย วันนี้ ฟูจิขี้อาย ไ่ม่โผล่มาให้เห็นเลย อากาศ
หนาวได้ใจ แวะกินขนม ไอติม ของอร่อย ตลอดทริป โดยเฉพาะไอติม นางกินทุกที่ ทุกร้าน
นางขี้หนาว บ่นตลอดทาง ไม่ได้เตรียมชุดมากันหนาว ตะลอน จนจบวัน หมดแรง
วันที่สอง ขึ้นฟูจิชั้น 5 และ แวะหุบเขาอะไรซักอย่าง ลืมแหละ ที่มีไข่ดำ และ แวะนั้น แวะนี่ ตามจุด
ที่น่าสนใจ กินไอติม ขนม ของอรอ่ย ขึ้นชื่อ จนหมดวัน ได้ช็อปปิ้งกันพอประมาณ
กลับเข้าเมืองเตรียมตะลอนแรดในเมืองต่อ แวะ
เทศกาลดนตรี adm อะไรซักอย่าง มีสาว ๆ ญี่ปุ่น แต่งตัวน่ารัก เซ็กส์ซี่ โป๊ ๆ เพียบ ตาลายกันเลย
วันที่สาม ลุยในเมือง ไปฮาราจูกุ กันก่อนเลย กินขนม กินไอติม ไปดูแฟชั่น หาไอเดีย ได้มาเพียบ
แล้วก็ไปช้อปปิ้งต่อที่ชินจูกุ แต่ซื้อของได้ไม่ครบ เลยหาจาก google เลยไปนั่งรถไฟฟ้า
ไปนากาโน๊ะ ต่อ ไปถึงแต่ก็ได้อะไรไม่มาก ของก็ยังไม่ครบอยู่ดี แต่ก็ได้แวะกินราเม็งขึ้นชื่อแถวนั้น
เลยต้องไปโตเกียวต่อ แต่ก่อนออกจากนากาโน๊ะ งานเข้าเล็กน้อย สถานี ไม่มีภาษาอังกฤษ
ซื้อตั๋วกันไม่ถูก ต้องยืนรอจังหวะ ถามจากคนญี่ปุ่น แต่ปกติ ถ้าเรา
คุยภาษาอังกฤษ เค้าจะไม่คุยกับเรา กว่าจะมัดมือชกได้ซักคน เล่นเลย จนซื้อตั๋วได้ ไปลุย
โตเกียวต่อ หลังจากเสร็จ จะนั่งรถกลับโรงแรม สถานีใหญ่ ในเมือง มีภาษาอังกฤษ นี่สบายเลย
แต่พอขึ้นรถไฟได้ซักพัก จากที่คนนั่งเต็มรถ แน่นมาก แล้วก็มีประกาศ อะไรซักอย่าง ซักพัก คนลง
ทางรถ แทบหมด ไอ้เราก็ฟังไม่รู้เรือ่ง นั่งเอ๋อ ๆ งง ๆ อยู่ ซักพัก มีคนญี่ปุ่นใจดี เดินมาอธิบาย แต่
ด้วยความที่เค้าไม่เก่งภาษาอังกฤษ ก็ฟังได้แค่ว่า เซเว่น ๆ ๆ แค่นี้ มารู้ทีหลัง สรุปว่า น่าจะมีคนลง
ไปในทางรถไฟ ทำให้เกิดดีเลย์ขึ้น เค้าเลยให้เปลียนสายเดินทาง แต่เราจ่ายเงินไปแล้ว ด้วยความ
งก ไม่อยากเสียเงินอีกรอบ เลยรอ ประมาณ 30-40 นาที รถไฟ ก็เดินทางได้ปกติ ตอน 1 ทุ่ม
ของที่นั่น ทำให้รู้ว่า เซเว่น ๆ ที่คนญี่ปุ่น คนนั้น บอก คืออะไร
ลงรถไฟฟ้า ก็แวะทานเนื้อย่างชื่อดัง ของแถบนั้น ซึ่งปกติ นางไม่ทานเนื้อ แต่มาลองทานร้านนี้
ทำให้ต้องไปกิน 2 วันติด ๆ และนางก็ติดใจเนื้อมาก ซะด้วย
วันสุดท้าย ตื่นกันสายหน่อย เพราะขึ้นเครื่องตอนบาย ๆ เก็บของ แพ็คกระเป๋า แล้วตื่นไปหาอะไรกิน
แถวโรงแรม จากนั้น เดินทางไปสนามบิน เตรียมตัวกลับ
ระหว่างทาง ขึ้นเครื่อง แอร์ก็พูดอะไรซักอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่น ฟังออกแค่ "มังคุด" ไอ้เราก็ งง วันนี้จะมี
เสริฟของว่างเป็นมังคุดหรือไง ซักพัก มีภาษาไทยตามมา ว่าจะผ่าน เข้า ช่วงที่มีพายุมังคุด
เครื่องสั่นสะท้าน ลุ้นตัวโก่ง กันเลยทีเดียว แต่ก็เดินทางกลับมาถึงไทย ได้อย่างปลอดภัย
จบไปอีก 1 ทริป
