ผู้เขียน หัวข้อ: ทำแท้ง กับ การุณยฆาต ... สิทธิ หรือ ทางเลือก (ของใคร) ... Tabu ของสังคมไทย  (อ่าน 2176 ครั้ง)

neminem

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
  • People Like This 6
ช่วงนี้ติดซีรี่ย์เกาหมี เอ๊ย เกาหลี อย่างเมามัน เรื่องที่กำลังดูชื่อ Dr. John (แต่ยังดูไม่จบ ... ห้ามสปอยล์ ... โกรธจริงน้าาา)

พระเอกเป็นหมอดมยา (วิสัญญีแพทย์) มือฉมัง ที่เชี่ยวชาญเรื่องศาสตร์ระงับความเจ็บปวด (Pain management) แต่พระเอกเป็นโรคประหลาดอย่างหนึ่ง ชื่อ อะไรช่างมัน แต่อาการ คือ ไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกทางกายได้เลย คือ ไม่รู้อุณหภูมิ ไม่รู้ความเจ็บปวด ทั้งภายนอกและภายในร่างกาย

ฟังดูขัดๆกันเนอะ เอาล่ะ ซีรี่ย์ ก็คือ ซีรี่ย์ ... ละคร ก็คือ ละคร

แกนกลางของซีรี่ย์อยู่ที่ "การการุณยฆาต" ... ซีรี่ย์ให้มุมมองที่น่าคิด (โดยไม่ตัดสิน) ในหลายๆมุม

- เป็นทางเลือกหรือไม่ ถ้าเป็น เป็นทางเลือกของใคร

- เป็นสิทธิ์หรือไม่ ถ้าเป็น เป็นสิทธิ์ของใคร

- Stakeholder คือ ผู้มีส่วนได้เสีย ได้รับผลกระทบ มีใครบ้าง วงในสุดก็ตัวผู้ป่วยเอง วงถัดมา พ่อ แม่ คู่สมรส ลูก สังคม ประเทศ ที่สำคัญคือ ใครควรคิดถึงหัวอกใคร ในซีรี่ย์ บางทีก็เรียกร้องให้ผู้ป่วย คิดถึงคนข้างหลัง บางทีก็เรียกร้องให้คนข้างหลังคิดถึงผู้ป่วย บางทีก็ให้ทั้งผู้ป่วยและญาติ คิดถึง กฏหมาย และ สังคมในรุ่นต่อมา ฯลฯ ตดลงมันเรื่องของใคร (หรืออะไร) กันแน่

- การ "ไม่ทำ" ถือว่าเป็นการ "ทำ" ได้หรือไม่ ในซีรี่ย์ บางทีก็ได้ บางทีก็ไม่ได้

- ใครควรเป็นคนตัดสินใจให้ทำ ใครควรเป็นคนทำ คนตัดสินใจให้ทำ กับคนลงมือทำต้องเป็นคนๆเดียวกันไหม ถ้าจำเป็นต้องเป็นคนๆเดียวกัน ทำไมล่ะ ทำไมเป็นคนล่ะคนไม่ได้ ในหลายกรณี คนตัดสินใจทำ ไม่สามารถลงมือทำได้ ฯลฯ

- ต่อจากประเด็นที่แล้ว คนตัดสินใจทำ และ ลงมือทำ จำเป็นต้องเป็นแพทย์ หรือ ไม่ ถ้าจำเป็นต้องเป็นแพทย์ คำถามต่อมาคือ ทำไม ใครให้สิทธิ์นี้กับแพทย์

- สังคมใช้มาตราฐานไหนอะไร โดยกลุ่มคนไหน มาตั้งกฏเกณฑ์ กลุ่มคนที่ตั้งกฏเกณฑ์เคยมีประสบการณ์เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้ายไหม ถ้าไม่ ทำไมเอาคนไม่มีประสบการณ์จริงตรงมาร่างกฏเกณฑ์พวกนี้ให้คนที่เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้ายต้องทำตาม

- ฯลฯ จำมาได้ประมาณนี้

... สิ่งที่เกิดในซีรีย์ ไม่ใช่เป็นคำตอบสุดท้าย ... แค่ชวนให้คิด

ผมเองเคยมีประสบการณ์เยี่ยมผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายจำนวนหนึ่ง ในจำนวนนั้น มีพี่สนิทกันคนหนึ่งที่กำลังจะจากไป

ในวันท้ายๆของพี่คนนี้ ผมไปเยี่ยมอีกหน แกพูดติดตลกว่า ตอนนี้แกเข้าใจแล้วว่าทำไมหน้าต่างห้องตึกผู้ป่วยระยะสุดท้ายต้องมีลูกกรง แกบอกว่า ตอนที่หมอไม่ให้ยาแก้ปวดแล้ว อยากจะตายๆไป จะได้จบๆ

ประจวบเหมาะกับเร็วๆนี้ เราได้มีการแก้ไขกฏหมายทำแท้ง เท่าที่ทราบเป็นการแก้ไขกฏหมายที่ใช้เวลานานมาก เป็นประเด็นที่ซุกอยู่ใต้พรมมาตลอด

ถึงแม้ว่าแก้ออกมาแล้วจะไม่ได้อย่างใจใครหลายคน แต่ส่วนตัว ผมคิดว่าาก็ได้มาเยอะอยู่จากฉบับก่อนหน้า

ซึ่งเมื่อแอบเอาคำถาม ประเด็น เรื่องการุณยฆาตไปเทียบเคียง (analog) แล้ว ก็จะเห็นว่า มีประเด็นมากมายที่สามารถถกกันได้

ประเทสไทย ยังไม่มีกฏหมายเรื่องการการุณยฆาต ด้วยเหตุผลนานา แต่ประเทศเรามีกฏหมาย “พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๐” ที่ให้เราแสดงเจตจำนงไม่รับการรักษาทางการแพทย์ (living will)

สามารถค้นคว้าเพิ่มเติม แบบฟอร์ม และ ดูตัวอย่างเจตนาของบุคคลสำคัญๆ ได้ที่ https://www.thailivingwill.in.th/

เจตจำนงไม่รับการรักษาทางการแพทย์นี้ อาจจะไม่ตอบโจทย์ 100% ในแง่การ การุณยฆาต แต่ก็ถือว่า ดีกว่าไม่มีอะไรเป็นหลักประกันเลยว่าเราจะได้จากไปอย่าง มีศักดิ์ศรี ด้วยการรักษาพยาบาลที่เคารพในเจตจำนง คุณค่า และศรัทธาของผู้ป่วย

แค่นี้ดีกว่า เดี๋ยวจะซีเรียสมากไป ไปดู Dr. John ต่อดีกว่า :)

Monin_II

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 129
  • People Like This 115
เป็น"สิทธิ์" ตามกฎหมาย
ที่ไม่มีใครอยากได้​
ไม่มีใครเรียกร้อง

สถานการณ์​ตรงนั้นเรามองว่าเป็นทางเลือกสุดท้าย
ซึ้งใครจะเลือ​ก​ ใครจะเห็นชอบด้วยไหม
สุดท้ายก็วนมาที่คำว่า"สิทธิ์"
สิทธิ์ของเจ้าของร่างกาย
ที่กฎหมายยินยอม
แต่การทำแท้ง​ เราก็อยากรู้
ว่าเด็กเองมี"สิทธิ์" ที่จะตัดสินใจเลือกไหม
(เราเข้าใจได้ถ้ามีเหตุอันควร)​
ไอ่ที่ไม่พร้อม​ แต่อยากสนุกอันนี้
มันก็แล้วแต่จริยธรรม​ สามัญสำนึก

กฎหมายแบ่งเป็น2แบบค่ะเท่าที่เคยอ่าน
สำหรับการรุณยฆาต
1การยินยอมให้แพทย์หรือผู้อื่นที่ได้รับอนุญาต

2การยุติชีวิตด้วยตัวผู้ป่วยเอง​ จะให้ยา​
หรือการกระทำกับเครื่องมือเช่นการกดปุ่มสั่งยา

มันมีขั้นมีตอน
ตั้งแต่คุยกับผู้ป่วยด้วยจิตแพทย์
และหมอประจำตัวคนไข้​ การเชิญครอบครัว
มาพูดคุย​ สุดท้ายเค้าจะเคารพสิทธิ์
เคารพการตัดสินใจของผู้ป่วย
(ไม่เป็นเค้าเราไม่เข้าใจ)​
มีหลายเคสในต่างประเทศที่เรียกร้อง
การจบชีวิต​ หมอจะพิจารณาตามอาการค่ะ

"การฆ่าคนไข้ ผมทำให้ความเจ็บปวด
และทุกข์ทรมานของเขาสั้นลง"
คำกล่าวของหมอ

"เราทุกคนต่างต้องตาย และฉันมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องการจบชีวิตลงอย่างมีคุณภาพ"
คำกล่าวของคนไข้

ถึงตอนนั้นถ้าเป็นเรา
ก็ไม่รู้เหมือนกัน
ว่าอยาก"ใช้" หรือ"ปฏิเสธ" สิทธิ์​นั้น

ปล.เราไม่เคยดูซีรีย์เรื่องนี้
เราแค่เคยดูสารคดี​ และอ่านๆมา
เราเข้าใจคนไข้​ เราเข้าใจหมอ
แต่ไม่เคยเข้าใจแบบลึกซึ้งสักที






|♤|♤|♡ กลีบอูฐ__แท้ :3

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,184
  • People Like This 262
  • Do what makes you happy and what you love.
ขอ ละเมิดสิทธิ์ความเป็นส่วนตัว     **13** **13** **13** **13** **13**

แอบ ติดตาม  อ่านอยู่แบบเงียบๆได้มุ้ยคะ   **25**

 **08** **09** **08** **09**
• มียูส&ไลน์เดียว และไม่พร้อมจะคุยกับตะกวดและคน torlae •
-- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- -- --
คติประจำใจ : ค.ว.ย.
( คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ) = กาลามสูตร

♤•♤•♤Timing is a bitch, yes. But it's only a bitch if we let it be. ♤•♤•♤
• น่ารัก เรียบร้อย พูดน้อย กินจุ •
 ~> แรงมา แรงกลับ ไม่โกง <~

neminem

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
  • People Like This 6
เป็น"สิทธิ์" ตามกฎหมาย
ที่ไม่มีใครอยากได้​
ไม่มีใครเรียกร้อง

สถานการณ์​ตรงนั้นเรามองว่าเป็นทางเลือกสุดท้าย
ซึ้งใครจะเลือ​ก​ ใครจะเห็นชอบด้วยไหม
สุดท้ายก็วนมาที่คำว่า"สิทธิ์"
สิทธิ์ของเจ้าของร่างกาย
ที่กฎหมายยินยอม
แต่การทำแท้ง​ เราก็อยากรู้
ว่าเด็กเองมี"สิทธิ์" ที่จะตัดสินใจเลือกไหม
(เราเข้าใจได้ถ้ามีเหตุอันควร)​
ไอ่ที่ไม่พร้อม​ แต่อยากสนุกอันนี้
มันก็แล้วแต่จริยธรรม​ สามัญสำนึก

กฎหมายแบ่งเป็น2แบบค่ะเท่าที่เคยอ่าน
สำหรับการรุณยฆาต
1การยินยอมให้แพทย์หรือผู้อื่นที่ได้รับอนุญาต

2การยุติชีวิตด้วยตัวผู้ป่วยเอง​ จะให้ยา​
หรือการกระทำกับเครื่องมือเช่นการกดปุ่มสั่งยา

มันมีขั้นมีตอน
ตั้งแต่คุยกับผู้ป่วยด้วยจิตแพทย์
และหมอประจำตัวคนไข้​ การเชิญครอบครัว
มาพูดคุย​ สุดท้ายเค้าจะเคารพสิทธิ์
เคารพการตัดสินใจของผู้ป่วย
(ไม่เป็นเค้าเราไม่เข้าใจ)​
มีหลายเคสในต่างประเทศที่เรียกร้อง
การจบชีวิต​ หมอจะพิจารณาตามอาการค่ะ

"การฆ่าคนไข้ ผมทำให้ความเจ็บปวด
และทุกข์ทรมานของเขาสั้นลง"
คำกล่าวของหมอ

"เราทุกคนต่างต้องตาย และฉันมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องการจบชีวิตลงอย่างมีคุณภาพ"
คำกล่าวของคนไข้

ถึงตอนนั้นถ้าเป็นเรา
ก็ไม่รู้เหมือนกัน
ว่าอยาก"ใช้" หรือ"ปฏิเสธ" สิทธิ์​นั้น

ปล.เราไม่เคยดูซีรีย์เรื่องนี้
เราแค่เคยดูสารคดี​ และอ่านๆมา
เราเข้าใจคนไข้​ เราเข้าใจหมอ
แต่ไม่เคยเข้าใจแบบลึกซึ้งสักที

ขอบคุณความเห็นที่มากมายและมีคุณค่าครับ :)