อ่านมาถึงตรงนี้ พอจะคิดได้ว่า สุดท้ายแล้ว คนที่จะตัดสินใจทำอย่างไร
ก็คือเจ้าของกระทู้นั่นแหละครับ คำแนะนำ หรือเหตุผลใดๆ ที่พี่ๆ น้องๆ มาช่วยกัน
แสดงความเห็น ความรู้สึก คงไม่ใช่ตัวชี้ชัดได้ว่าเจ้าตัวจะทำหรือ ทำได้หรือไม่
ผมชอบข้อความลิงได้เพชร กับไอน์สไตน์นะครับ เปรียบเทียบและชี้ประเด็นได้ดีทีเดียว
และผมมองไปข้างหน้า ผมก็เดาว่า ถ้าวันนึงน้องโดนกระทำจนสุดจะทน "กว่านี้" หรือ "คิดได้"
ว่าทนแล้วได้อะไร หรือจะด้วยเหตุผลใด น้องเค้าคงรู้ด้วยตัวเองว่า จะอยู่อย่างนี้ หรือ ฉันก็อยู่ได้โดยไม่มีเค้า
อยู่เพื่อเอาชนะ อยู่เพื่อหวังว่าใจจะเข้มแข็งพอที่จะไป หรืออะไรก็ตาม สุดท้ายผมก็เดาว่า " ไป" อยู่ดีครับ
ขอบคุณสำหรับความเห็นคุณพี่kaptanนะคะ ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจเข้ามาอ่านกระทู้เยอะขนาดนี้ ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาให้คำแนะนำนะคะ จริงๆคำตอบก็อยู่ในกระทู้แล้วพราะเราพิมพ์เองทั้งหมด ไม่ได้ไปหยิบยกจากที่ไหนมา แต่กลั่นออกมาจากความรู้สึกตัวเองทุกตัวอักษร ในวันที่ร้องไห้ครั้งสุดท้าย..
จากความเห็นของหลายๆท่านก็ชี้ให้เห็นคำตอบไปในทางเดียวกันหมด ซึ่งจะมีเพียงบางท่านที่อาจจะเข้าใจผิดในdetailsออกไปตรงกันข้ามกับความเป็นจริงเลย แต่น้องก็เข้าใจเจตนาดีจากทุกท่านเพราะสุดท้ายต่างให้คำตอบเดียวกัน
ถึงเวลานี้เรายังไม่ไปก็ไม่ใช่ว่าเราอยู่ แม้มีหนทางให้ไปได้อีกมากมายในเวลาเดียวกันนี้ แต่เรายังเลือกที่จะอยู่นิ่งๆตอนนี้ ไม่ใช่อะไร..แต่เพราะมัน"เหนื่อย".. (ยังไม่สามารถยกโทษให้ใครได้ในเวลานี้ และยังไม่สามารถอ่านข้อความใหม่ๆที่ติดต่อเข้ามาได้เหมือนกัน)
ถูกต้องค่ะที่เขาไม่ควรได้รับคุณค่าจากสิ่งที่เราทำให้
แต่เราไม่เคยเสียดายหรือเสียใจที่ได้ทำสิ่งดีๆให้ใครสักคน มันไม่ได้ลำบากหรือต้องรู้สึกอดทนอะไรถ้ามันคือตัวตนจริงๆของเรา จะมีเขาไม่มีเขาเราก็เป็นแบบนี้อยู่ดี คนที่ควรเสียใจคือคนที่พลาดสิ่งดีๆ ไม่ใช่คนที่ทำสิ่งดีๆ ยิ่งเรารู้จักหัวใจตัวเองมากเท่าไหร่ ยิ่งรู้ว่าเขาพลาดอะไรมากเท่านั้นๆ
ทางเลือกนี้อาจจะดูเหมือนเจ็บปวดปวด แต่บอกเลยว่าหลังก้าวขาออกไปแล้วจะรู้สึกโล่งมาก หากคุณมั่นใจว่าในเวลาที่มีกันอยู่นั้น คุณได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว จะไม่มีอะไรต้องคาใจหรือเสียดายอะไรเลยหลังจากวันที่ก้าวออกมา และเรื่องนี้ก็อาจเป็นCase studyให้หลายๆคนเชื่อได้ว่าสังคมยุคนี้
"คนดี อยู่ยาก"จริง!!! ต่อให้ Qualified ดี ผ่านเวทีความงามรับประกัน ทำดีให้ตายก็ไร้ค่า ถ้า
"ศิลไม่เสมอกัน"..