โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่ายังห่างไกลกับคำว่า "ปกติ" อีกมากกกกก. . . ไม่ว่าจะด้านของเศรษฐกิจ, การเดินทาง, หรือด้านของวัคซีนก็ตาม เรียกได้ว่า ยังมองไม่ออกเลยว่าทิศทางของโลกจะไปในทิศทางใด ความแปรผันยังคงอยู่ในระดับสูง.
รัฐบาลของแต่ละประเทศทุ่มเงินไปกับสถานการณ์โควิคไปในระดับที่สูงมาก จนอาจจะเรียกได้ว่า ตัวเลขในบัญชีแทบจะติดลบไปตามๆกัน . . .คิดอย่างง่ายๆ จะเอาส่วนไหนมา คืนกองคลังของแต่ประเทศ แน่นนอน คำตอบคือ ภาษีประชาชน ไม่ว่าจะ ทางตรง หรือ ทางอ้อม . . . คำถามคือ พี่ๆ กล้าใช้เงินแบบยุคก่อนโควิคหรือไม่ . . .โดยเฉพาะพี่ๆ ที่มีครอบครัว?
แต่อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดการณ์กันว่า ผู้คนคงอัดอั้นกับการอยู่กับที่มานานมาก เพราะฉะนั้น ธุรกิจการท่องเที่ยว น่าจะบูมถึงบูมมาก ในระยะเวลาอันใกล้นี้ . . . แต่ถามว่าคนจะกล้าใช้จ่ายหรือไม่ เพราะ มันก็จะวกกลับมาในประเด็นแรก คือ เงินในกระเป๋ายังคงไม่มั่นคง
ในขณะที่วัคซีนผมคิดว่าเป็นการยากมากที่คนไทยทุกคนจะได้วัคซีน ครบ 2 เข็ม ภายในปีนี้ (หรือปีหน้าๆ) . . . แม้แต่ประเทศอังกฤษเองก็ตาม
คิดแล้วก็ เฮ้ออออออออ . . . ประเทศไทยดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ลึกๆแล้ว น่าเป็นห่วงครับ ในเมื่อรายได้หลักของประเทศมาจากการท่องเที่ยว และส่งออก เราไม่มีทางรู้เลยว่าแต่ละประเทศเค้าวางนโยบายไว้อย่างไร . . .เช่น ล่าสุดประเทศอังกฤษออกกฎหมายออกมา ห้ามคนในประเทศเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่มีเหตุจำเป็น สาเหตุก็เพราะ เค้าต้องการให้เงินหมุนเวียนอยู่ในประเทศ
ปล. น้องๆคนไหนที่มีพี่ดูแลดีๆอยู่แล้ว ก็รักษาไว้ให้ดีนะครับ. . .
เห็นด้วยครับว่า สถานการณ์คงยังไม่กลับมาปกติในปีหน้า
น่าจะอีก 2-3 ปีเป็นอย่างน้อย
ตอนนี้ก็เที่ยวในประเทศไปพลางๆ ก่อน
เป็นการช่วยให้เงินหมุนเวียนอยู่ภายในประเทศ
เศรษฐกิจไทยคงซึมยาว จากภาคการท่องเที่ยวที่หายไป
ยังงัยก็บริหารการเงินกันให้ดี ๆ นะครับ
สู้ ๆ กันต่อไป