ผู้เขียน หัวข้อ: วันที่เราร้ายใส่กันจนสุด  (อ่าน 2876 ครั้ง)

wildcard

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 82
  • People Like This 6
วันที่เราร้ายใส่กันจนสุด
« เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2021, 08:36:42 PM »
หลังจากที่ทะเลาะกันรุนแรง และไม่มีทีท่าว่าจะจบ
พาให้พี่กับหนูมา ณ ที่โรงแรมม่านรูด
หนู หญิงสาวในวัยยี่สิบปลาย นั่งอยู่ปลายเตียง ทำหน้าสงสัย จึงเอ่ยถามเมื่อมาถึง
ทำไมพี่ไม่พาหนูไปที่บ้านพี่ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ทำไมพามาที่โรงแรม?

คำว่าบ้าน มันคงมีนัยยะซ่อนอยู่ มากกว่าการจะเป็นที่ที่เราเจอกันในวันนี้
บ้าน สำหรับพี่ มันคือ สถานที่พักอาศัย มันคือที่สำหรับคนในครอบครัว
ที่สำหรับคนที่รักกัน มันจึงไม่แปลกอะไร ที่ที่ผ่านมา พี่ถึงให้หนูไปที่บ้าน ตลอดมา

...แต่วันนี้ เราเจอกันมันกลายเป็นธุรกิจไปแล้วหรือเปล่า
ในเวลาสองเดือนหลังมา อะไรๆ มันทำให้รู้สึกว่า
หนูเองก็สนใจแต่การขอเงินไปใช้ในธุระของหนู แล้ววันที่เราไม่คุยกันเรื่องเงิน หนูก็ไม่มีเรื่องคุย
พี่เอง ก็กลายเป็นไอ้หนุ่มบ้ากาม ที่ต้องมาถามว่า เมื่อไหร่เราจะกลับมานอนกัน
เราไม่ได้รักกันเหมือนวันก่อนๆ หรือเปล่า
เราไม่ได้มาทำแบบนี้ด้วยความรู้สึกที่ดีแบบที่เคยหรือเปล่า
มันคือเหตุผลที่พี่เลือก โรงแรม แทน บ้าน อย่างที่มันเคยๆเป็น

..........................................................................................

ย้อนหลังกลับไป ราวๆ 14 เดือนก่อน สมัยเริ่ม Covid-19 crisis
จากที่เข้ามาโพสแล้วเธอก็แอดมา
มันเป็น 14 เดือนของการเรียนรู้


ที่เธอแอดมา ก็คือหาคนดูแล แต่เธอกลับไม่ค่อยสนใจ จะอ่านไลน์ จะตอบไลน์ หรือต่อรองเงื่อนไข หรือแม้กระทั่งนัดเจอ
จนชักไม่แน่ใจว่า เธอมีตัวลือกเป็นคนอื่นนอกจากเรามั้ย
ข้ออ้างของเธอคือโควิท ร้านปิด ไม่มีที่ไป
ที่แน่ๆ ทักมา เราตอบปุ๊บ เธอหายปั๊บ ไม่ว่าเราจะตอบเธอได้แค่ในอึดใจ
แต่ที่แน่ๆ
จบเดือนแรกไป โดยได้รู้เลยว่า อยากจะคุยกับคนนี้คนเดียว อยากให้เธอตกลงไม่ว่าเงื่อนไขเป็นยังไง
เรียกว่า ชอบเธอตั้งแต่แค่เธอแอดมาแล้วไม่ทักแล้ว

ถึงแม้ว่าจะตอบไลน์น้อย แต่เราก็คุยกันทุกวัน
รู้จักกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ เบอร์โทร ที่ทำงาน เวลาทำงาน เรียนอะไรมา พี่และน้อง พ่อแม่
จนเราค่อยๆได้เจอกันเรื่อยๆ แต่เวลาที่เราเจอกัน มากสุดก็ 40 นาที สั้นสุดก็ 10 นาที
ความที่เราชอบเค้าไปแล้ว และเค้าเดือดร้อน เราเริ่มโอนเงินไปช่วย นิดๆหน่อยๆ
จนเดทแรกของเราแบบมีเวลาจริงๆจังๆ และได้กินข้าวด้วยกัน เริ่มต้นขึ้นในสิ้นเดือนนี้
เดือนที่สอง ได้เรียนรู้ว่า มันใช่แล้ว ต้องเธอคนนี้แหละ ที่เราจะรัก

จากเดทที่ 1
เดือนถัดมา
เรารู้จักกันมากขึ้น รู้จักที่ทำงาน รู้จักบ้าน รู้ว่าเคยเรียนที่ไหน หรือเรียกว่าแทบจะทุกอย่างหล่ะ
คุย เรายังคงคุยกันบนสเตปเดิมคือ มาๆหายๆ แต่คุยกันทุกวัน ตลอดมา
เจอ ไม่มีการเจอกันเกิดขึ้นในเดือนนี้ และเริ่มทะเลาะกันบางๆ
ช่วยเหลือ พอทะเลาะกัน ก็ไม่ได้ช่วยหรือซัพพอร์ตอะไร
เราเริ่มได้ถกกันบ้างว่าปัญหามันคืออะไร และทางออกคือการแยกออกมาอยู่
เราเริ่มมองหา คอนโด ที่เราจะสะดวกกันทั้งสองฝ่าย
จากการหาคอนโดอยู่ เราตกลงกันในการหาโรงแรมให้เธอนอน 1 คืน แล้วปิดวันด้วยการเท
หายตัวไป ไม่ยกเลิกนัดซํกคำ จนต้องทะเลาะกันยาวๆ รุนแรง และแทบจะทั้งคืน
ปิดท้ายเดือนด้วยการไม่เจอกัน แบบงงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นในความสัมพันธ์ที่ไม่เดินหน้า
วันเกิด เธอดูปลื้มใจกับของขวัญที่ส่งไปเซอร์ไพรส์นะครับ
และเดือนที่สาม เรียนรู้ว่า แม้ในวันเทศกาล สำคัญเช่นวันเกิด ก็ไม่มีสิทธิอยู่ด้วยกัน

ลงแล้ว ยังลงออก
ความสัมพันธ์ค่อยๆร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้เราคุยกันน้อยลงไปอีก หายบ่อยลงอีก
ถ้าจะคุยกันยาวหน่อย มีเรื่องเดียวคือความเดือดร้อนของเธอ
แต่เราแทบไม่เคยได้คุยเรื่องสถานะของเรา
ไม่มีการตกลงเรื่องการดูแล อย่างเช่นวันแรกที่เราเคยได้คุยบ้าง
มันกลายเป็นความต้องการฝั่งเดียว ที่เราไม่น่าจะโอเคเลย
ความสัมพันธ์ยังไม่เดินหน้า แล้วเราควรซัพพอร์ตต่อไปเรื่อยๆเหรอ อันนี้เราคิด
มีแต่ปัญหาๆๆ แล้วจะว่างมาเจอได้ยังไง อันนี้ที่เธอบอก
เดือนที่สี่ เรียนรู้ว่าเธอนั้นแปลกมาก ไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าต้องการอะไรกันแน่

แม้เรายังคงคุยกันทุกวัน
แต่เมื่อมันกลายเป็น วันๆต้องฟังแต่ความเดือดร้อนของเธอ และความสัมพันธ์ที่ไม่ยอมเดินหน้า
อย่าว่าแต่เดินหน้าเลย ต้องบอกว่าหลังจากเดทแรก เราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย
อยากจะอุทานในใจว่า อิหยังวะ แต่อุทานไม่ออก
มันเริ่มจะช้ำใจ เพราะเหมือนจะหลงรักเธอไปแล้ว และตอนนี้ ก็ไม่ได้คุยกับใครแล้ว
แต่ยิ่งต้องการเธอเท่าไหร่ มันก็ยิ่งห่าง
เดือนที่ห้า เรียนรู้การหักห้ามใจตัวเอง ขอหายไปจากชีวิตเธอ

ความพยายามหายไปจากชีวิตเธอ ของเรา
ถูกตอบสนองจากเธอด้วยการ เงียบสนอง
ตอนนี้เหมือนต้องทำใจ ว่า มันคงต้องจบแล้วแหละ ความสัมพันธ์แบบนี้ใครจะโอเค
และเธอก็ไม่ได้มีท่าที่จะง้อใดๆ
หายกันไป ราวๆ สิบวัน เธอก็ทักมาจนได้ เมื่อเธอไปแอบเห็นเรา Check in ที่ โรงพยาบาล ใน Facebook
แล้วมาพร้อมประโยคว่า ขอโอกาสนะ จะแก้ไข จะปรับปรุงตัว
เดือนที่หก เรียนรู้ว่า การไม่มีเธอ มันโคตรเหงา และโคตรทรมาน

เรากลับมาคุยกันมากขึ้น
และเราได้ตกลงกันมากขึ้นว่าความสัมพันธ์เราควรไปแบบไหน และจะให้ช่วยเหลือกันแค่ไหน
เดทที่สองเราก็เกิดขึ้นจนได้ หลังจากที่มันหายไปนานมาก
เราเรียนรู้กันมากขึ้น จนคิดว่าเราเข้าใจกันดีแล้ว
ความสบายใจค่อยๆดีขึน ความไว้ใจกำลังมา การจ่ายค่าขนมรายเดือนก็เกิดขึ้น
สถานะเดือนนี้
คุย คุยกันเยอะขึ้น และไม่ค่อยหายไปไหน
เจอ หลังจากที่เจอกันเป็นเดทสอง แล้วมันก็ทำท่าจะหายไปอีก
เดือนที่เจ็ด คงต้องเรียนรู้ว่า บางที มันก็แค่มุขตลก เอาเงิน ไม่ได้คิดจะมีความสัมพันธ์ใดๆ

เหตุผลที่ให้มาตลอด ที่เราไม่เคยมีอะไรกัน คือเธอขอว่าไม่ไปโรงแรม แบบโรงแรมไม่ไป
ถ้ามีเหตุผลในการไปไกลๆ แล้วอยู่ด้วยกัน จะมีไรกัน มันก็มี

แต่จากท่าทางที่กำลังจะหาย เหมือนการขับรถหลับใน แฉลบลงข้างทางกำลังจะลงเหว แล้วก็สะดุ้งตื่น
ทุกอย่างกลับตาลปัตร เราเจอกันถี่มาก ถี่จนหน้าตกใจ
การขอความช่วยเหลือจากเธอน้อยลง สวนทางกับความสัมพันธ์
จากการเจอกันบ่อย ส่งผลให้มีเวลาศึกษาเรียนรู้กันจริงๆจังๆ
การเรียนรู้กัน ก็ทำให้สนิทใจมากขึ้น ความรู้สึก ความสัมพันธ์กลับมาอยู่บนเส้นทาง
แถมด้วยอาการความเป็นเจ้าของ เช่น ตาม เช็ค โทรมาบ่น จิกเวลาหายไป
เจอกันทุกวันก็มี วันนึงเจอกันสองหนก็มี ไปต่างจังหวัดก็มี และแทบไม่เคยเบี้ยวนัดเลย แถมด้วยการอ้อนให้ไปหา
ปิดเดือนนี้ ด้วยการ ให้เธอมีส่วนร่วมกับชีวิตจริงๆมากขึ้น ด้วยการพาเธอเข้าบ้าน
เดือนที่แปด ได้เรียนรู้ว่า การมีเธอจริงๆในชีวิต มันมีความสุขมาก และรู้ว่า เธอจะยุ่งแค่ไหน เราก็คุยกันว่าละ 3-400 ข้อความสบายๆ

เธอเริ่มจะเข้าบ้านเราได้แบบปกติมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากจะคุยกันเยอะๆ ทุกวัน
ค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้ช่วย
เรายังเจอกันเรื่อยๆ
ในช่วงนี้ มีคำถามว่า จะรับเธอได้มั้ยนะ เธอจน
จะรับบ้านเธอได้มั้ย ที่บ้านธรรมดา ไม่มีอะไรนะ
จบคำถามด้วยรอยจูบ อันดื่ม และจบที่ความสัมพันธ์บนเตียงนอน
แล้วทุกอย่างก็ยังเดินหน้าต่อไป แบบคนรักกัน
เคืองเบาๆนะ วันเกิดพี่ เธอเบี้ยวเฉย เพราะป่วย แต่ช่างมัน
เดือนที่เก้า เรียนรู้ และต้องเชื่อเลยว่า คนอินดี้ๆ โลกส่วนตัวสูงแบบเธอ จริงๆถึงเวลาหวาน นี่โคตรหวานเลย

ความสนิทใจขึ้นสูงสุด เรารู้จักและไว้ใจกันขนาดสามารถแอดกันบน Social Network ทั้งหลายได้
เธอยังเป็นส่วนหนึ่งของบ้านพี่เสมอ ว่างๆก็มาหาแบบปกติมาก
และยังสามารถเอารูปขึ้น Facebook เช็คอินได้
แต่ อาการก็เหมือนจะเปลี่ยนอีก เราเจอกันน้อยลง แบบแปลกๆ
ซึ่งการที่จู่ๆมันน้อยลงไป และพี่เสพย์ติดการมีเธอไปแล้ว ก็เริ่มเป็นฝ่ายชวนทะเลาะ
เดือนที่สิบ เรียนรู้ว่า แค่พ.ศ.เปลี่ยน อาการก็เปลี่ยนได้ เหมือนฤดู

ไม่ใช่แค่น้อยลงแล้ว กลายเป็นการเจอกัน เท่ากับศูนย์ ไม่เจอกันเดือนครึ่ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เจอกันอาทิตย์ละสองสามหน คืออะไร
คำตอบคือ ยุ่ง เครียด ติดงาน พ่อ แม่ พี่ ป่วย และอีกสารพัด
จากการทะเลาะกันค่อนข้างรุนแรง กลายเป็นคนไม่คุยกันในที่สุด (อะไรวะนี้ มันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ขนาดนี้)
ที่สอง ที่เราไม่คุยกัน และมันนานขึ้นกว่าหนแรก
ตามด้วยการอันเฟรนด์ Facebook ไป
บางที ก็อยากให้บอกนะ ว่าทำไมมันถึงตัดกันขาดขนาดนี้
เมื่อไม่มีการคุยกันเกิดขึ้น คิดว่าสถานการณ์น้ ใครจะอยู่ไม่ได้ก่อนกัน
เดือนที่สิบเอ็ด เรียนรู้ว่า เธอคือทั้งหมดของใจเลย การไม่ติดต่อกัน มันทรมานมาก
.
.
..
.
.
.
.
.
14 วันผ่านไป ที่พี่ทนไม่ไหว จนต้องทักเธอไปเอง
ปรับความเข้าใจกัน
คุยปัญหากัน ซึ่งพี่ก็พร้อมจะซัพพอร์ต
หนักหน่อย เยอะหน่อย แต่ก็ซัพพอร์ตแหละ
เราก็ได้กลับมาเจอกันอีก แล้วก็ใช้จ่าย ซื้อของตลอด
 
แต่สิ่งที่มันหายไป เธอไม่พร้อมจะเข้าบ้านพี่อีกแล้ว
เวลาที่เจอกัน เจอกันเพื่อซื้อของ เจอกันเพื่อธุระของเธอ
บอกตรงๆวันมันโคตรแย่เลย
จนกระทั่งทนไม่ไหว เราก็ทะเลาะกันบ่อยขึ้น แรงขึ้น
ในวันที่เราทะเลาะกันแรงสุด เธอก็ไปขอเงินพี่ชายมา แล้วโอนมาคืน
แล้วขอให้เราจบ
เดือนที่สิบสอง เรียนรู้จากคำพูดคำเดียว ในวันที่เธอโอนเงินมาคืนแล้วจบกันไปแล้ว ว่า "พี่ก็รู้ว่าหนูตัดพี่ไม่ขาด"


ถ้าใครได้อ่าน หรือหนูมาอ่าน
พี่อยากบอกว่า พี่ตัดใจไปแล้ว และรู้ดีว่าถ้าเราคืนเงินกัน พี่ก็ควรจะจบ และ
พี่อยากบอกว่า พี่รู้สึกได้เลยจริงๆเช่นกัน ว่าวันนั้นพี่ทำร้ายหนูแรงไป
พี่อยากบอกว่า พี่รู้สึกได้ ว่าหนูตัดพี่ไม่ขาดจริงๆ เป็นคนอื่น คงหนีไปแล้ว


มันแปลกดีนะ กลับมาคุยกัน อย่างคนเข้าใจกันมากๆ
แล้วเราก็กลับมาเจอกันอีก
แต่มันก็วนลูปเดิมๆอีกจนได้
หนูขอเงิน
พี่คาดหวัง
หนูเลี่ยง
หนูไม่ว่าง
และหนูไม่มาบ้านพี่อีกแล้วอยู่ดี
แล้วก็ทะเลาะกันอีก
แล้วเราก็เจอกันอีกเพื่อเปิดใจ

และเดือนนี้ คือเดือนที่เธอร้องไห้ต่อหน้าอีกครัง แล้วบอกว่า ปัญหาจริงๆทั้งหมด ที่เธอมาเจอไม่ได้
นั่นเพราะรูปหลานที่เธอส่งมาให้ดูบ่อยๆ นั่นคือลูกของเธอ
พี่รู้ความจริงแล้ว พี่โอเคมั้ย? พี่โกรธมั้ย?
ไม่นะ พี่รู้สึกดีที่เราคุยกันตรงๆ จะให้รับเป้นลูกจะยิ่งดีใจนะ

แล้วเราก็กลับมาเจอกันอีกครั้ง
เราสองคน ..... ไม่สิ ตอนนี้เป็นเราสามคน
พี่อยากบอกหนูว่า....
พี่สัญญาว่าจะทำให้น้องรับพี่เป็นพ่อให้ได้
หวังว่าเราจะอยู่กันสามคนได้

เดือนที่สิบสาม เรียนรู้ว่า .........เรารักกัน สามคน


.........................................

แต่เราก็ทะเละกันรุนแรงอีกครั้งจนได้
และทุกครั้งที่ทะเลาะ มันมีแต่ความประชดประชัน

"ถ้าหนูมีเวลา แล้วไปนอนกับพี่ได้คือจบใช่มั้ย งั้นพรุ่งนี้เจอกัน พี่อยากทำอะไร ที่ไหน แล้วแต่พี่เลย"

และมันก็คือเส้นทาง ก่อนที่เรามานอนกอดกัน ในโรงแรมแบบนี้

Blank

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
  • People Like This 2
Re: วันที่เราร้ายใส่กันจนสุด
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2021, 04:33:51 AM »
เรา… skimming วน 3 รอบ… นี่ตรูโง่หรือว่าโง่วะเนี่ย 55555

เอ้อ จะว่าไปตอนแรกเรานึกว่าผู้หญิงเขียนแหละ จะว่าไงดีล่ะ… ถ้าผู้ชายเขียนจะต้องเป็นคนยังไงอ่ะ อ่านนิยายหรอ? ผู้ชายอ่านนิยายด้วยหรอ ผู้ชายเค้าอ่านนิยายอะไรกันอ่า Light novel?  มุราคามิ? หรือดูหนังเยอะ? หรอ? อื้มมม… ? นึกไม่ออกแฮะ

แล้วๆ เคสคุมพี่เจ้าของโพสเป็นแนวเข้ามาหาความรัก แบบ “ความรัก” เลย ใน WLG เหรอ อื้ม… ? หรอ?

Anyway จากที่อ่านเราเข้าใจว่าพี่เจ้าของโพสกำลังติดสถานะ move on เป็นวงกลมนะฮะ ลึก ๆ … จริง ๆ ก็ไม่ได้ลึกนะ … นั่นแหละ พี่ยังอยากไปได้สวยกับพี่สาวคนนั้น บนพื้นฐานไอเดียนึงทำนองนั้นมั้ง ใช่ม้า…

รวบรัดตัดตอนเลยละกัน ถ้าพี่สาวคนนั้นบังเอิญมาอ่าน แรกเลย หนูว่าพี่ต้องตั้งสติใช้สมาธิหนัก ๆ คิดดี ๆ ว่าจะเอาไงกับตัวเองกันแน่ แล้วก็ทำไอ้ที่คิดมาดีแล้วนั้นไปเรื่อย ๆ อย่าปรี๊ดแตกหรือหยุดนะฮะ มีลูกแล้วด้วย พี่โตช้ากว่านี้ไม่ได้นะฮะ จะว่าไงดี ช่ายยย ชีวิตมันยาก เพราะงั้นถ้าพี่อยู่ในมัน เห็นมันและเป็นมันจริง ๆ พี่ควรจะ transcend มันได้แล้ว เข้าใจปะวะ แม่ม ยิ่งคุยกับคนไม่ค่อยจะรู้เรื่องอยู่ แบบ ก็ ใช่ฮะ ชีวิตมันยากอยู่แล้ว ปัญหามันก็เยอะอยู่แล้ว ในเมื่อ truth มันเป็นอย่างงี้จะบ่น หรือมีอารมณ์ด้านลบกับมันเหมือนมันควรจะง่ายทำไมอ่า พี่กำลังสูญเสียฟรีนะ ไม่ใช่พี่คนเดียวด้วย ลูกพี่ด้วย ถ้าแบก conditions ที่มีไม่ไหว แล้วดันโชคดีหาคนช่วยแบ่งเบาได้ก็คุยกับเค้าดี ๆ เถอะฮะ ตกลงแล้วก็ทำตามข้อตกลงนั้นดี ๆ ให้พาทนี้มันจบไปง่าย ๆ  หนูว่าปัญหามีรอเล่นกับพี่อีกเป็นแถวเลย

ส่วนพี่ผู้ชาย เราแอบสงสัยแฮะ… mention แบบมีนัยะแอบแฝงเอาไปแปลเองทั้งสองฝ่ายละกันนะฮะ จะว่าไงดีเราเจือกเยอะละ 5555 อย่าด่าเค้า จิตใจเค้าบอบบางง แงงง คือ พี่แบกไหวจริงหงอ? มันจะหนักมากเลยหนิเนาะ พี่ยืนอยู่ตรงไหนอ่าเครือ ๆ พ่อพระ? ไม่ใช่อย่างอื่นใช่มะ? ทำไมเราแอบเศร้าหว่า แต่ที่แน่ ๆ เราเสร่อมาเจือกอย่างโจ่งแจ้งเลยฮะ 5555 หนีดีกว่า ขอให้พี่ ๆ ไปจบลงที่ภาพที่มีความสุขกันทั้งคู่ละกันนะฮะ บะบายย~ **38**

lonelylin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 487
  • People Like This 77
Re: วันที่เราร้ายใส่กันจนสุด
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2021, 06:30:02 AM »
ดูจากเหตุการณ์ที่มันวนลูป... คงแก้ไม่ง่าย


ถ้าคบกันต่อไปแล้ว...ไม่มีความสุข...ก็แค่เลิกค่ะ :)


ไม่ต้องไปเสียดายเวลาหรือความสัมพันธ์ ...เพราะสุดท้าย มันก็เป็นไปไม่ได้...ถ้าอีกฝ่าย ไม่คิดแบบเรา ...




การพบเจอกัน ... เป็นเรื่องน่ายินดี...

Santa Cruz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 338
  • People Like This 130
Re: วันที่เราร้ายใส่กันจนสุด
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2021, 03:20:34 AM »
อ่านแล้วก็รู้สึกโคตรเศร้าเลย 14 เดือนกับการวนลูปไปมา. . .

แต่ผมว่า ท่านเจ้าของกระทู้มีคำตอบในใจอยู่แล้ว ว่าอนาคตจะเอาอย่างไร

และถ้ามองในแง่ดี แบบโลกสวย ผมว่าท่านเองก็คงมีความสุขไม่มากก็น้อย ที่ยังได้นอนกอดคนที่ท่านรัก ถึงแม้จะไม่ใช่ในฐานะคู่ชีวิตก็ตามที

แต่สิ่งที่มั่นใจได้เลยคือว่า ท่านยังไม่แม้แต่เฉียดเข้าไปในกลางใจของน้องเลยแม้แต่นิดเดียว และน้องมีบางอย่างที่ปิดบังท่านอยู่ (ซึ่งความจริงบางเรื่อง เราก็ไม่ควรไปรับรู้)


ปล. ท่านเขียนได้ดีมาก จากปัจจุบันย้อนไปอดีต แล้วกลับมาที่ปัจจุบัน คิดว่าคงใข่เวลาเขียนหลายชั่วโมง

ปล. ไม่ซีเรียสน๊าาา ไม่ซีเรียส..... ถถถถถถถ

Interstellar50

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
  • People Like This 0
Re: วันที่เราร้ายใส่กันจนสุด
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2021, 10:15:12 AM »
วนไปวนมา สุดท้ายต้องจากลากันไป
เริ่มต้นใหม่กับใครสักคนดีกว่าครับ