คัดลอกมาจาก ดังตฤณ
• ถ้าจะทำอะไรให้ใคร
ท่องไว้เลยครับ "อย่าหวังผลตอบแทน"
แล้วจะมีความสุขกับการให้
ไม่ว่าจะให้ไปในวงกว้าง
หรือให้เฉพาะบุคคล
เพราะคุณจำเป็นต้องให้อะไรดีๆกับใครสักร้อยคน
ถึงจะมีหนึ่งคน
ที่เขาจำคุณได้ว่าเคยมีบุญคุณกับเขา
และอาจต้องให้เป็นพันหรือหลายพันคน
ถึงจะมีสักคน
ที่อยากตอบแทนบุญคุณคุณอย่างเหลือเกิน
ธรรมชาติของมนุษย์เป็นอย่างนี้
ถ้าทำดีกับคนๆเดียว
พึงหวังว่าเราจะทำบุญแบบให้เปล่า
และอาจคาดหวังไว้แบบเผื่อใจด้วยว่าคนที่เราดีด้วย
วันหนึ่งอาจสนองคุณด้วยการทำร้ายเรา
และนั่นอาจเป็นเพราะเรา
เคยทำเช่นนั้นมาก่อนโดยไม่รู้ตัว
และจำไม่ได้แล้ว
ตั้งแต่อดีตกาลนานไหน
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
• กรรมที่ลืมบุญคุณคน
ก็จะทำให้เป็นผู้ไม่ได้รับความเห็นใจช่วยเหลือในยามลำบาก
แต่หากถึงขั้นเนรคุณได้นี่
จะต้องโดนโทษหนัก
ทำอะไรต่อให้เจริญแค่ไหน
ก็จะกลับตกต่ำอย่างไม่คาดฝัน
• ธรรมชาติพิเศษของการใช้หนี้บุญคุณ
มีอยู่ประการหนึ่ง
คือยิ่งหนี้สูง
แล้วคุณใช้คืนอย่างสมน้ำสมเนื้อ
คุณจะได้คะแนนบวกมหาศาล
น้ำหนักของกรรมดี
ที่คุณทำกับพ่อแม่
จะให้ผลชัดเป็นความไม่ตกต่ำ
แม้ชาติปัจจุบันถูกกรรมเก่าร้ายๆเล่นงาน
ก็จะได้รับความช่วยเหลือ
ผ่อนหนักให้เป็นเบาตามสมควร
• การอุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่
หรือผู้มีพระคุณให้อยู่สุขสบาย
จะเป็นตัวตั้ง
เป็นหลักประกันว่าทั้งชาตินี้และชาติหน้า
จะเจริญรุ่งเรืองในการทำมาหากินยิ่งๆขึ้นไป
กับทั้งเป็นผู้ได้รับมรดกจากผู้หลักผู้ใหญ่
ไม่ถูกแย่งชิงหรือมีเหตุให้เสียมรดกไปอย่างไม่สมควร
: นี่เป็นหลักการสะท้อนให้เห็นว่า
ทุกคนเป็นทายาทแห่งกรรมของตน
ทุกคนจะเป็นผู้รับมรดกที่ตนสร้างทำไว้อย่างเป็นรูปธรรม
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
ถาม - ทำไมคนบางคน "ทำคุณคนไม่ขึ้น !?"
แล้วเจอแต่มิตรท่ีไม่ค่อยจริงใจ
และโดนหักหลังบ่อยคะ ( T_T) //
ตอบ #
: ถ้าดวงจะเป็นคนทำดีไม่ขึ้นจริง
ก็ต้องเข้าใจก่อนครับว่า
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
การทำดีไม่ขึ้น ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป
หรือทำบุญกับใครเขาไม่กตัญญู
ไม่มีแก่ใจมาสนองพระคุณ
แต่กลับมาแทงข้างหลัง
หรือเล่นงานกันตรงๆด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง
ก็เพราะเราเคยร้ายแบบเดียวกันกับผู้มีพระคุณ
จะเป็นพ่อแม่ ครูบาอาจารย์
หรือคนที่ให้ความช่วยเหลือก็ตาม
ทำกับเขาอย่างไร
ดวงก็ออกมาแนวนั้น ณ ที่ที่กรรมเผล็ดผล
บางคนแค่ต้นชีวิต
บางคนครึ่งชีวิต
บางคนก็ทั้งชีวิต
แต่ต่อให้เป็นเรื่องจริงและเรารู้อยู่กับตัวก็ช่างเถิด
มันเป็นของเก่า เราทำบุญใหม่ก็ได้บุญใหม่
ได้ใช้หนี้กรรม ได้ทำให้ใจพัฒนาขึ้น
คนอื่นจะเป็นยังไงกับเรามันเรื่องของเขา กรรมของเขาแล้ว
ยิ่งถ้าเรารู้จากประสบการณ์ตรงว่าเจอคนกตัญญูบ้าง
เจอคนเนรคุณบ้าง สลับๆกันครึ่งต่อครึ่ง
อันนั้นก็สะท้อนว่าเราเคยเป็นคนธรรมดา
ที่นึกได้บ้าง นึกไม่ได้บ้าง ว่าใครเป็นผู้มีพระคุณที่ควรทดแทน
เราก็รับกรรมที่สมกันตามธรรมดาแล้ว
" ทำดีถึงไม่ได้ดี ก็รู้สึกดีครับ ! "
เราได้รางวัลแน่ๆจากใจตัวเองอยู่แล้ว
มือที่หยิบยื่น ปากที่พูดช่วย ด้วยจิตที่คิดให้
ถ้าไม่สว่างขึ้น ไม่รู้สึกดีขึ้น ก็ผิดธรรมชาติไปหน่อยล่ะ
เล็งแค่นี้พอแล้ว เรื่องอื่นไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรเลย
ใครก็ตามที่เนรคุณต่อคนที่เคยช่วยเหลืออุปการะ ไม่ว่าด้วยคำพูด ใจ กาย
ณ วันนี้เค้าได่ก่อกรรมของตัวเองแล้ว ไม่ต้องไปทำอะไรเค้าหรอก นรกอยู่ในใจไม่ช้าก็เร็วจะได้เห็น
แต่......หากคนๆนั้นเนรคุณซ้ำๆซากๆแม้ให้โอกาสแล้ว .....แสดงว่าคนๆนั้นไม่มีความละอายใจ....เลวโดยสันดาน