กลับจากไต้หวัน ไม่ถึงอาทิตย์ ทริปไต้หวันยังเขียนไม่ทันจบ T T
"พี่ ไปหาแม่หนูที่อเมริกากัน แม่ชวน"
"เอ่อ....."
"ลาต่อพี่พักร้อนเหลือกี่วันใช้ให้หมด ด่วนนนน"
2 อาทิตย์ทั้งจองตั๋วทั้งรวบรวมเอกสารทั้งเดินทางไปสัมภาษณ์ ทุกอย่างเร่งด่วนหมด
โชคดีที่ส่วนหนึ่ง มีแม่น้องเขาอยู่เลยสะดวกและเร็วพอสมควร สุดท้ายวีซ่าก็แปะที่พาสปอร์ตทั้งคู่
เดินทางงงง...(ลางานรอบที่ 3)
ขอข้ามตอนเดินทาง หมดสภาพ 555
คนที่มีความสุขที่สุดคือน้องเขา เพราะแม่เขามารอรับที่สนามบิน JFK
แม่ลูกเจอกันกอดกันกลม ทั้งๆที่แม่เขาเองก็เพิ่งมาไทยตอนงานแต่ง
"สบายดีนะ ดูแลลูกสาวแม่ดีหรือป่าว น้องเขางอแงมั้ย มากี่วัน จะไปไหนบ้าง หิวมั้ย ......ฯลฯ
สำหรับน้องเขามีความสุขที่ได้มาบ้านแม่ และตื่นเต้นกับการหาของกิน
พิซซ่า ร้านที่อร่อยสุดไม่ใช่ร้านที่มีโต๊ะนั่งกิน แต่เป็นร้านที่เรารับกล่องพิซซ่ามาแล้วมายืนกินกันหน้าร้าน ชีสยืดดดด ร้อนๆในวันอากาศหนาวๆ เป็นอะไรที่น้องเขามีความสุขมาก เคี้ยวแก้มตุ่ย ทำตาหยี
ฮ็อทดอกร้านรถเข็นหรือแบบรถยนต์เปิดข้าง มีหลายเจ้าหลายยี่ห้อ ราคาตามทำเล 555 ทำเลดีคนเยอะก็แพงหน่อย ประกอบง่ายๆ ด้วยขนมปังที่มีทั้งนุ่มและแบบแข็งๆ เกรียมๆ ขว้างแทนอาวุธได้ แต่ไส้กรอกที่นี่หลายเจ้าทำไมต้องยาวกว่าขนมปัง!! ผักบางเจ้าก็มีบางเจ้าก็ไม่มี งง....
สุดท้ายมีคนแย่งไส้กรอกไปกิน เหลือขนมปังให้พี่ไว้เป็นอาวุธป้องกันตัว
ร้านเบอเกอร์ Shake Shack ที่มีสาขาเยอะมาก พอๆกับ kfc บ้านเรา ตามจาก google map ได้เลยครับ (ไม่ได้ค่าโฆษณานะ 5555 ) สาขาไหนใกล้ก็แวะสาขานั้น ร้านประมาณเหมือนเบอเกอร์คิงส์บ้านเราน่ะครับ มีเซตแบบกินสองคนจุก แต่เนื้อเบอเกอร์อร่อยจริง เนื้อจะย่างแบบเกรียมๆ หอมๆ รสชาดเข้มข้น ส่วนไส้กรอกของฮ็อดดอก เนื้อสัมผัสอร่อยมากกก แต่โดนแย่งเหมือนเดิม...
halal food คือ อาหารฮาลาลของมุสลิมน่ะครับ ส่วนใหญ่เป็นร้านรถเข็นหรือรถที่เคลื่อนที่ได้ แต่จอดประจำ เอ๊ะ..ยังไงลักษณะเหมือนข้าวผัด ผัดร้อนๆแล้วตักใส่ถ้วยโบ๊ะเนื้อสัตว์เท่าที่มี จะเป็นวัว แกะ ยกเว้นหมู 555 ผักต่างๆ แล้วราดซอสมายองเนส กับซอสเค็มๆ ถ้วยหนึ่งเยอะมากกินสองคนไม่หมด รสชาติเหมือนข้าวผัดบ้านเราแต่เครื่องปรุงอาจจะสไตล์ฝรั่งเขา แต่ทานตอนร้อนๆ อร่อยดี......
มีอีกเยอะครับ เพราะส่วนใหญ่ผมกับน้องเขาจะชอบออกมาเดินเที่ยวกัน เดินทางไปโน่นมานี่ด้วยความหลงปนความวุ่นวายกับรถไฟฟ้าใต้ดิน อันขึ้นชื่อเรื่องความหนาแน่นยิ่งกว่าญี่ปุ่นอีก
แต่เราได้เรื่องความสะดวกเรื่องที่พัก เลยทำให้ค่อนข้างหมดห่วงเรื่องชองหาย
บางครั้งก็ไปทานร้านกับแม่น้องเขา หรือทำกินกันเองที่บ้านแม่น้องเขาบ้าง
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ สถานที่ไปก็หนีไม่พ้น เทพีเสรีภาพ ซีดี้พาร์ค และยูนิเวอร์แซล จริงๆมีน่าสนใจเยอะกว่านี้ แต่สามที่นี้เป็นที่ที่ถ่ายรูปแล้วบ่งบอกว่ามา นิวยอร์ค แล้วชัดเจนที่สุด เหมือนจุดแลนด์มาร์คเช็คอิน
แต่สิ่งที่มีความสุขคือ มีน้องเขาเดินข้างๆ ถึงจะบางครั้งพาหลงก็ตามแต่ 555 และยิ่งมีความสุขเมื่อเราเห็นเขาอ้อนแม่เขา เขาได้อยู่กับแม่ เขาได้ทำอาหารให้แม่ทาน และนอนกับแม่เขาจนวันกลับ ส่วนพี่นอนห้องเล็กคนเดียว 55 ไม่มีใครมานอนเบียด
สุดท้ายวันกลับ น้องกอดแม่เขาก่อนลานานมาก จนแม่ต้องบอกว่า “พอแล้วหายใจไม่ออก 555” แล้วแม่น้องเขาหันมากอดพี่พร้อมพูดมาประโยคหนึ่ง
“แม่ฝากดูแลน้องเขาด้วยนะ เขาลูกสาวคนเดียว ดื้อหน่อยแต่เขาน่ารัก น้องเลือกเธอ แสดงว่าน้องเขาก็มั่นใจมาก รักและดูแลกันนานๆ ว่างเมื่อไหร่ มาได้อีกนะ นิวยอร์ค ยินดีต้อนรับเสมอ”