ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนจบของความประทับใจ Re: ส่งการบ้านครั้งแรก นัดเดทกับพี่คนหนึ่ง ที่เซนทรัล  (อ่าน 4609 ครั้ง)

Sphynx

  • VERIFY USER
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 860
  • People Like This 282
  • It's good to stand on my own two feet
 **14**
เรื่องราวต่อจากตอนที่แล้ว   Re: ส่งการบ้านครั้งแรก นัดเดทกับพี่คนหนึ่ง ที่เซนทรัลลาดพร้าว
ความเดิมตอนที่แล้ว
“สวัสดีค่ะ  นังหนู  ปุ๊กปิ๊กนะค่ะ    หนูก็เพิ่งหัดเขียนหัดพิมเลยทำให้มีพี่คนหนึ่งนัดเจอ”  
******************************************************************************
20 มีนาคม  ตอนเที่ยง   พี่เขามาขอเบอร์ประสานงานติดต่อ   ส่วนหนูก็สอบตอนเช้าเสร็จเที่ยง   (อุตส่าห์แต่งหน้าไปมอแต่อากาศร้อนมาก)    หนูเลยกลับบ้านไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน  เปลี่ยนชุด  กินข้าว   แต่งหน้านิดหน่อย ตอนนั้นเวลาก็ล่วงเลยบ่ายสองกว่าล่ะ   จึงรีบออกเดินทางจากบ้านไปเซนลาด   
   พี่เขามาถึงก่อนค่ะ  เขาเพิ่งไปจิบกาแฟมา   หนูก็นั่งรถไปคุยไลน์เป็นเพื่อนเขา   ในใจหนูวางแพลน เปิดดูในเว็บหาของกินไว้ล่วงหน้าล่ะ    แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามเขาว่า  “อยากทานไรหรือจะพาไปไหนดี  หนูตามใจพี่เลย หนูยังไงก็ได้  เสมอมาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาสองชั่วโมง”
เขา  “ตามใจหนูเถอะ  หิวมั้ย  พาไปไหนแล้วจะไปเหรอ  (*0*)   /  ไปเดินบีทูเอสกับตะเองก็ได้”
หนู  “เย้ๆ ได้ข่าวตรงนั่นมีร้านกาแฟดอยช้าง  เด๋วสั่งเอสเปรสโซ่ดับเบิ้ลซอตให้พี่กิน  หรือ  ลาเต้ใส่อีคั่วม่ะ”   ฮึฮึ
เขา “พอดี ใจสั่น กินไปแล้ว”   
หนู  “พี่ชอบอ่านหนังสือแนวไหนค่ะ   สืบสวนลึกลับเหรอ”  ~~~เดา
พี่  “อื้ม  /  สาวแถวนี้นุ่งกางเกงสั้นจู๋จัง”
หนู   “แฟชั่นค่ะ  จะใส่ขายาวหรือขาสั้น  ถ้าเจอขาอ่อน มันก็ดึงใจป่ะ?    อากาศมันร้อนเลยต้องใส่สบายๆ”
พี่   “ไม่บอก”
หนู  “พี่คิดว่าจะเจอหนูสภาพไหน”   - -?
พี่  “ยากจะเดา”

   หนูถึงเซนลาดตอนบ่ายสามนิดๆ   รีบเดินเข้าห้างไปเจอเขา  เขาก็บอกหนูนะว่าเขาใส่เสื้อสีอะไร  เขายืนรอหนูค่ะ
หนูก้าวเดินอย่างรีบเร่งสายตาจ้องมองหาเขา   ในที่สุดสายตาหนูก็ไปเจอเขา    เขาใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงทรงตรง  รองเท้าหนัง  มีกระเป๋าสะพายข้าง    สวมใส่แว่นตา    นับว่าเขาเป็นคนที่มีบุคลิกภาพดี+แต่งตัวดี= สร้างความเชื่อมั่น
   หนูเห็นเขากำลังก้มหน้ากดมือถือหาหนู   หนูเลยเดินไปข้างๆ  แล้วทักว่า  “......”    ยิ้มให้เขา
แล้วเราก็เจอกันเสียที   วินาทีแรกเจอมันแทบ...  สำหรับหนู    อยากสแกนพี่เขา 555
   การแต่งกายของหนูวันนั้น     >ผู้หญิงสวมชุดเดรสสีน้ำตาลอ่อน คอวี แขนกุด ยาวเท่าหัวเข่า  รองเท้าส้นเตารีดสีดำ   รวบผมสั้นมัดสูงปล่อยผมหน้าม้า   สะพายกระเป๋าใบเล็ก<   ~โปรดอย่ามองมุมก้มหรือมุมเสย
   จากนั้นเราก็เดินไปด้วยกัน  ไปร้านบีทูเอส    ระหว่างมีผู้คนมากมายเดินสวนกับเรา  จนบางทีมีไฟฟ้าสถิตโดนผิวหนังพี่เขาบ้าง      หนูถามเขา  เขาบอกหนูว่า   เขาชอบใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์มากกว่า
   หนูเดินนำหน้าเขาเข้าบีทูเอส   สิ่งแรกที่หนูเปิดเผยความสนใจก็คือ  เดินไปดูหนังสือมุมจิตวิทยาความรัก   เปิดอ่านนิดหน่อย  แล้วชวนเขาไปดูหนังสืออีกมุมหนึ่งคือ  ภาษาต่างประเทศ        หนูก้มมองกวาดสายตาหาหนังสือที่เป็นคู่มือการเรียน   หนูเดินไปดูพวกพจนานุกรมภาษา  เขาก็เดินตามมานะ   หนูหยิบเล่มนี้ทีโน้นที  หนูเลยถามเขาไปว่า
“พี่คิดว่า  หนูเรียนด้านไหนอ่ะ”   เขาตอบว่า  “มนุษยศาสตร์เอกภาษา”
^___^
หนูก็เริ่มแบ่งปันความคิดเห็นกับเขา      หนูเรียนด้านภาษา     พี่เขาก็รู้ภาษา    หนูเลยบอกให้พี่เขาช่วยหนูทำการบ้านหน่อยพวกเขียนเรียงความอะไรแบบนี้เพราะหนูไม่แม่นไวยากรณ์     พี่เขาแค่บอกว่า  ส่งมาให้เขาตรวจทานได้     
หนูพูดว่า    “หนูเข้าร้านหนังสือบ่อยค่ะ มาเดินดูหนังสือที่อยากได้จะได้ซื้อตอนงานหนังสือ  กำลังเก็บตังชอปปิ้ง     นี่ก็สนใจพจนานุกรมidiom มันสำคัญต่อการเรียน”
เขา “ให้พี่ซื้อให้ไหมล่ะ”             หนู    “ไม่ ดีกว่าค่ะ  เกรงใจ”       ~วางฟอร์ม~
เขา “แน่ใจ?  ไปงานหนังสือจะลดเยอะเหรอ”
หนูเลยยิ้ม   “ถ้าพี่ซื้อให้หนูจะได้ไม่ต้องซื้อเอง”    แล้วพี่เขาก็หยิบพจนานุกรมมาให้หนู   จะไปจ่ายตัง
เขา  “ไปหาอะไรกินกันนะ  หาที่นั่งคุยกัน”
หนู  “เดี๋ยวค่ะ    หนูอยากได้อีกเล่มนึงอ่ะ  ใฝ่ฝันมานานล่ะ  อยากได้ๆ”    แล้วหนูก็พาเขาไปมุมหนังสือสุขภาพ    เลือกเล่มที่อยากได้  พอเห็นเห็นปกหนังสือเขาก็หัวเราะนิดๆ ยิ้มมุมปาก  บอกว่า  “อ่านแล้วทำให้ได้จริงๆนะ”
เราเดินจะไปจ่ายตังค่าหนังสือด้วยกัน         “สองเล่มราคา  370 บาท”   แล้วเดินไปให้พนักงานห่อปกหนังสือให้   พี่เขาช่วยถือถุงหนังสือให้หนูตลอดทาง   
 เราสองคนก็คิดไม่ออกหรอกว่าจะกินร้านไหนดี    หนูเลยเสนอความคิดไปว่า   หนูอยากลองชิมขนมมาการอง  (เอ๊ย  หนูค้นหาในเว็บว่า มาการองอร่อย   ก็มีขายในเซนลาด)  มันรสชาติเป็นยังไงเห็นเพื่อนคนหนึ่งบ่นอยากกิน     แต่หนูรู้ว่ามันแพง ชิ้นนึงตั้งสามสิบสี่สิบอ่ะ   ไม่รู้ส่วนผสมอันไหนมันหายากเหรอ   
เขาบอกจะพาไปซื้อมาการอง    หนูเลยบอกเขาว่า    อยากกินนะแต่อยากเอากลับบ้านด้วยเผื่อแม่กิน    ไว้เราค่อยเดินมาซื้อก็ได้  ตอนนี้หาที่นั่งก่อนเถอะ
เราพากันขึ้นบันไดเลื่อนจากชั้นจีขึ้นไปถึงศูนย์อาหาร     บันไดเลื่อนก็ไมได้กว้างมากอาจจะมีบางทีโดนตัวกัน
หนูก็เฉยๆอะค่ะ    พี่เขาก็ถามอีกนะว่า  อยากกินไร    สเวนเซ่นไหม   แบคแคนยอน ไหม       (หนู=ส่ายหน้า)

   เรากันมานั่งกิน   ขนมและเครื่องดื่ม  ที่ร้าน....   (ขอโทษนะค่ะพยายามนึกชื่อร้านแล้วแต่นึกไม่ได้  หรือว่าฉันหลงใหลกับของกินกับคนตรงหน้าจนลืมสังเกตชื่อร้าน  อย่าว่าหนูนะ   โอ้ย  ติดค้างในหัวสมองต้องให้เขาพาไปอีกทีไหมเนี่ย    ***ถ้าลองเดามัวจริงๆคงเป็น ร้าน something sweet  แหละ  เดี๋ยววันนี้ไประลึกที่หน้าร้านอีกที

   พี่เขาบอกให้หนูเดินไปสั่งขนมเลย   ส่วนตัวเขาขอแค่   อเมริกาโน่ร้อนสักแก้ว   ส่วนหนูกิน  ชอคโกแลตเย็น
แต่หนูก็เกรงใจเขาอยู่ดีเลยชวนเขาไปเลือกขนมด้วยกัน    ในใจหนูแค่มองแว๊บเดียวก็เลือกได้ล่ะ    เขาหันมามองหนูนะ   หนูให้เขาเลือกขนมให้หนูทาน  เขาเลือกเป็นคัพเค้กสองชิ้น   แล้วถามหนูว่า  พอไหมไม่พอค่อยสั่งอีก      หนูเลยสั่งเค้กชอคโกแลตที่เล็งไว้นานอีกชิ้น       แล้วเราก็มานั่งรอเครื่องดื่มและขนม     
   ร้านนี้บรรยากาศดี  เงียบ  มีแค่เราสองคนเป็นลูกค้า    เมื่อขนมพร้อม  เครื่องดื่มพร้อม  เราก็เริ่มลุยทานกันเลย    คุยไปทานไป ช่างมีความสุข  แต่หนูไม่ลืมข้อจำกัดเรื่องเวลาของเขา...
   ถ้าถามว่าใครพูดเยอะกว่ากัน  ก็คงเป็นหนูอ่ะ   หนูพยายามชวนพี่เขาคุยตลอด      เขาเป็นผู้ฟังที่ดีมาก   หนูว่ามันเหมือนการคุยแบบปรับทัศนคติเข้ากันหา       อื้ม...ด้วยวัยที่ต่างกัน     
   ถ้าย้อนกลับไปข้อสงสัยของพี่เขาที่พูดว่า  “ ตัวเองจะคุยกะเค้าได้เหรอ เค้าอายุมากกว่าหลายขุม  ไปเดินห้าง อายใครป่ะ  ”
   คำตอบมันมีอยู่ในใจหนูอยู่แล้วแหละ   “หนูคุยได้   ไม่รังเกียจ  เคมีเข้ากับคนที่อายุมากก่าค่ะ    เดินด้วยกันไม่ต้องกลัวนะค่ะ  หนูไม่กัดหรอก  ”
   กระซิบบอก > ปุ๊กปิ๊กชอบคนอายุแก่กว่า    ไม่กินเด็กไม่กินเพื่อน    เคยมีแฟนอายุมากกว่าตัวเอง หนึ่งรอบอายุ
หนูเกิดช้าไปใช่ม่ะ  หรือว่า   คนนั้นเขาเกิดมาเพื่อคนอื่น <
   หนูคุยกับพี่เขา   หนูก็เล่าให้เขาฟังนะว่า  “ก่อนมาเจอพี่  หนูคุยกับ ”พี่กัปตัน” ว่าหนูจะมาเจอพี่   เจอกันก็ดีจะได้รู้ว่ามีตัวตน    หนูกลัวพี่ทำมิดีมิร้าย”
พี่เขาเลยถามว่า  กัปตันไหน   เอาไอดีเว็บมาหน่อย  หนูก็ให้ไปนะ     กลายเป็นว่า   โลกเลยแคบลงเลย  ฮ่าๆๆๆ
พี่เขาก็เลยทักไลน์พี่กัปตันไป   แต่พี่เขาอาจจะยังไม่เห็นแหละ
   ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง    รู้สึกเหมือนถูกครอบด้วยแสงอุตตร้าไวโวเลต
   นั่งกินไปคุยไปจนขนมใกล้จะหมดล่ะ    จำได้ว่าพี่เขากล่าวว่า   “พี่เขาดีใจที่เจอหนูเพราะหนูไมได้นัดใครในเว็บ  จึงมีเขาเป็นผู้โชคดีคนแรก”    (เอ่อ...หนูก็ดีใจค่ะ)
   ระหว่างคุยกันก็มีเรื่อง ขำขำ  อยู่เรื่องหนึ่ง     คือว่าเราสองคนก็มองวิวนอกร้านไป   แล้วเห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่เสื้อแบบเว้าหน้าเว้าหลัง    พี่เขาก็หันมาพูดกับหนูประมาณว่า  “  เขาไม่ชอบ “
แต่หนูพูดว่า     “ก็ช่างเขา   หนูก็อยากใส่เหมือนผู้หญิงคนนั้นนะเด๋วรอผอมก่อน”   พี่เขาก็หัวเราะหนู
แล้วพี่เขาก็บ่นว่า      “วัุกร์ เสาร์ อาทิตย์  คนเยอะเนอะ  เดินเต็มไปหมดเลย”
(หนู =  O-O)     “ค่ะ  คนเยอะค่ะ     ค่ะ วัน...ศุกร์...คนเยอะ”
แล้วพี่เขาก็ตั้งสติอีกที   “วันนี้ไม่ใช่วัุกร์นิหว่า 55555”
หนู    “สมองเริ่มอัลไซเมอร์แล้วนะค่ะพี่”   ก๊ากกกก
   ดูเวลาก็ห้าโมงเย็นล่ะ  ถึงเวลาที่ต้องอำลากันแล้วล่ะสิ     เขาเดินไปจ่ายตัง    มื้อนี้ก็หมดไป  3xx บาท  พี่เขาเลี้ยงค่ะ   ในใจหนูบอกว่า      อิ่มจังตังอยู่ครบ
   เราเดินออกจากร้านด้วยกัน  แล้วพี่เขาก็ถามว่า   กลับยังไง      หนูเลยตอบว่า     “รถเมล์แหละค่ะ  ไม่ต้องห่วงนะค่ะ  หนูชอบเที่ยว  ไปไหนไปเองคนเดียวเป็น”       
   เราลงบันไดเลื่อนด้วยกัน   บางจังหวะก็มีโดนตัวกันบ้าง   เนื่องจากหนูเซไปชนเขา       
หนูเลยถามเขาว่า    “พี่ไปธุระแถวเจริญกรุง  ให้หนูไปเป็นเพื่อนไหม   หนูจะได้ไปเดินเอเซียทีค”
   จากนั้นเราก็เดินไปด้วยกัน    ฝ่าฝันผู้คนที่เบียดเสียดกันขึ้นสะพานลอย   เราเดินไปโดยสาร MRT     เพื่อไปจตุจัตร      เนื่องจากหนูมีบัตรของmrtอยู่แล้วเลยมุ่งหน้าแตะบัตรก่อนเขา  ปล่อยให้เขาซื้อเหรียญโดยสาร     
เราโดยสารmrtแค่ป้ายเดียวมายังจตุจัตรเพื่อต่อ BTS      ระหว่างทางเดินที่แม่ค้าขายของหน้าสวนจตุจัตร    หนูเหลือบไปเห็น   ไอ้หลอดเล็กที่เอาไว้ร้อยหูฟังป้องกันการพังง่าย    หนูเลยชวนพี่เขาแวะ
   หนูตั้งใจจะซื้อไว้   เลยถามแม่ค้าว่า  มันต้องใช้กี่ถุง  เพราะแม่ค้าแพคถุงละ 200 เม็ด     ถุงละสามสิบเก้าบาท   สามถุงร้อยเดียว      แม่ค้าบอกใช้สองถุง   หนูเลยซื้อสามถุงเลย   จนพี่เขาถาม  ทำไมไม่เอาแค่สองถุงอ่ะ   หนูเลยอธิบายไปว่า    สามถุงคุ้มกว่า   เหลือมาไว้เผื่อขายต่อเพื่อน    แล้วหนูควักเงินตัวเองจะจ่ายแล้วแหละแต่พี่เขาบอกไม่ต้อง   พี่เขาเลยได้จ่ายให้หนูค่ะ
   เราสองคนจะขึ้นbts เลยต้องไปแลกเหรียญค่ะ    ค่าโดยสารคนละ 42 บาท     พี่เขาก็ไปแลกมาแหละ    ไอ้เศษอีก สี่บาท  หนูบอกเขาว่า  หนูมีค่ะ หนูออกเอง  แล้วหนูก็ซื้อบัตรโดยสารของเราสองคน      พากันเดินขึ้นบันไดรอรถไฟฟ้าแต่มันกำลังออกไปแล้วเลยต้องรอคันต่อไป    พี่เขาเลยหันมาพูดว่า    “ดีแล้วจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น”
   เราสองคนนั่งข้างๆกัน   แล้วพี่กัปตันเขาก็ตอบกลับทางไลน์มาแหละ    พี่กัปตันเลยเข้าใจเรื่องราววันนี้เป็นอย่างดี     เหมือนเขามีหูทิพย์ตาทิพย์เลยเนอะ
   หนูตั้งใจจะมาเขียนการบ้านในเว็บนะ    พี่เขาบอกให้เขียนดีๆ
   ที่สยามก็ต้องเปลี่ยนขบวนรถ   คราวนี้คนแน่นมาก    หนูให้พี่เขาไปยืนพิงผนังรถ  ส่วนหนูยืนเกาะเสาหรือเอื้อมมือไปจับราว     บางจังหวะของรถก็กระชากจนหนูเซไปโดนพี่เขาเต็มๆ   หนูยืนกึ่งหันหลังให้เขา   ตั้งสติได้หนูก็กลับมายืนตรงเหมือนเดิม       มือของพี่เขาก็มาลูบหางผมหนูรู้สึกได้
   เมื่อเราถึงสถานีสะพานตากสิน   นั่นคือเวลาที่ต้องอำลากันล่ะ    เราเบียดเสียดคนออกจากขบวนรถ     หนูนำพี่เขาออกจากขบวนรถโดยที่มือพี่เขาเกาะเอวหนู      แล้วพี่เขาก็เดินส่งที่ใต้สถานี    ถามว่าจะไปยังไงต่อ  ไปกับใคร
หนูเลยตอบว่า    ไปเอเชียทีคก็ง่ายๆมอไซค์หรือรถเมล์แหละ    ไปคนเดียวจิ    (ถ้าพี่เขาสังเกตหนูพยายามกดมือถือโทรหาเพื่อนที่บ้านอยู่แถวเจริญกรุง)
   พี่เขาเดินมาส่งหนูเกือบจะพาหนูข้ามถนนล่ะ    สุดท้ายพี่เขาพูดกับหนูว่า
“ยังไม่อยากจากกันเลย   อยากหอมแก้มก่อนจาก   แต่นี่มันที่สาธารณะ   ไม่เหมาะสม  ”   
หนู  ^___________^   “ขอบคุณค่ะ  ไปก่อนนะค่ะ”
แล้วเราก็เดินจากกัน......
อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ  พี่เขาเดินกลับหาหนูด้วยแหละ....กรี๊ดดดด
~พี่เขาเอาถุงหนังสือมาให้ค่ะ    แหม   หนูปล่อยให้เขาถือตั้งแต่ซื้อจนจากลา  แล้วหนูก็ลืมเสียเอง   น่าตีก้นจังเลยเนอะ~
 **02**
รู้จักฉันเท่าที่ฉันอยากให้รู้จัก

kaptan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,505
  • People Like This 1734
        อ่านการนี้พี่รู้สึกเหมือนเป็นแมลง...อะไรดีหว่า..บินไปกับน้องและพี่คนนั้นด้วยจริงๆ
แม้พี่ไม่เคยเจอน้องแต่ก็เห็นรูปจากไลน์บ้างแล้ว พี่เคยเจอพี่คนนั้นเลยคุ้นลักษณะท่าทาง พี่คนนั้นได้
การบ้านน้องละเอียดจนเห็นภาพทุกก้าวเดินเลยล่ะ

       เวลาคนเรารู้สึกดีๆ ต่อกันวันเวลามันก็มักผ่านไปเร็วแบบนี้แหละนะ พี่ดีใจด้วยนที่น้องเจอพี่ที่น่ารัก
และดีใจกับพี่คนนั้นที่เจอน้องน่ารักเช่นกัน ขอให้มิตรภาพจงยั่งยืนครับ
ถ้าคุณน่ารัก จริงใจ คุณคือเป้าหมายของเรา

rabbit

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 69
  • People Like This 4
เขียนการบ้านได้ดี ทุกตัวอักษรมีความสละสลวย **39** **39** **39**
ยิ่งเดินตาม ยิ่งหายไม่เจอ

NongMoMayss

  • VERIFY USER
  • Jr. Member
  • *
  • กระทู้: 97
  • People Like This 2
  • มาลองคุยกันนะค้าบบบ
น่ารักมากเลย ยินดีด้วยนะค่ะที่ได้เจอคนดีๆ ^_^

 41 **36** **38**
สาวอ้วนหน้าหมวยหาเพื่อนคุยค้าบบบ

สนใจลองแอดมาคุยกันได้นะคะ

wat012

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 584
  • People Like This 576
ในช่วงเวลา "ที่เงินหายากขึ้น"

สิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ "การหลอกลวงที่มากขึ้น"

สิ่งที่ตามมาอีกอย่างหนึ่งของการรับงานของน้อง ๆก็คือ "การต่อรองที่เอาเปรียบมากขึ้น"

ขอให้น้อง ๆทุกคนมีโชคดีทุกคน "นะครับ"

PartB

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 126
  • People Like This 14
...ตามอ่านการบ้านของน้องปุ๊กปิ๊ก แล้วรุ้สึกว่าทั้งน้องและพี่ที่ไปด้วย มีความสุขในเดทครั้งนี้...

...หลังจากนี้คงมีพี่ๆหลายคน อยากไปกับน้องนะครับ แล้วนำการบ้านดีๆมาเขียนอีกนะครับ...

 **36**

Like...

_ple_

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,227
  • People Like This 877
  • คุยกันมะ
เป็นการบ้านที่น่ารัก และ เขียนเก่งมากๆ เลย ค่ะ ^^

 **36**
...ข่าวลือถูกสร้างขึ้นโดยคนที่เกลียด ถูกส่งต่อโดยคนที่ไม่มีความคิด ถูกเชื่อโดยคนที่หูเบา...

Sphynx

  • VERIFY USER
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 860
  • People Like This 282
  • It's good to stand on my own two feet
พี่กัปตัน พี่wat012 พี่rabbit พี่Nongmomayss พี่PartB พี่ple1983
 **02**

วันนี้หนูได้คำตอบของ ชื่อร้านได้แล้วค่ะ

ร้าน"Pandora .... ชั้นสี่ เซนทรัลลาดพร้าว"

เป็นร้านเล็กๆ ขายเครื่องดื่ม และ ขนมหวาน

เมื่อมาถึงร้านแล้ว  ก็ขอเก็บความประทับใจอีกครั้ง

ด้วยการนั่งทาน    เค้กชอคโกแลต คู่กับ ชาไทยเย็น   
ที่โต๊ะตัวเดิม ซึ่งแตกต่างกันด้วย วัน เวลา คน

ก็นั่งทานไป เล่นมือถือไป คิดอะไรนั่งอมยิ้มคนเดียว

 **39**




รู้จักฉันเท่าที่ฉันอยากให้รู้จัก

finding

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 676
  • People Like This 112
  • You're in my days and in my heart always.
ชั้นเรียนรู้ที่จะให้คนอื่นไม่ใช่เพราะชั้น มีเหลือมากมาย แต่เรียนรู้ที่จะให้เพราะ รู้ดีว่า “การไม่มีมันเป็นอย่างไร?”

Sphynx

  • VERIFY USER
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 860
  • People Like This 282
  • It's good to stand on my own two feet
อบอุ่นจัง  **36** **36**

ค่ะ   หนูรุ้สึกอบอุ่นในหัวใจ 
   พี่เขา "น่ารักมาก"
 **39**
รู้จักฉันเท่าที่ฉันอยากให้รู้จัก