เมียหลวง ... ชื่อนี้มีที่มา
คำว่าเมียหลวงก็เหมือนกับหลายๆคำในภาษาไทยที่ต้องมี "หลวง" มาเกี่ยวข้อง
ไปเปิดพจนานุกรมกันว่ามีอะไรที่ต่อท้ายด้วยคำว่าหลวงบ้าง ... ของหลวง บ้านหลวง รถหลวง ทุนการศึกษาหลวง ยาตำราหลวง ฯลฯ
"หลวง" โดยความหมายคือ เป็นของที่พระมหากษัตริย์ พระราชทานมาให้
แต่เมียนี่น่าจะเป็นข้อยกเว้นไหมครับ 555
ก็ผมหาของผมเอง ค่าใช้จ่ายในการหามา (acquisition cost) ก็เป็นของผม ตอนแต่งมา (installation cost) ก็เป็นของผม ตอนมาเป็นเมียผมแล้ว ค่าใช้จ่ายต่างๆเพื่อให้ทำหน้าที่เมียได้ (operating cost) และ ค่าบำรุงรักษาซ่อมแซมยามเจ็บไข้ได้ป่วย (Maintenance cost) ก็ของผมอีก (ยังไม่นับค่าแพคเกจทำสวย ศัลยกรรมต่างๆ อื่นๆ อีกมากมาย)
หลวงไม่ได้ออกสักแดงเดียว (สมมุติว่าผม และ เมีย ไม่ได้รับราชการ) แล้วทำไมมาเรียกเมียผมว่า "เมียหลวง" ควรจะเรียกว่า "เมียผม" ถึงจะถูก
ผมก็ไม่มีคำตอบหรอก แต่ไพล่ไปนึกถึงหนัง 2 เรื่อง ที่น่าจะบอกประวัติศาสตร์ของคำว่า เมียหลวง
braveheart ... พ่อยอดขมองอิ่ม นัยตาสุดเอ๊กซ์ เมล กิ๊บสั้น (ขอให้สั้นแต่กิ๊บ อย่างอื่นอย่าสั้นนะ) เป็นดารานำฝ่ายชาย ส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องคือ ขุนนางอังกฤษที่ได้อำนาจปกครองจากกษัตริย์ไปปกครองท้องถิ่นห่างไกล มีอำนาจอนุญาติ หรือ ไม่อนุญาติ ประชากรในปกครอง เอากัน เอ๊ย แต่งงานกัน อีทีนี้ก็เหมือนหนังทั่วไป (และชีวิตจริง ฮือๆ) ที่ผู้มีอำนาจมากก็มักจะใช้อำนาจในทางที่ผิด กล่าวคือ ขุนนางตัวร้ายมีคำสั่งจะเปิดซิงว่าที่เจ้าสาวทุกคนที่อยากจะแต่งงาน ... ว้าววววว ... ที่เหลือไปหาดูเอาเอง เดี๋ยวจะสปอย์หนัง
bridgerton ... เรื่องนี้ก็คล้ายๆกับเรื่องแรก คือ มีตอนหนึ่งที่แสดงให้เป็นว่า พระราชินีต้องอนุญาติให้แต่งงาน ถึงจะแต่งงานกันได้ พระเอกกับนางเอก ต้องเข้าไปพูดให้พระราชินีเชื่อว่ารักกันจริง ถึงได้รับพระบรมราชินุญาติ (สะกดถูกไหม ไม่รู้นะ) ให้เอากันได้โดยบริดวก
จะว่าไปก็แปลกดี ไม่รู้ว่า เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ฝรั่งเศษ ฯลฯ จะเป็นแบบนี้ไหม
กลับมาดูบ้านเราบ้าง ...
จะเห็นว่าเราก็มีอะไรที่คล้ายๆกัน สมัยหนึ่ง คนไทยจะออกเรือน และ เอากันแบบให้เป็นทางการ ก็ต้องขออนุญาติพระมหากษัตริย์เช่นกัน
แน่นอนว่าสมัยนี้คงไม่มีธรรมเนียม ประเพณี กฏหมายอะไรทำนองนี้อีกแล้ว
ใครใคร่แต่ง แต่ง ไม่ใคร่แต่ง ก็ไม่แต่ง ไม่ต้องขออนุญาติใครอีกแล้ว
ว่าแต่ วาเลนไทม์นี้ จะมีใครขอใครแต่งไหมครับ
neminem
