ตอบแบบคนที่ชีวิตเคยมีจุดสูงสุดของชีวิต และลำบากที่สุดในชีวิตมาแล้ว...นะคับ
พี่คงไม่เล่าว่า ประสบการณ์ที่พี่เจอมาเป็นอย่างไร บอกแค่ว่า
ชีวิตพี่ ถ้าเอามาเขียนหนังสือแบบ เพชรพระอุมา หรือ พล นิกร กิมหงวน
น่าจะได้หลายเล่มหลายตอนพอๆกัน
พี่อยากแนะนำน้องว่า
น้องต้องหาความรู้ที่เป็นความรู้เฉพาะทางมาเพิ่มเติมให้กับตัวเองคับ
ความรู้/การศึกษาเป็นสมบัติที่จะอยู่ติดตัวเราไปตลอดชีวิต ยิ่งถ้าเป็นงานวิชาชีพ ยิ่งดี
เพราะ การทำงานประจำนั้น มันไม่มั่นคง หากมีความรู้ทางวิชาชีพติดตัวไว้ ยังไงก็ยังเลี้ยงตัวได้
ทุกวันนี้ พี่ยังอยากซ่อมแอร์เป็น อยากมีความรู้เรื่องช่างเลย แต่หัวไม่ไปจริมๆ
อย่างพี่ ตอนพี่ลำบาก พี่ตัดสินใจไปเรียนต่อ ป.โท (ไม่มีคนส่งเรียนนะคับ หาเงินเรียนเอง)
จบโท พี่ไปเรียนต่อพวกโรงเรียนที่สอนการนำเข้า-ส่งออก
จากนั้น พี่ไปเรียนเอาวุฒิผู้ชำนาญการฯศุลกากร
ทุกวันนี้ วุฒินี้มีคนจบประมาณ 2,xxx คน ทั่วประเทศ
อะไรที่คนรู้น้อย เป็นวิชาชีพ นั่นเป็น rare item ที่สายงานทางธุรกิจต้องการคับ
จากคนที่ไม่มีงานทำ จากคนที่ถูกฟ้องล้มละลาย มีเงินกินวันละ 100 (กิน 3 มื้อ) เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน
ต่อมาก็เริ่มต้นด้วยเงินเดือน 45K จนนี่ผ่านมา 13 ปี ตอนนี้พี่ 6 หลักกลางๆล่ะคับ
ขอให้น้องอดทน น้องจะผ่านพ้นอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิตได้คับ
อยากฝากน้องอีกประโยคนึงว่า " ความสุขอยู่กับเราไม่นาน จงอย่าประมาท ความทุกข์ก็อยู่กับเราไม่นาน จงอดทน "
หวังว่าน้องจะประสบความสำเร็จในชีวิตนะคับ